อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 543

เพียงชั่วอึดใจก็มีเสียงตึงดังขึ้น พลอยทำให้หยุนหว่านหนิงและโม่เฟยเฟยตกใจเป็นอย่างมาก

ทั้งสองรีบหันกลับไปดูทันควัน ก็เห็นเพียงร่างของโม่ฮั่นอี่ว์ที่กำลังนอนกองกับพื้น

“เฮ้ โม่ฮั่นอี่ว์ ท่านอย่ามาแกล้งตายเช่นนี้!”

หยุนหว่านหนิงเดินเข้าหาเขาพลางตะโกนผ่านรั้วเหล็ก “ท่านคงไม่ได้ร้องไห้จนเป็นลมเพราะหยิงหยิงไม่สนใจหรอกกระมัง?!”

แต่โม่ฮั่นอี่ว์กลับไม่ได้ตอบนาง

เลือดสดๆ ค่อยๆ ไหลออกจากจมูกของเขา...

“เลือด! พี่สะใภ้เจ็ด พี่สองเลือดออก!”

ขณะที่โม่เฟยเฟยหันไปมองหยุนหว่านหนิง เขาก็ได้เปียกโชกไปด้วยเลือดแล้ว โม่เฟยเฟยชี้นิ้วไปยังโม่ฮั่นอี่ว์ด้วยใบหน้าที่ซีดเผือดเพราะตกใจ

“ข้าเห็นแล้ว!”

จากนั้นหยุนหว่านหนิงก็รีบตะโกนเรียกคนทันที “ใครก็ได้ เข้ามาหน่อย!”

โจวฉางเฟิงเองก็รีบลุกขึ้นมาดูสถานการณ์ตรงข้าม “พระชายาหมิง อ๋องฮั่นเป็นอะไรไป?!”

เพียงไม่นานผู้คุมนักโทษก็เปิดประตูเข้ามา หยุนหว่านหนิงรีบเดินไปยังห้องขังที่อยู่ข้างๆ จากนั้นก็ช่วยพยุงโม่ฮั่นอี่ว์ลุกขึ้น เมื่อครู่นี้เขาไม่ได้ล้มลงบนกองฟาง หน้าผากจึงไปกระแทกโดนของแข็งที่แหลมคมเข้า

หน้าผากจึงเกิดบาดแผลที่ค่อนข้างลึก ทำให้เลือดไหลออกมาค่อนข้างเร็ว

ส่วนเรื่องเลือดกำเดา สาเหตุมาจากศีรษะของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง

หยุนหว่านหนิงรีบจับชีพจรของเขาทันที จากนั้นก็หยิบเอาผ้าพันแผล ผ้าปิดปากแผลและยาห้ามเลือดจากช่องว่าอากาศ

หลังจากที่จับชีพจรให้เขาแล้ว หยุนหว่านหนิงก็ทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันทีทันใด

โม่เฟยเฟยเองก็วิ่งตามหลังมาติดๆ นางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “พี่สะใภ้เจ็ด พี่สองเป็นอย่างไรบ้าง เขาคงไม่ได้หกล้มจนเสียชีวิตหรอกกระมัง!”

หยุนหว่านหนิงยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จนใจ “เขาอ้วนถ้วนขนาดนี้ จะตายง่ายขนาดนั้นได้อย่างไรกัน”

“เช่นนี้ เช่นนั้นพี่สองเป็นอย่างไรบ้างแล้ว”

โม่เฟยเฟยและโจวฉางเฟิงต่างก็พากันคิดว่าโม่ฮั่นอี่ว์นั้นป่วยเป็นโรคร้ายแรง

หยุนหว่านหนิงถอนลมหายใจออกมาเบาๆ ด้วยความจนใจ “เพราะกินมากเกินไป! ไม่ได้ดื่มน้ำ ก็เลยร้อนในอย่างรุนแรง”

“และเพราะเมื่อครู่นี้เขาเสียใจเรื่องโจวหยิงหยิงจนเกินไป ร้อนในจึงปะทุขึ้นทรวงอก ทำให้เป็นลมหมดสติไป”

แต่มีอีกหนึ่งเรื่องที่นางไม่ได้พูดออกมา

โม่ฮั่นอี่ว์กินเก่งมาก อ้วนจนเกินไป จึงมีอาการของความดันโลหิต ภาวะน้ำตาลในเลือดและภาวะไขมันในเลือดสูง

โม่เฟยเฟยรู้สึกว่าบรรยากาศในคุกหลวงอุดอู้จนเกินไป หยุนหว่านหนิงเองก็กำลังยุ่งวุ่นจนมือไม้พันกันไปหมด ไม่มีเวลาคุยเรื่องแต่งงานออกเรือนกับนาง นางจึงทำได้เพียงออกจากคุกหลวง

หยุนหว่านหนิงหยิบเครื่องฟังจากช่องว่างในอากาศมาฟังเสียงอวัยวะภายในของโม่ฮั่นอี่ว์ จากนั้นก็ช่วยเขาวัดความดันโลหิต

ผลปรากฏว่าความดันโลหิตของเขาค่อนข้างสูง...

“มิน่าเล่า เขาถึงได้เป็นลมหมดสติง่าย”

นางหยิบยาจากช่องว่างอากาศมาให้เขาทาน จากนั้นก็สั่งให้ผู้คุมนักโทษทำความสะอาดคราบเลือดที่เลอะบนพื้น แล้วจึงค่อยพยุงโม่ฮั่นอี่ว์กลับไปนอนที่เตียง

เจ้านี่หนักเกินไปแล้ว!

หมูน้ำหนักสองร้อยกว่าชั่ง ยังไม่นักเท่าเขาเลย!

หยุนหว่านหนิงพยุงเขาไปนอนที่เตียงด้วยความทุลักทุเล จากนั้นก็กลับไปนอนพักบนเตียงห้องขังที่อยู่ข้างๆ ด้วยความเหนื่อยหอบ

วันนี้โจวหยิงหยิงพูดถึงเรื่องฉินซื่อเสวีย ให้หยุนหว่านหนิงระวังคนผู้นี้ด้วย

หยุนหว่านหนิงรับรู้ได้อย่างหนึ่ง ก็คือ ‘จิตใจของนางยังไม่เหี้ยมโหดพอ!’

หากว่าจิตใจของนางเหี้ยมโหดมากพอ นางก็คงจะลงมือฆ่าฉินซื่อเสวียตั้งแต่แรกแล้ว!

วันข้างหน้าจะได้ไม่ต้องมีปัญหามากมายเกิดขึ้นในภายหลัง...

ตอนนั้นหยุนหว่านหนิงใจไม่แข็งพอที่จะลงมือฆ่าฉินซื่อเสวีย และนางก็อยากที่จะเห็นฉินซื่อเสวียเป็นคนบ้าที่สติฟั่นเฟือน ทุกข์ทรมานเหมือนตายทั้งเป็น จึงจะเป็นการทรมานที่สาสม

และด้วยเหตุนี้ จึงกลายเป็นโอกาสให้ฉินซื่อเสวียกลับมาตั้งต้นได้อีกครั้ง

...

กลางดึก ที่นอกเมืองหลวง

ใกล้จะเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว ค่ำคืนกึ่งก้องไปด้วยเสียงจักจั่นและจิ้งหรีดที่ร้องระงม

ผืนนาที่อยู่ไม่ไกลมากนัก เต็มไปด้วยเสียงร้องของกบเขียด

พึ่งจะพ้นยามจื่อ เมืองหลวงทั้งเมืองก็ได้เข้าสู่ห้วงแห่งการหลับใหล เงากลุ่มคนจำนวนหนึ่งได้ปรากฏขึ้นอย่างเงียบเชียบที่นอกกำแพงเมือง

คนกลุ่มนี้สวมชุดดำทั้งชุด ใบหน้าสวมด้วยหน้ากากปีศาจแยกเขี้ยว

ดูจากระยะไกล ก็จะเห็นว่าบนหน้ากากมีแสงสะท้อนสีเงินเล็กน้อย มองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงแต่อย่างใด

เพียงแต่เงาที่สูงโปร่งสามารถแยกได้อย่างชัดเจนว่าเป็นเงาของผู้ชาย!

เพียงชั่วอึดใจ เงาของกลุ่มคนนับสิบก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ พวกเขาเดินทางมาจากทิศทางของตำหนักสิงกง จากนั้นก็คุกเข่าลงต่อหน้าเขาด้วยสีหน้าที่จนตรอก “คุณชาย ภารกิจล้มเหลวขอรับ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์