อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 520

นางมองไปรอบๆ ห้องคุมขังของหยุนหว่านหนิง

การจัดวางคล้ายกันกับโม่ฮั่นอี่ว์ อย่างน้อยก็มีเตียง มีโต๊ะ พอจะรับได้

บัดนี้เตียงของโม่ฮั่นอี่ว์และหยุนหว่านหนิงอยู่ชิดกันมาก มีรั้วเหล็กกั้นเท่านั้น ทั้งสองคนเผชิญหน้ากัน หยุนหว่านหนิงกำลังต่อสู้กับโม่ฮั่นอี่ว์เพื่ออะไรบางอย่าง......

เมื่อพบว่าเต๋อเฟยเดินทางมา โม่ฮั่นอี่ว์ก็หยุดแล้วตะโกนขึ้น

“เสด็จแม่เต๋อเฟย หยุนหว่านหนิงตั้งใจจะฉกฉวยแย่งของจากลูกที่เป็นคนป่วย นี่มันมิถูกต้องเอาเสียเลย”

เนื่องจากเมื่อวานนี้ที่หยุนหว่านหนิงถอนพิษให้แก่เขา ประมาณกลางดึกเขาก็ตื่นขึ้น

ทันทีที่เขาลืมตาขึ้น ก็พบหยุนหว่านหนิงยืนอยู่ข้างเตียงมองเขาจากข้างบน

ท่ามกลางแสงเทียนสลัว นางราวกับมัจจุราชหญิงที่คลานออกมาจากขุมนรก......

ทำเอาเสียโม่ฮั่นอี่ว์ตกอกตกใจหวาดกลัวกรีดร้อง กลับกลายเป็นเด็กน้อยขึ้นมาทันที

“เจ้ามาทำอะไร?”

เขาหวาดกลัวยิ่งนัก

“ข้ามาอยู่เป็นเพื่อนบ้านเจ้า”

หยุนหว่านหนิงเดินเอามือไขว้หลังออกไปจากคุกของเขา แล้วค่อยๆ เข้าไปในห้องมืดด้านข้าง เผชิญหน้ากับโม่ฮั่นอี่ว์

ทั้งยังบอกว่า ทั้งสองเป็น‘พี่น้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน’

โม่ฮั่นอี่ว์จะกล้าเรียกตนเองว่าเป็นพี่น้องกับนางได้อย่างไร

ถึงอย่างนั้น ก็คงเป็นเขาที่เป็นน้อง และหยุนหว่านหนิงเป็นพี่

จวบจนกระทั่งบัดนี้ โม่ฮั่นอี่ว์ก็มิเข้าใจว่าหยุนหว่านหนิงเข้ามาในคุกหลวงได้อย่างไร แต่มองดูชุดของนางก็รู้ว่าเป็นชุดเมื่อวาน ดูมิเหมือนกับเข้ามาติดคุก เหมือนกับว่านางเพียงเปลี่ยนสถานที่อาศัย เพื่อเปลี่ยนแปลงอารมณ์ของตนเองมิให้น่าเบื่อก็เท่านั้น

เมื่อเห็นเต๋อเฟยตรงเข้ามา โม่ฮั่นอี่ว์ก็รีบร้องทุกข์

“เสด็จแม่เต๋อเฟยพ่ะย่ะค่ะ เมื่อคืนนี้หว่านหนิงรังควานลูกทั้งคืน ทำเอาลูกมิอาจหลับอาจนอนได้ บัดนี้ร่างกายและสมองอ่อนล้า น่าสังเวชยิ่งนัก”

เขาอยากจะลุกจากเตียงเพื่อไปฟ้องร้อง แต่เนื่องจากเขาอ่อนแอหลังจากเพิ่งล้างพิษ จึงทำได้เพียงนอนอยู่บนเตียง

มิอย่างนั้นเขาในฐานะชายหนุ่มก็คงมิถูกหยุนหว่านหนิงแย่งของนี่หรอก

เมื่อเผชิญหน้ากับคำฟ้องร้องของโม่ฮั่นอี่ว์ เต๋อเฟยก็โบกมือขึ้นอย่างดุดัน “เปิดประตู!”

ใต้เท้าหยันจะกล้าปฏิเสธได้อย่างไร

เขาหยิบกุญแจออกมาด้วยตนเองแล้วเปิดประตูห้องขังของหยุนหว่านหนิง

“เสด็จแม่!”

หยุนหว่านหนิงมองไปที่เต๋อเฟยน้ำตาคลอเบ้า มือของนางยังมิยอมปล่อย จับไว้ที่มือของโม่ฮั่นอี่ว์ “เสด็จแม่ มาช่วยลูกใช่หรือไม่เพคะ?”

โม่ฮั่นอี่ว์ “......เจ้าตั้งใจสนทนากับเสด็จแม่เต๋อเฟยหน่อยมิได้หรือ ปล่อยมือ ปล่อยมือเดี๋ยวนี้!”

หยุนหว่านหนิงออกแรงดึงอย่างแรง ทำให้โม่ฮั่นอี่ว์ถูกลากมากระแทกเข้ากับรั้วเหล็ก

“โอ๊ย......”

การกระแทกนั้นค่อนข้างจะหนัก ทำเอาโม่ฮั่นอี่ว์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ศีรษะเขากระแทกจนดาวขึ้น

เขาปล่อยมือออกแล้วยกมือขึ้นไปกุมศีรษะ หยุนหว่านหนิงจึงได้โอกาสดึงมือกลับคืนมา “เช่นนี้ข้าก็สามารถสนทนากับเสด็จแม่ได้อย่าง ตั้งใจแล้ว”

โม่ฮั่นอี่ว์เหลือบมองไปพบว่าในมือของเขาว่างเปล่า......

“หยุน หว่าน หนิง เจ้าหลอกข้า!”

เสียงคำรามของเขาดังไปทั่วคุกหลวง

นักโทษในคุกเหล่านั้นผ่านไปเพียงมิกี่ชั่วโมงก็เคยชินกับเสียงตะคอกคำรามของเขา

มีเพียงโจวฉางเฟิงที่ถูกขังอยู่ฝั่งตรงข้ามเอ่ยถามด้วยความอ่อนแรงว่า “อ๋องฮั่น นี่คือสถานที่สาธารณะ เจ้าระมัดระวังตนเองหน่อยได้หรือไม่ คิดแทนผู้อื่นบ้าง อย่าได้รบกวนการพักผ่อนของคนอื่น”

โม่ฮั่นอี่ว์กลอกตามอง

“คนอย่างข้า มิล้มเลิกง่ายๆ หรอก”

หยุนหว่านหนิงแบมือออกด้วยรอยยิ้ม นำของในมือส่งไปให้เต๋อเฟย “เสด็จแม่เพคะ ลูกเห็นว่าเจ้าสิ่งนี้ดูน่ารักดี จึงตั้งใจจะนำมันมามอบให้เสด็จแม่”

“ของอะไรกัน?”

เต๋อเฟยชะโงกหน้าเข้ามามอง......

“เอ๋ สวยดีจริง”

เต๋อเฟยรับมันไปดู พบว่าเป็นคล้ายน้ำเต้าหยกขนาดเล็ก

น้ำเต้าหยกนี้มีขนาดเท่าหัวแม่มือ มีความใสของสีเขียวมรกต ประกายเจิดจ้าภายใต้แสงไฟ

มองไปช่างสวยงามยิ่งนัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์