หลังจากเต๋อเฟยไปแล้ว โม่ฮั่นอี่ว์ค่อยเงยหน้าขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าพูดอะไรกับเสด็จแม่เต๋อเฟย?”
เขาถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ
“อยากรู้หรือ?”
หยุนหว่านหนิงชายหางตามองดูเขา
เผชิญกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของนาง โม่ฮั่นอี่ว์ใจเต้นกระตุก พร้อมรีบส่ายหัวพูดขึ้นว่า “ไม่ไม่ไม่ ข้าไม่อยากรู้”
“ข้าบอกเจ้าก็ได้ ข้าให้เสด็จแม่เต๋อเฟยไปสืบคนคนหนึ่ง”
หยุนหว่านหนิงตั้งใจบอกใบ้
“สืบใคร?”
“หนึ่งคำหนึ่งหมื่นตำลึง เจ้าตกลงไหม?”
“เซี้ย นี่เจ้าขู่รีดเอาทรัพย์หรือ”
โม่ฮั่นอี่ว์รีบปิดหูตนเอง พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไม่ฟัง”
“ข้าบอกเจ้า”
หยุนหว่านหนิงขยับเข้าไปใกล้พร้อมพูดพึมพำหลายประโยค สุดท้ายยิ้มหัวเราะกลับมานั่งที่เดิม พร้อมพูดขึ้นว่า “อ๋องฮั่น วันนี้เจ้าติดหนี้ข้าอีกสามหมื่นตำลึงแล้วนะ”
โม่ฮั่นอี่ว์ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว “.....”
“โอ้สวรรค์ เจ้ารีบรับนางมารร้ายคนนี้ไปเถอะ เสด็จพ่อ รีบไล่นางออกไปจากคุกหลวง เจ้าเจ็ด รับมารับภรรยาของเจ้ากลับไป”
สถานการณ์ตอนนี้ ไม่ใช่โม่จงหรานไม่ยอมปล่อยหยุนหว่านหนิงออกไป
แต่แม่ทูลหัวน้อยคนนี้ไม่ยอมออกไป
โม่ฮั่นอี่ว์แหงนหน้าขึ้นฟ้าร้องโหยหวนว่า “ขอร้องเจ้ารีบออกไป อย่าอยู่ทรมานข้าเลย”
โจวฉางเฟิที่อยู่ตรงข้าม อดไม่ได้ที่จะหัวเราะกับท่าทางอย่างกับเด็กของพวกเขา
หยุนหว่านหนิงหันไปผงกหัวให้กับโจวฉางเฟิงอย่างเป็นมิตร เวลานี้ผู้คุมกำลังยกอาหารมาพอดี
เพราะเคยมีเหตุการณ์ที่โม่ฮั่นอี่ว์ถูกวางยาพิษ หลังจากถูกโม่จงหรานตำหนิอย่างรุนแรง ผู้คุมจึงไม่กล้าทำอาหารพิเศษให้กับโม่ฮั่นอี่ว์อีก
แต่กับข้าวของพวกเขาสองคน ยังไงก็ไม่เหมือนกับของคนอื่น
“รอก่อน”
หยุนหว่านหนิงลุกเดินไปข้างประตู พร้อมพูดขึ้นว่า “กับข้าวของอ๋องฮั่นให้ข้าชิมก่อน เดี๋ยวจะถูกวางยาพิษอีก”
ผู้คุมรีบเปิดประตูยกมาตรงหน้านาง พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายาหมิง เชิญทาน”
หยุนหว่านหนิงเขี่ยไปเขี่ยมา สุดท้ายหยิบเอาน่องไก่ในถ้วยโม่ฮั่นอี่ว์ไป พร้อมพูดขึ้นว่า “เอาล่ะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว เอาไปให้อ๋องฮั่นได้แล้ว”
โม่ฮั่นอี่ว์มองดูผักกาดในถ้วย แล้วก็มองดูมือข้างหนึ่งของหยุนหว่านหนิงถือน่องไก่ไว้....
“หยุนหว่านหนิง เจ้าไม่รู้สึกละอายใจบ้างหรือ?”
บอกว่าลองชิม กลัวเขาถูกวางยาพิษ ที่จริงก็เพื่อเอาน่องไก่ของเขาไป
“ละอายใจคืออะไรหรือ? ไม่มีมูลค่าสักหน่อย”
หยุนหว่านหนิงนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมพูดขึ้นว่า “อาหารในคุกหลวงนี้ก็อร่อยดีเหมือนกัน”
พวกผู้คุมต่างมองหน้ากัน “.....”
พระชายาหมิงคนนี้ ไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ
ถูกจองจำอยู่ในคุกหลวงยังทานข้าวได้อย่างสบายใจ ยังทานอย่างเอร็ดอร่อย.....เปรียบเทียบกับโม่ฮั่นอี่ว์ที่อยู่ตรงข้ามเคี้ยวข้าวอยู่อย่างไม่อยากมีชีวิตอยู่ พวกผู้คุมต่างก็เห็นใจ
รังควานโม่ฮั่นอี่ว์เสร็จแล้ว หยุนหว่านหนิงก็นอนพักกลางวัน
พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม ค่อยสามารถจัดการกับพวกเสือสิงห์กระทิงแรดที่เคลื่อนไหวอยู่ในที่มืดพวกนั้น
นางเชื่อว่า ข่าวที่นางถูกจับขังคุกหลวง เป็นที่รู้กันไปทั่วเมืองหลวงแล้ว
นางไม่เป็นกังวลอย่างอื่น เป็นห่วงแต่โม่เยว่....
คนคนนี้เป็นคนใจร้อน
หากรู้ว่านางถูกจับขังคุกหลวง จะต้องไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตน ดิ้นรนที่จะเข้าวังมาถามโม่จงหรานให้รู้เรื่อง ไม่แน่ว่าวันนี้ เขาก็อาจถูกย้ายมาอยู่กับนางในคุกหลวง
ตอนนี้ก็ต้องดูว่าหรูโม่จะปิดบังได้นานแค่ไหนแล้ว
……
จวนอ๋องหมิง
โม่เฟยเฟยวิ่งมายังเรือนทิงจู่ด้วยหน้าตาแตกตื่น
“พี่ชายเจ็ด พี่ชายเจ็ด เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”
นางวิ่งไปด้วยร้องเรียกไปด้วย ทำให้โจวหยิงหยิงที่พักอยู่ในเรือนตรงข้ามตกอกตกใจ
ได้ยินเสียงโม่เฟยเฟย โจวหยิงหยิงไม่ทันได้สวมรองเท้า วิ่งออกมาด้วยเท้าเปล่า พร้อมถามขึ้นว่า “เฟยเฟย เกิดอะไรขึ้น?”
“พี่สะใภ้รอง เจ้าอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
ไม่ทันได้สนใจคุยอะไรกับโจวหยิงหยิงเยอะ โม่เฟยเฟยพุ่งตรงเข้าไปในห้องนอนโม่เยว่
หยุนหว่านหนิงไม่อยู่ โจวหยิงหยิงก็คือคนนอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...