อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 542

หยุนหว่านหนิงและโม่เฟยเฟยรีบหันไปยังต้นทางเจ้าของเสียงทันที

ยังไม่ทันจะพูดอะไร “หยิงหยิง หยิงหยิง เจ้ามาแล้วหรือ!”

เขารีบเข้าไปเกาะกรงเหล็กไว้แน่น จากนั้นก็รีบยื่นแขนทั้งสองออกนอกกรงขัง ใบหน้าที่อวบอ้วนเบียดกับกรงเหล็กจนเนื้อแทบจะทะลุออกนอกกรงอยู่แล้ว

“หยิงหยิง! ข้ารู้ว่าเจ้าจะต้องมาอย่างแน่นอน! เจ้าคิดถึงข้าใช่หรือไม่”

เขารีบถามขึ้นด้วยความลนลานจนน้ำเสียงผิดเพี้ยนไปหมด

โจวหยิงหยิงถลึงตาใส่เขา เขาจึงรีบถอยกรูดด้วยความตกใจทันที “ท่านอ๋อง ท่านกำลังทำอันใด ท่านจะทะลุออกมาจากลูกกรงเหล็กหรืออย่างไรกัน”

“ดูรูปร่างของท่านสิ…”

นางพูดขึ้นพลางส่ายหน้าเบาๆ ด้วยสีหน้าที่รังเกียจ

โจวหยิงหยิงไม่ได้สนใจโม่ฮั่นอี่ว์ต่อ นางเดินไปที่หน้าประตูกรงเหล็กของหยุนหว่านหนิงพลางโบกมือทักทาย “หนิงเอ๋อร์…”

หยุนหว่านหนิงเหลือบไปมองโม่ฮั่นอี่ว์อยู่ครู่หนึ่ง

ก็เห็นว่าเขากำลังเกาะประตูลูกกรงด้วยสีหน้าที่ผิดหวัง หยุนหว่านหนิงจึงหัวเราะเบาๆ พลางพูดขึ้นว่า “ไปปลอบใจท่านอ๋องของเจ้าเสียหน่อยหรอก! ป่านนี้คงจะเสียใจแย่”

“เจ้าดูสิ ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนอ้วน แต่ตอนนี้เขาก็เป็นคนอ้วนที่กำลังโศกเศร้าก็เท่านั้น”

สีหน้าท่าทีของโม่ฮั่นอี่ว์ค่อนข้างตลก

หลายวันมานี้เขาไม่ได้เจอหน้าโจวหยิงหยิงเลย

ก่อนหน้านี้หยุนหว่านหนิงเองก็ได้แกล้งขู่เขา ว่าโจวหยิงหยิงได้หนีไปแล้ว ไม่เอาสามีเช่นเขาแล้ว

โม่ฮั่นอี่ว์เสียใจจนกินข้าวปลาไม่ลงสองวัน ร้องไห้จนตาบวมไปหมด ราวกับกบที่กำลังช้ำใจก็ไม่ปาน

เมื่อได้เจอกับโจวหยิงหยิงอีกครั้ง นางกลับไม่มาเยี่ยมเยียนถามไถ่เขาก่อน แต่กลับเลือกที่จะไปพูดคุยกับหยุนหว่านหนิงแทน แล้วโม่ฮั่นอี่ว์จะไม่รู้สึกเสียใจได้อย่างไรกัน

โม่ฮั่นอี่ว์ไม่รู้ว่าโจวหยิงหยิงกำลังตั้งครรภ์ เวลานี้เขาจึงนั่งกองกับพื้นด้วยความเสียใจ ไม่ได้สนใจว่าทั้งสองกำลังคุยอะไรกัน

“หนิงเอ๋อร์ หลังจากที่ข้ารู้ว่าเจ้าถูกเสด็จพ่อสั่งขังคุกหลวง ข้าก็ตกใจกลัวไปหลายวัน!”

โจวหยิงหยิงพูดขึ้นเสียงเบา “ต่อมาก็ได้ยินเจ้าเจ็ดบอกว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าจึงค่อยรู้สึกเบาใจลง”

“เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่”

นางเป็นห่วงหยุนหว่านหนิงมากกว่าโม่ฮั่นอี่ว์เสียด้วยซ้ำ

โม่เฟยเฟยเดินเข้ามาหาทั้งสอง “พี่สะใภ้สอง พี่สองเป็นถึงสามีของท่านเชียวนะ เหตุใดท่านถึงไม่เป็นห่วงพี่สองเลย เขาอยู่ในคุกหลวงมานานหลายวัน ผ่ายผอมไปตั้งเยอะ!”

“เฟยเฟย เหตุใดเจ้าถึงถูกคุมขังด้วย”

โจวหยิงหยิงถามขึ้นด้วยความตกใจ

โม่เฟยเฟยได้ยินแล้วก็กลอกตามองบน “ข้ามาอยู่เป็นเพื่อนพี่สะใภ้เจ็ด”

โจวหยิงหยิงได้ยินแล้วก็พยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็เหลือบไปมองโม่ฮั่นอี่ว์ “เขาจะผอมลงสักเท่าไหร่กันเชียว เจ้าบอกว่าเขาผ่ายผอมไปมาก แต่ข้ากลับเห็นว่าเขาอ้วนขึ้นเสียด้วยซ้ำ!”

เหตุเพราะนางกำลังตั้งครรภ์ โม่ฮั่นอี่ว์ก็ยังสร้างความเดือดร้อนพลอยทำให้บ้านสกุลโจว ‘ลำบาก’ ไปด้วย จึงทำให้โจวหยิงหยิงไม่พอใจเขาเป็นอย่างมาก

ดังนั้นความโกรธที่สุมอยู่ในอกนางจึงยังไม่สลายหายไป!

เมื่อได้ยินนางพูดเช่นนี้ โม่ฮั่นอี่ว์ก็ยิ่งรู้สึกเสียใจเข้าไปใหญ่ เขาจึงแหงนหน้าขึ้นฟ้าพลางร้องไห้เสียงดัง เพื่อระบายความเจ็บปวดในหัวใจของเขาออกมา

เขาถูกขังยังไม่ถึงครึ่งเดือน หยิงหยิงของเขาก็สิ้นรักเขาเสียแล้ว!

ฮือๆๆ เศร้าใจเสียจริง กินข้าวไม่ลงแล้ว…

โม่ฮั่นอี่ว์ครุ่นคิดในใจพลางตักข้าวในถ้วยที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมากินคำโต

ทุเลาความเศร้าด้วยอาหาร!

“หนิงเอ๋อร์”

โจวหยิงหยิงยังคงพูดเสียงเบาเหมือนเฉกเช่นเคย “ข้าได้ยินมาว่าฉินตงหลินจิ้งจอกเฒ่านั่นหาหมอเท้าเปล่ามาได้คนหนึ่ง เห็นว่ามีความเชี่ยวชาญในการรักษาจิตใจเป็นที่สุด”

“หลายวันก่อน หมอเท้าเปล่าคนนั้นไปรักษาที่จวนอ๋องสาม”

“ผ่านมาแล้วหลายวันก็ยังไม่เห็นออกมา เจ้าว่าเขาจะสามารถรักษาฉินซื่อเสวียได้หรือไม่”

เมื่อฟังเรื่องนี้แล้ว สีหน้าของหยุนหว่านหนิงก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาทันที

หลังจากที่ฉินซื่อเสวียเสียสติ นางก็แทบจะไม่ได้สนใจเรื่องภายในของจวนอ๋องสามเลย

นางครุ่นคิดในใจ ยุคสมัยนี้ หากเสียสติไปแล้วก็ยากที่จะรักษาให้กลับมาหายเป็นปกติได้

แต่โจวหยิงหยิงพูดมาเช่นนี้ จู่ๆ นางก็รู้สึกแปลกใจอย่างบอกไม่ถูก “ถึงแม้ว่าหมอเท้าเปล่าผู้นั้นจะสามารถรักษาให้หายได้ ข้าก็ยังสามารถทำให้นางเสียสติได้อีกครั้ง”

นัยน์ตาของนางท่วมท้นไปด้วยแววตาที่เย็นยะเยือก

หยุนหว่านหนิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ฉินตงหลิน คือปลาที่หนีหลุดออกจากอวน”

แม้แต่หยุนเจิ้นซงนางก็จัดการเรียบร้อย กลับยังไม่ลงมือจัดการฉินตงหลิน

เพราะคิดว่าขอแค่เขาทำหน้าที่เฉิงเซี่ยงที่ซื่อสัตย์สุจริต ดูแลหน้าที่ที่ได้รับผิดชอบให้ดีก็เป็นพอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์