“เกิดเรื่องใหญ่? เรื่องอะไรหรือ?”
ดวงตาของหยุนหว่านหนิงหดเกร็งขึ้นมาทันที
แต่เสวียนซานเซียนเซิงไม่เปิดโอกาสให้มังกรตาเดียวได้พูด ใช้มือข้างหนึ่งลากเขาไปโยนทิ้งไว้ข้างหลังทันที "ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรนักหรอก ดังนั้นฟังเรื่องของข้าก่อนเถอะ!"
"เจ้านี่มัน....."
มังกรตาเดียวเพิ่งจะอ้าปาก ก็เห็นเสวียนซันเซียนเซิงชี้มือใส่ "นี่เจ้าคิดจะแทรกแถวอย่างนั้นสินะ?"
"เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าข้ามาก่อน! ข้ายังพูดไม่ทันจบเลยนะ ถ้าเจ้าคิดจะแทรกแถวล่ะก็ ข้าจะไม่เกรงใจเจ้าแล้วนะ! ไสหัวไปรออยู่ทางโน้นไป๊! "
เขาผลักมังกรตาเดียวออกไปอย่างไม่เกรงใจ
มังกรตาเดียวอ้าปากกว้าง พูดบางอย่างด้วยท่าทางร้อนใจ
แต่เขากลับไม่สามารถส่งเสียงอะไรออกมาได้เลย!
กลับกัน ท่าทางที่ดูกังวลร้อนรนใจของเขา ยิ่งทำให้เขาดูเหมือนลิงกอริลลามาก ๆ!
ท่าทางที่ดูน่าตลกนั้น ทำให้พวกหยุนหว่านหนิงหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่
มังกรตาเดียวเพิ่งมารู้ตัวเอาทีหลังว่า ตอนนี้เขาถึงกับกลายเป็นคนใบ้ไปแล้ว? !
เขามองไปที่เสวียนซันเซียนเซิงด้วยสีหน้าตื่นตระหนกสุดขีด..... จากนั้นค่อยปากอ้าตาค้าง ชายชราคนนี้แค่ชี้นิ้วใส่ เขาก็กลายเป็นคนใบ้ไปเลย? !
ชายชราคนนี้ เป็นเทพเซียนอย่างนั้นรึ? !
เมื่อมีเทพเซียนอยู่ตรงหน้า มังกรตาเดียวก็ไม่กล้าโอหังอีกต่อไป จึงทำได้แต่ยืนนิ่ง ๆ อยู่อีกด้านด้วยสีหน้าหมองหม่น รอให้เสวียนซันเซียนเซิงพูดจบ
เมื่อเห็นว่าเขาหุบปากตัวเองอย่างเชื่อฟัง เสวียนซันเซียนเซิงก็แค่นเสียงในลำคอเบา ๆ
“นังหนูหว่านหนิง เจ้าทำใจได้ที่เห็นข้าซึ่งอายุปูนนี้แล้ว ก็ยังต้องอยู่โดดเดี่ยวลำพังไปจนแก่ตายอย่างนั้นหรือ?”
เสวียนซันเซียนเซิงคว้าแขนเสื้อของหยุนหว่านหนิง ก่อนจะบีบน้ำตาด้วยท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจ "ความรู้สึกของคนที่ต้องกอดหมอนนอนหนาวอยู่คนเดียว เจ้าคงไม่เข้าใจสินะ!"
"ข้าเข้าใจ"
“ไม่! เจ้าไม่เข้าใจ!”
"ข้าเข้าใจจริง ๆ!"
“เจ้ามีสามี ทั้งยังมีลูกชาย เจ้าเข้าใจกับผีน่ะสิ!”
เสวียนซันเซียนเซิงยั้งใจไม่ไหว สบถคำหยาบคายออกมาประโยคหนึ่ง
หยุนหว่านหนิง: "...โปรดใส่ใจกับภาพลักษณ์ของตัวเองด้วย ท่านเซียนเฒ่า"
นางถูกไอ้ชาติหมาแซ่โม่นั่นสั่งกักบริเวณตั้งนานขนาดนั้น ทำไมนางจะไม่เข้าใจล่ะ? !
เสวียนซันเซียนเซิงลูบ ๆ ปลายคางตัวเอง "คนงามผู้นั้นช่างดึงดูดสายตาของข้าจริง ๆ! ไม่สู้ให้ข้าวาดรูปออกมาสักรูป พอเจ้ากลับไปเมืองหลวงแล้ว ก็ช่วยข้าตามหาคนสักหน่อยดีหรือไม่?"
หยุนหว่านหนิง: "....."
เสวียนซันเซียนเซิงผู้ทรงเกียรติ ช่างมีหนังหน้าที่หนากว่ากำแพงเมืองซะอีก
ตอนนี้เขาบอกนางว่า เมื่อตอนนั้นเขาไม่กล้าเข้าไปทักทายสาวงามคนนั้นงั้นเรอะ? !
“บอกข้ามาก่อนว่า คนงามที่ว่านั่นดูแล้วอายุอานามประมาณเท่าไหร่?”
“เจ้าอย่าห่วงไปเลยน่า เดี๋ยวข้าวาดออกมาแล้วเจ้าก็จะรู้เองนั่นแหล่ะ”
เสวียนซันเซียนเซิงกระตือรือร้นที่จะวาดรูปอย่างยิ่ง ทำท่าคันไม้คันมือพร้อมวาดเต็มที่
ด้วยความจนใจ หยุนหว่านหนิงทำได้แค่บอกให้หยวนเป่าพาเสวียนซันเซียนเซิงกลับไปที่เรือนหลัง สั่งคนเตรียมพู่กัน หมึก กระดาษ และหินฝนหมึกให้เขาวาดรูป
เสวียนซันเซียนเซิงเดินออกไปสองสามก้าว แล้วยื่นนิ้วไปที่มังกรตาเดียวอีกครั้ง "ตอนนี้เจ้าพูดได้แล้ว! แต่ข้าจะให้เวลาเจ้าแค่หนึ่งจิบถ้วยชา ถ้าเจ้าพูดให้คนเข้าใจไม่ได้ก็ไม่ต้องพูดอะไรอีก อย่ามาทำให้เรื่องมงคลตลอดชีวิตของข้าต้องล่าช้า!”
มังกรตาเดียว: "....."
เขาลองส่งเสียงเรียก "กูหน่ายนาย?"
"เกิดอะไรขึ้นล่ะ?"
หยุนหว่านหนิงเดินไปที่ม้านั่งหินที่อยู่ข้าง ๆ แล้วนั่งลง
ถ้ามีที่ให้นั่ง ยังไงนางก็จะไม่ยืนแน่ ๆ
มังกรตาเดียวเดินตุปัดตุเป๋ตามหลังนางไป "คนเมื่อครู่นี้เป็นเซียนเฒ่าตัวจริงอย่างนั้นรึ?"
"อือฮึ"
“ในเมื่อเป็นถึงเทพเซียน ทำไมเมื่อครู่ถึงเข้ามาทางประตูหน้าแบบสง่าผ่าเผยไม่ได้ล่ะ? ทำไมถึงต้องโยนข้าลงมาจากกำแพงสูงขนาดนั้นด้วย?! นี่ไม่เท่ากับปล่อยให้ความสามารถของเทพเซียนระดับนี้ต้องสูญเปล่าหรอกหรือ?”
มังกรตาเดียวอดบ่นไม่ได้
ตอนร่วงลงมา เอวเขาแทบจะหักอยู่แล้ว!
“ที่เมืองหลวงเกิดเรื่องอะไรขึ้นรึ?”
หยุนหว่านหนิงถามอีกครั้ง
แต่ไหนแต่ไรมาเสวียนซันเซียนเซิงไม่เคยเดินตามเส้นทางปกติ นางเข้าใจดี
ดังนั้นนางเองก็ไม่มีอะไรจะพูด ทำได้แค่มุ่งความสนใจไปที่เรื่องใหญ่ที่มังกรตาเดียวเพิ่งจะพูดถึงเท่านั้น
นางสั่งให้มังกรตาเดียวคอยจับตามองจวนอ๋องฉู่
ตอนนี้มังกรตาเดียวมาตำหนักสิงกงเพื่อส่งข้อความ นั่นหมายความว่าจวนอ๋องฉู่ต้องมีการเคลื่อนไหวอะไรบางอย่างแน่
“หรือว่าจวนอ๋องฉู่เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว?”
"ใช่ขอรับ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...