สตรีนางนี้ มีหูทิพย์ตาทิพย์หรืออย่างไร
ทุกครั้งที่นางมาพบโม่เฟยเฟยที่ตำหนักเว่ยหยาง นางมักจะมาที่นี่โดย "บังเอิญ"
หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ทำให้หยุนหว่านหนิงจะสงสัย ว่านางวางคนจับตาไว้ข้างกายโม่เฟยเฟยหรือไม่ ทุกครั้งที่ฉินซื่อเสวียมา ล้วนมาทันกาลทุกคราว
“องค์หญิงเก้า กล้าเดิมพันกับข้าหรือไม่”
หยุนหว่านหนิงเลิกคิ้วมองโม่เฟยเฟย
“เดิมพันอะไร”
โม่เฟยเฟยขมวดคิ้ว
“ก็เดิมพันว่า...... นางจะพยายามอย่างที่สุดที่จะพูดเรื่องไม่ดีของข้าต่อหน้าเจ้าหรือไม่!”
โม่เฟยเฟย “.......เจ้าออกไปก่อนดีกว่าเถอะ”
นางรีบยกมือขึ้นปาดน้ำตา “นางจะได้ไม่สงสัย”
แต่ว่า เสียงฝีเท้าของฉินซื่อเสวียดังขึ้นนอกตำหนักแล้ว
จะออกไปตอนนี้ ก็สายเกินไปแล้ว
หากถูกนางเห็นว่าการมีอยู่ของปี้จู นางจะต้องสงสัยอย่างแน่นอน
ดังนั้น หยุนหว่านหนิงจึงวางแผนจะออกไปทางหน้าต่างทันที
ใครจะรู้ว่า จะถูกโม่เฟยเฟยลากลงมา "เจ้าเป็นพระชายาหมิงนะ! ทำเรื่องหยาบคายอย่างนี้ได้อย่างไรกัน หากถูกคนพบเข้า ชื่อเสียงของพี่เจ็ดคงถูกเจ้าทำให้เดือดร้อนแล้ว!"
โม่เฟยเฟยจ้องมองนางอย่างไม่สบอารมณ์ในความไม่เอาถ่าน มือชี้ไปที่ใต้เตียง
“ซ่อนตัวเถอะ!”
ตลกแล้ว!
ให้พรชายาหมิงผู้สูงส่งอย่างนาง ซ่อนตัวใต้เตียง?!
หยุนหว่านหนิงยิ้มเย็น “องค์หญิงเก้าหมายความว่าอย่างไร ดูถูกข้าผู้นี้หรือ”
วินาทีถัดมา ลากปี้จูมา แล้วซ่อนตัวลงใต้เตียงอย่างฉับไว
เป็นเพราะ เสียงฝีเท้าของฉินซื่อเสวีย เข้ามาใกล้แล้ว
ข้างนอกประตู เสียงอันอ่อนโยนของนางดังเข้ามา "เฟยเฟย? ได้ยินมาว่าช่วงนี้เจ้ารู้สึกไม่ค่อยสบาย ดีขึ้นบ้างไหม ข้าต้มน้ำแกงไก่ที่เจ้าชอบมากที่สุดมาให้เจ้า"
“พี่สะใภสาม”
โม่เฟยเฟยหัวเราะอย่างฝืนใจ “ข้าไม่เป็นไร”
“ต้มน้ำแกงมาทำไม ทำให้ท่านสิ้นเปลืองความคิดเกินไปแล้ว”
ขณะฟัง ก็รู้สึกสุภาพและห่างเหินกันเล็กน้อย
เทียบกับความสนิทสนมในอดีต ก็แทบจะแตกต่างราวกับคนละคน
ฉินซื่อเสวียขมวดคิ้วอย่างนิ่งเฉย ยิ้มแล้ววางชามน้ำแกงไว้ด้านข้าง และส่งสัญญาณให้โม่ลี่ตักน้ำแกงให้โม่เฟยเฟย"ทำไมถึงสิ้นเปลืองความคิดหรือไม่เล่า ความสัมพันธ์พวกเราพี่น้องเหตุใดถึงมองเป็นคนอื่นคนไกลกันล่ะ"
หยุนหว่านหนิงใต้เตียง แหวะ
โม่เฟยเฟย “……”
เมื่อเห็นนางนิ่งเงียบ ฉินซื่อเสวียรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างแปลกประหลาด
“เฟยเฟยวันนี้เจ้าเป็นอะไรไป ข้ามองแล้วอารมณ์ไม่ดีหรือ”
ฉินซื่อเสวียถามด้วยความกังวล "ทำไมตาเจ้าแดงจัง หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น"
นางกุมมือของนางอย่างสนิทสนม แล้วตบเบา ๆ
ถ้าเป็นในอดีต โม่เฟยเฟยคิดเพียงว่านางปฏิบัติต่อนางอย่างดี เห็นนางเหมือนน้องสาวแท้ ๆ แต่เมื่อวันนี้ตรึกตรอง ฉินซื่อเสวียก็มีน้องสาวแท้ ๆ อยู่แล้ว ชื่อฉินเย่ว์หลิ่ว
ฉินซื่อเสวียปฏิบัติต่อน้องสาวแท้ ๆ คนนี้ อย่างไม่ใส่ใจ
แล้วจะ ปฏิบัติต่อน้องสาวสามีอย่างนางดีได้อย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ฉินซื่อเสวียแต่งด้วยเป็นโม่หุยเฟิง ไม่ใช่โม่เยว่
ในแง่ของความสัมพันธ์ หยุนหว่านหนิงถึงจะเป็นพี่สะใภ้ที่แท้จริงของนาง
ยิ่งคิดครุ่นคิด โม่เฟยเฟยก็ยิ่งรู้สึกว่าความดีของฉินซื่อเสวียนั้นมีแผนการ มิฉะนั้นจะปฏิบัติต่อนางอย่างดีโดยไม่มีเหตุผลได้อย่างไร!
ขณะถูกนางกุมมือไว้ โม่เฟยเฟยรู้สึกเพียงขนลุกขนพอง
อีกทั้ง รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง
นางรีบชักมือออก
เป็นเพราะในใจต่อต้านค่อนข้างมาก ฉินซื่อเสวียจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย "เฟยเฟย เจ้าเป็นอะไรกันแน่ ทำไมข้าถึงรู้สึกว่า วันนี้เจ้าทำตัวแปลกไป"
“เปล่านี่”
โม่เฟยเฟยโกหกไม่เก่ง
นางมองอย่างร้อนตัว รอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งฝืดเฝื่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...