“เจ้าคงไม่คิดจะอาศัยโอกาสทำมิดีมิร้ายข้าหรอกนะ?”
หยุนหว่านหนิงคลางแคลงใจ “เจ้าแน่ใจว่า หลังจากข้าถอดเสื้อให้เจ้าแล้ว จะไม่ต้องรับผิดชอบเจ้า?”
โม่เยว่ “... เจ้าคิดมากไปแล้ว”
หยุนหว่านหนิงไม่ได้ลังเลอีก เธอยกมือขึ้นปลดสายรัดเอวเขา และปลดคอเสื้อ ถอดเสื้อคลุมตัวนอกออก เผยให้เห็นเสื้อตัวในสีขาวสะอาด
เสื้อคลุมตัวนอกเป็นสีดำแดง มองไม่เห็นรอยเลือดในความมืด
แต่พอเสื้อคลุมตัวนอกตัวนอกถอดออก เสื้อตัวในสีขาวเหมือนโดนย้อมด้วยสีเลือดก็ไม่ปาน
มิน่าล่ะ กลิ่นคาวเลือดถึงคละคลุ้งขนาดนั้น
พอเห็นสีแดงสดนั่น หยุนหว่านหนิงสายตากระตุก
“ทำไม? สงสารข้ารึ?”
มือหยุนหว่านหนิงไม่อยู่นิ่ง ปากของโม่เยว่ก็ไม่อยู่นิ่ง
“ยังมีแรงล้อเล่น แสดงว่าท่านอ๋องไม่เจ็บ และก็บาดเจ็บไม่หนัก”
หยุนหว่านหนิงลงน้ำหนักที่มือมากหน่อย โม่เยว่เจ็บจนขมวดคิ้ว เขากัดฟันกรอด กลืนเสียงเจ็บปวดลงคอไป
สตรีผู้นี้หัวเราะเยาะเขา!
หยุนหว่านหนิงปรายตามองเขา
เจ็บจนเหงื่อเต็มหน้า แต่ยังกัดฟันกรอดไม่ส่งเสียง
ได้ ถือว่าเจ้าอดทนเก่ง!
เธอผ่อนปรนแรงน้อยลง หลังจากถอดเสื้อตัวใน ถึงเห็นบาดแผลลึกที่ไหล่ข้างนั้น
ลึกจนเห็นกระดูก!
นี่มันบาดเจ็บมากกว่าที่โดนนักฆ่าลอบแทงครั้งก่อนมากแล้ว!
หยุนหว่านหนิงตกใจมาก “ทำไมบาดเจ็บหนักขนาดนี้? ถ้าบาดแผลเอียงอีกหน่อย แขนข้างนี้ของท่านน่ากลัวจะถูกฟันลงมาเสียแล้ว”
“แผลแค่นี้จะเป็นไรไป? แผลพี่สามหนักกว่าข้าอีก”
น้ำเสียงโม่เยว่ฟังแล้วดูสบายๆ
แต่เบื้องหลังความสบายๆนั่นคือไอสังหารคุกรุ่น
“ห้ามเลือดก่อน”
หยุนหว่านหนิงไม่ได้ตอบคำ แต่รีบจัดการทำแผลให้เขา
โชคดีที่ช่องว่างของห้วงเวลาช่วย ทุกครั้งที่เธอต้องการยาอะไร ช่องว่างของห้วงเวลาจะมีปฏิกิริยาทันที
ถึงโม่เยว่จะไม่ได้บอกเธอตรงๆว่า คืนนี้เขาไปทำอะไร แต่เมื่อครู่คำที่เขาบอกว่า “พี่สามเจ็บหนักกว่าข้าเยอะ” ถือเป็นการตอบตามจริงแล้ว
หยุนหว่านหนิงรู้ว่า คืนนี้โม่เยว่แตกหักกับโม่หุยเฟิงแล้วจริงๆ
แม้แต่ความสัมพันธ์อันดีตามมารยาทก็ไม่คิดจะรักษาอีก
หลังจากห้ามเลือดให้เขา และพันแผลเรียบร้อย หยุนหว่านหนิงสั่งให้หรูเยียนไปเรือนทิงจู๋เอาเสื้อผ้าสะอาดมา
เหล่าคนรับใช้ในจวนอ๋อง...
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีแม่นมจางเป็นหัวโจก แต่ละคนล้วนเป็นยอดฝีมือกรมข่าวลือ
ทุกคนไม่รู้เรื่องที่คืนนี้โม่เยว่ได้รับบาดเจ็บ
แต่ได้ยินว่า ทางเรือนชิงหยิ่งส่งคนมาเอาเสื้อผ้าสะอาดของท่านอ๋อง แวบแรกจึงคิดไปว่า คืนนี้ท่านอ่องกับพระชายาได้ผ่าน “สมรภูมิ”มาหนึ่งครั้ง
พริบตาเดียว ข่าวลือก็กระจายไปทั่วจวนอ๋อง
ทุกคนต่างวิพากษ์วิจารณ์กัน พระชายากลับมาได้รับการโปรดปรานแล้วจริงๆ!
ไม่!
พระชายายังไม่เคยได้รับการโปรดปรานมาก่อน นี่เป็นสัญญาณของการได้รับโปรดปราน!
ดูท่าวันหน้า จะต้องระมัดระวัง และเคารพนบนอบยิ่งต่อพระชายาผู้นี้ละ
คำพูดเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนคิดในใจเท่านั้น ใครก็ไม่กล้าพูดออกมาต่อหน้าหรอก
หยุนหว่านหนิงยังไม่รู้ว่า ตอนนี้พวกเขากลายเป็นข่าวฮอตฮิตไปแล้ว
เธอทำความสะอาดบาดแผลให้โม่เยว่ เห็นริมฝีปากเขาซีดเผือด เลยบอก “คืนนี้ท่านเสียเลือดมาก ต่อไปต้องพักฟื้นระยะหนึ่ง”
“ท่านบาดเจ็บไม่น้อย ต้องไปขอลาพักกับเสด็จพ่อหรือไม่?”
“ขอลาพัก?”
โม่เยว่เย้ยหยัน “ข้ามิใช่ดอกไม้ประดับในแจกัน บาดแผลเล็กน้อยแค่นี้เหตุใดต้องขอลาพักด้วย?”
น่าขันนัก!
ตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องทำตัวให้น่าจดจำต่อหน้าเสด็จพ่อ ขอลาพักอะไร?!
หากเสด็จพ่อพบว่าเขาไปออกราชการทั้งๆที่เจ็บป่วย แต่พี่สามกลับนอนป่วยหนักบนเตียง
ถึงเวลานั้น....
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...