ได้ยินคำว่า “เสด็จพ่อ” โม่จงหรานก็รู้สึกปวดหัว
โม่หุยเหยียนตัวแข็งทื่อ หดคอลงอย่างไม่รู้ตัว ตกอยู่ในอาการระแวดระวัง
วินาทีต่อมา เห็นหยุนหว่านหนิงพุ่งเข้ามาตรงประตู คุกเข่าตรงหน้าโม่จงหราน พร้อมพูดขึ้นว่า “เสด็จพ่อ ท่านต้องให้ความเป็นธรรมท่านอ๋องของข้า”
โม่จงหรานพูดขึ้นอย่างปวดหัวว่า “เฮ้อ....”
ภาพนี้คุ้นตามาก
ท่าทีที่นางกอดขา ถือผ้าเช็ดหน้า เช็ดน้ำตานี้คุ้นเคยอย่างที่สุด
โม่หุยเหยียนขมวดคิ้วแน่น จ้องมองดูการกระทำของหยุนหว่านหนิง
นางมารร้ายคนนี้ คิดจะทำอะไรอีก?
“หยุนหว่านหนิง เจ้าบังอาจมาก”
ไม่รอให้หยุนหว่านหนิงทันได้พูดอะไร โม่หุยเหยียนก็รีบพูดขึ้นมาก่อนว่า “ในฐานะที่เจ้าเป็นสะใภ้ราชวงศ์ กล้าบุกเข้ามาในห้องทรงพระอักษร มีโทษสถานใด?”
หยุนหว่านหนิงไม่สนใจเขา ร้องห่มร้องไห้ พร้อมพูดกับโม่จงหรานว่า “เสด็จพ่อ ลูกสะใภ้อัดอั้นใจ”
“เดิมข้าอยู่เป็นเพื่อนเสด็จย่าที่ตำหนักสิงกง จู่ๆก็ได้รับข่าวว่าท่านอ๋องใกล้จะตายแล้ว ข้ารีบเดินทางกลับมาเมืองหลวงอย่างเหน็ดเหนื่อย มาทันตอนที่อ๋องฉู่เอาผ้าห่อศพเต็มหีบมาให้”
“อ๋องฉู่อยากสาปแช่งให้ท่านอ๋องตายเร็วๆหรือ?”
“เสด็จพ่อ ท่านจะต้องให้ความยุติธรรมกับท่านอ๋องข้านะ”
นางไม่ได้พูดถึง เรื่องที่โม่หุยเหยียนส่งคนไปลอบทำร้ายโม่เยว่หรือเปล่า
แต่เพียงประโยคสั้นๆไม่กี่คำ ก็ทำให้โม่หุยเหยียนโกรธโมโหจนหน้าผากกระตุก
“หยุนหว่านหนิง เจ้าพูดไปเรื่อย ใส่ร้ายคนอื่น”
ข้าเอาผ้าห่อศพไปให้โม่เยว่ที่ไหนกัน?
ข้าแค่เอาผ้าแพรไปให้ไม่ใช่หรือ?
โม่หุยเหยียนโกรธจัด จึงรีบพูดขึ้นว่า “เสด็จพ่อ หยุนหว่านหนิงต่างหากที่เอาผ้าห่อศพหลายหีบมาให้ข้า ยังมีพวงหรีดต่างๆ หวังสาปแช่งให้ข้าตายเร็วๆ”
“ข้าแค่เอาผ้าแพรไปให้เจ้าเจ็ด”
“เจ้ามีหลักฐานไหม?”
หยุนหว่านหนิงจ้องมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ความหมายที่เจ้าเอาผ้าแพรมาให้ ไม่ใช่เพื่อสาปแช่งให้ท่านอ๋องของข้าตายเร็วๆหรือ แตกต่างอะไรกับการเอาผ้าห่อศพมาให้?”
นางตวาดพูดฉอดๆขึ้นมาว่า “ข้าเห็นเป็นครั้งแรก การมาเยี่ยมคนป่วยแล้วเอาผ้าแพรมาให้”
“อ๋องฉู่ช่างมีจิตใจอำมหิตยิ่งนัก นี่เจ้ากลัวคนอื่นไม่รู้ว่า เจ้าสาปแช่งให้ท่านอ๋องของข้าตายเร็วหรือ?”
โม่หุยเหยียนพูดถึงนางไหวเสียที่ไหน?
และหยุนหว่านหนิงกอดขาโม่จงหรานไว้ ราวกับเป็นสิ่งของห้อยอยู่ตรงขาเขา นั่งอยู่บนเท้าโม่จงหรานไม่ยอมลุกขึ้นมา
เขาก็อยากไปกอดขาโม่จงหราน....
อย่างแรก เขาทำไม่ลง เขาไม่หน้าด้านหน้าทนเหมือนหยุนหว่านหนิง
อย่างที่สอง เข้าไม่กล้า
โม่หุยเหยียนกระตุกมุมปาก พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้า เจ้าพูดใส่ร้ายข้า”
“เสด็จพ่อ”
หยุนหว่านหนิงไม่พูดกับเขาให้เสียเวลา เงยหน้าร้องไห้มองดูโม่จงหราน พร้อมพูดขึ้นว่า “เสด็จพ่อ เมื่อกี้บ่าวใช้ที่จวนข้าหลายคนก็มาฟ้องว่า”
“วันนี้อ๋องฉู่ทำอัปยศอดสูในห้องน้ำ จนส่งผลกระทบต่อจิตใจพวกเขาไปตลอดทั้งชีวิต พวกเขาแทบจะเอาหัวชนกำแพงตาย”
โม่หุยเหยียน “.......”
เหี้ย
ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้หน้าด้านที่สุด แต่หน้าด้านอย่างที่สุดของที่สุด
เขาโกรธโมโหจนเริ่มหายใจรุนแรงขึ้นมาอีก
โม่จงหรานนวดขมับ พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงว่า “หว่านหนิง เจ้าลุกขึ้นมาก่อนค่อยพูด”
“ข้าไม่ลุก”
หยุนหว่านหนิงเอาหัวแนบบนเข่าโม่จงหราน พร้อมพูดขึ้นว่า “เสด็จพ่อ ท่านองของข้าหายใจรวยริน ข้าสะเทือนใจอย่างรุนแรง หากไม่มีท่านอ๋องแล้ว ข้าก็จะไม่มีชีวิตอยู่ต่อแล้ว”
ร้องไห้โวยวายขู่ฆ่าตัวตาย นางแสดงได้ดียิ่งกว่าฮองเฮาจ้าวเสียอีก
วิธีก่อกวนก่อความวุ่นวายของนาง โม่จงหรานทำอะไรไม่ได้เลย
“งั้นเจ้าว่ามาควรทำอย่างไร?”
โม่จงหรานถอนหายใจอย่างจนใจ
“ข้าอยากให้อ๋องฉู่ ไปขอโทษท่านอ๋องของข้าด้วยตนเอง คุกเข่าตรงหัวเตียงท่านอ๋องข้า จนกว่าท่านอ๋องข้าจะพอใจ”
หยุนหว่านหนิงเพิ่งพูดออกมา โม่หุยเหยียนก็เบิกตาโต พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าฝันไปเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...