หลังจากโม่เยว่เข้าวังไปแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าเขาคุยอะไรกับโม่จงหรานต่อไป
ประตูห้องทรงพระอักษรปิดสนิท แต่คนด้านนอกได้ยินเสียงคำราม เสียงตะโกน ตลอดจนเสียงแจกันแตกดังสนั่น
แม้แต่ซูปิ่งซ่านกับเหลียงเสี่ยวกงกง ทั้งสองคนก็ยืนอยู่ข้างนอกแทบไม่กล้าหายใจ
โม่เฟยเฟยจับมือกันอยู่อย่างประหม่า เดินไปมาอยู่กับที่ พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่จะทำอย่างไรดี?”
“พี่สะใภ้เจ็ดถูกจับขังคุกหลวง เสด็จพ่อก็บันดาลโทสะใส่พี่ชายเจ็ด หากเสด็จพ่อโกรธโมโห แล้วจับพี่ชายเจ็ดติดคุกหลวงไปด้วยจะทำยังไง?”
ในขณะที่กำลังคิดอยู่ โม่หุยเหยียนก็มาแล้ว
เห็นสถานการณ์จึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น โม่เฟยเฟยก็เล่าตามความจริง
“ใช่ไหม?”
โม่หุยเหยียนมองดูประตูตำหนักที่ปิดสนิทอย่างแปลกใจแวบหนึ่ง
เวลานี้ ก็มีอะไรบางอย่างกระทบประตูอีกครั้งจนเสียงดัง “ปัง” สะเทือนอย่างรุนแรง
โม่เฟยเฟยตกใจอย่างมาก ร้องไห้หันหน้าวิ่งไป พร้อมพูดขึ้นว่า “แย่แล้ว เสด็จพ่อโกรธจัดแล้ว ข้าต้องไปตามเสด็จแม่เต๋อเฟยมาช่วย”
หลังจากนางวิ่งไปแล้ว โม่หุยเหยียนมองดูห้องทรงพระอักษรอย่างลึกซึ้ง
“ซูกงกง”
เขาถามขึ้นว่า “ข้างในมีเพียงเสด็จพ่อกับเจ้าเจ็ดหรือ?”
“ตอนแรกข้าน้อยก็อยู่ปรนนิบัติข้างใน องค์หญิงเก้าก็อยู่ แต่พูดไปพูดมาฮ่องเต้กับอ๋องหมิงก็ทะเลาะกัน แล้วไล่บ่าวออกมา”
ซูปิ่งซ่านพูดขึ้นด้วยสีหน้าเศร้าว่า “อ๋องฉู่ หากท่านมีงานก็กลับไปก่อนเถอะ”
“เข้าไปตอนนี้ ฮ่องเต้กำลังโมโห หากโกรธโมโหอ๋องฉู่ไปด้วยจะแย่....”
มองดูซูปิ่งซ่านพูดด้วยสีหน้าเศร้าหมองอย่างไม่เป็นความเท็จ โม่หุยเหยียนหันหน้ามา พูดขึ้นด้วยสีหน้าปกติว่า “ไม่เป็นไร ข้ารออยู่ข้างนอก”
ซูปิ่งซ่านเห็นว่าพูดไปก็เท่านั้น จึงไม่พูดอะไรอีก เพียงยืนก้มหน้าอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ
เสียงเถียงกันข้างในค่อยๆเบาลงแล้ว
จากนั้นมีคนผลักประตูออกมา โม่เยว่เดินออกไปอย่างเชื่องช้า
สีหน้าของเขาขาวซีดและย่ำแย่มาก บนหน้าผากยังมีรอยเลือดซึม คงเป็นเพราะเมื่อกี้ถูกโม่จงหรานทำร้าย
เขายกมือกุมหน้าอกไว้ พยายามก้าวข้ามประตูธรณี ทั้งร่างกายแลดูอ่อนแรงมาก
หรูโม่รีบเดินออกมาจากทางด้านหลังเสา เดินไปประคองเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “นายท่าน ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?”
โม่เยว่ไม่พูดตอบ คงเพราะพูดไม่ออกแล้ว
และเวลานี้ ภายในห้องทรงพระอักษรยังมีที่เสียบปากกาอันหนึ่งลอยออกมา กระทบโดนน่องโม่เยว่อย่างจัง....เขาเข่าอ่อน เกือบล้มกองลงบนพื้น
โชคดีที่หรูโม่ประคองไว้แน่น
เสียงโม่จงหรานตะโกนพูดออกมาอย่างโกรธจัดว่า “คนไม่ได้เรื่อง กลับไปสำนึกผิดให้ดี”
“หากเจ้าก็อยากถูกจับขังคุกหลวง ข้าก็จะสงเคราะห์เจ้า”
โม่เยว่ยืนอยู่ที่เดิม มือทั้งคู่กำหมัดแน่น เส้นเลือดบนหลังมือนูนขึ้น....
จากนั้นเขาถอนหายใจเมิน แล้วก็ให้หรูโม่ประคองกลับไป
ตอนเดินผ่านโม่หุยเหยียน เขาไม่แม้แต่จะเหลือบมองดูเขาเลย
สองวันมานี้ พี่น้องสองคนทะเลาะกันอย่างค่อนข้างไม่พอใจ เพราะเรื่องหนังสือขอโทษโม่หุยเหยียนเกลียดชังโม่เยว่อย่างมาก จึงก็ไม่คิดที่จะไปทักทาย
หลังจากพวกเขาสองคนนายบ่าวจากไปแล้ว โม่หุยเหยียนค่อยมองเข้าไปในห้อง
“เสด็จพ่อ ข้า....”
ยังพูดไม่จบ ก็ได้ยินโม่จงหรานตะคอกพูดขึ้นว่า “ไสหัวไป”
เห็นได้ชัดว่าโกรธโมโหไม่น้อย
โม่หุยเหยียนไม่กล้าพูดอะไรมากอีก รีบจากไปอย่างเศร้าสร้อย
……
ในการประชุมราชการเช้าอีกวันหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...