หยุนหว่านหนิงสะดุ้ง รีบหันไปมอง
เห็นโม่ฮั่นอี่ว์เกาะอยู่ตรงประตูกรง พร้อมตะโกนพูดขึ้นว่า “ผู้คุม เปิดประตูให้ข้า ข้าจะออกไป”
โม่ฮั่นอี่ว์ตะโกนเสียงดังมาก ก้องกังวานสะท้อนอยู่ภายในคุก
หยุนหว่านหนิงเอามือปิดหูไว้
“ทำไมเจ้าถึงไม่รู้จักประเมินตนเองขนาดนี้?”
“ข้าไม่รู้จักประเมินตนเองตรงไหน? เจ้ายังเข้าออกได้ตามอำเภอใจ ทำข้าจะทำไม่ได้?”
โม่ฮั่นอี่ว์ยกมือเท้าเอวอยู่อย่างมั่นใจ
ผู้คุมวิ่งเข้ามาใกล้ พร้อมพูดขึ้นว่า “อ๋องฮั่น มีอะไรต้องการสั่งหรือ?”
“เปิดประตูให้ข้า”
หยุนหว่านหนิงมองดูเขาถูกพูดตอบหน้าอย่างจนใจ
แล้วผู้คุมก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าลำบากใจว่า “อ๋องฮั่น หากท่านหิว ข้าน้อยหามาให้ท่านได้ แต่ท่านขอแบบนี้ ไม่เป็นการสร้างความลำบากใจให้ข้าน้อยหรือ? ท่านขออะไรที่ข้าน้อยสามารถทำได้ดีกว่า”
โม่ฮั่นอี่ว์วางมือลงอย่างโกรธโมโห พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าสร้างความลำบากใจให้ตรงไหน?”
“นางยังเข้าออกได้ตามอำเภอใจ ทำไมข้าจะทำไม่ได้?”
ผู้คุม “.......นี่ อ๋องฮั่น ท่านไม่เหมือนพระชายาหมิง”
“ไม่เหมือนตรงไหน? ข้าไม่ใช่คนหรือ?”
โม่ฮั่นอี่ว์เริ่มเถียงข้างๆ คูๆ
หยุนหว่านหนิงยกมือเท้าคาง มองดูเขาอยู่อย่างน่าขำ
“อ๋องฮั่น พระชายาหมิงเข้ามายังไง ท่านเข้ามายังไง? ตั้งแต่พระชายาหมิงเข้ามาในคุกหลวง ฮ่องเต้ เต๋อเฟยเหนียงเหนียง อ๋องหมิง องค์หญิงเก้า กระทั่งอ๋องฉู่.....”
ผู้คุมยกนิ้วมือขึ้นมา นับอยู่อย่างใจเย็น พร้อมพูดขึ้นว่า “คนมากมายขนาดนี้ต่างมาเยี่ยมด้วยตนเอง”
“คุกหลวงนี้คึกคักอย่างกับตลาดนัด แต่ท่านล่ะ?”
โม่ฮั่นอี่ว์นิ่งอึ้งไป “.......”
เทียบกับทางด้านหยุนหว่านหนิง ที่มีผู้คนไปมาหาสู่อย่างคึกคัก ทางด้านเขานั้นเงียบเหงาจริงๆ
“ทำไมพระชายาหมิงถึงไปมาได้ตามใจ? ท่านรู้ดีกว่าข้าน้อยด้วยซ้ำ”
ผู้คุมพูดเสร็จ แล้วก็วิ่งจากไป
โม่ฮั่นอี่ว์โกรธจัด ถอดรองเท้าโยนออกไป พร้อมพูดขึ้นว่า “สารเลว เจ้าฉวยโอกาสตอนที่ข้าถูกขัง แล้วซ้ำเติมใช่ไหม”
เขาหย่อนก้นนั่งลงบนพื้น ตีอกชกหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “น่าโมโหที่สุด”
หยุนหว่านหนิงหัวเราะเสียงดังอย่างไม่เกรงใจ
……
ตำหนักหย่งโซ่ว
การตายของจางหมัวมัว เป็นสัญญาณเตือนให้เต๋อเฟยตื่นตัว
เดิมนางคิดว่า ที่ผ่านมานางเป็นมิตรกับคนในตำหนัก คนในตำหนักพวกนี้ก็จะจงรักภักดีต่อนาง
แต่ครั้งนี้ในตำหนักมีคนทรยศ ทำให้นางรู้สึกได้ถึงความอันตราย
สิ่งที่หยุนหว่านหนิงพูดเตือน ยิ่งทำให้นางต้องระแวดระวัง
เต๋อเฟยยกมือกอดอก เดินไปมาอยู่หนึ่งธูปดอก
หลี่หมัวมัวได้เรียกรวมตัวคนในตำหนักหย่งโซ่วทั้งหมด กำลังยืนรออยู่ข้างล่างบันได
คนในตำหนักพวกนี้ก็พอที่จะรู้แล้วว่า ทำไมเต๋อเฟยถึงเรียกพวกเขามารวมตัวกัน แต่นางกลับไม่พูดอะไร เดินไปมาอยู่อย่างนี้....
เท่ากับเป็นการกดดันอยู่อย่างเงียบๆ
พวกคนในตำหนักต่างก้มหน้าก้มตา แทบไม่กล้าหายใจแรง
แดดร้อนจัดมาก ทุกคนตากแดดจนเหงื่อซึม
นานสักพัก เต๋อเฟยวางมือลง สายตากวาดจ้องมองคนในตำหนักที่ยืนอยู่ด้านล่าง พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าเพียงครั้งเดียว”
“นอกจากเสี่ยวหงจื่อ ตำหนักหย่งโซ่วยังมีคนทรยศอีกไหม?”
เหนียงเหนียงถามคำถามอะไรกัน?
ไม่ได้เอามีดจออยู่บนคอพวกเขาสักหน่อย คนพวกนี้จะตอบตามความจริงได้อย่างไร?
หลี่หมัวมัวกล้าคิดแต่ไม่กล้าพูด
เห็นไม่มีใครตอบ เต๋อเฟยพูดขึ้นด้วยสายตาเฉียบคมว่า “หากไม่มีใครตอบ ข้าจะสั่งโบย คนละห้าสิบที หากทนรับได้ถือว่าพวกเจ้ามีความอดทนพอ”
“คนที่ทนรับไม่ได้.....”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...