โม่เฟยเฟยในอดีต ถูกใบหน้าใสซื่อฉินซื่อเสวียทำให้หน้ามืดตามัว
ตอนนี้นางมองเห็นทะลุปรุโปร่งแล้วว่า เบื้องหลังใบหน้าใสซื่อของนางนี้ มีจิตใจชั่วร้ายอย่างไรซ่อนอยู่กันแน่ ดังนั้นการเสแสร้งไม่ได้รับความเป็นธรรมกับนาง โม่เฟยเฟยนั้นก็ไม่ได้รู้สึกอะไร
นางกวาดตามองอย่างเย็นชา “พี่สะใภ้สามคิดมากแล้ว”
“ช่วงนี้ข้าไม่สบาย ไม่ค่อยอยากพูดเยอะเท่าไร จะกับใครก็ล้วนเป็นเช่นนี้”
คำอธิบายนี้ ทำให้ฉินซื่อเสวียถอนหายใจอย่างไม่เต็มใจ
นางรู้จักลักษณะนิสัยของโม่เฟยเฟยเป็นอย่างดี
หากนางรู้เรื่องตอนนั้นจริง ๆ ...ตอนนี้คงไม่คุยกับนางอย่างใจเย็นเช่นนี้ เกรงว่าคงโวยวายให้วุ่นไปทั้งวังแต่แรก แล้วโวยวายไปฉีกทึ้งหลังคาจวนอ๋องหยิง
คาดว่าความจริงเมื่อสี่ปีที่แล้ว แม้แต่หยุนหว่านหนิงก็ไม่รู้
นางทำให้กลายเป็นแพะรับบาปของนาง และต้องเป็นแพะรับบาปของนางไปตลอดชีวิตนี้!
ความเย็นชาในแววตาฉินซื่อเสวียฉายแวบครู่หนึ่ง
ตอนที่มองโม่เฟยเฟยอีกครั้ง ก็ยิ้มอย่างนุ่มนวล “เฟยเฟย เจ้ายังไม่ได้บอกข้าเลย ว่าเมื่อวานเจ้าไปทำอะไรที่จวนอ๋องหมิงรึ”
“เจ้ากับพระชายาหมิง...ความสัมพันธ์ดีขึ้นแล้วหรือ”
ขณะพูด ไม่รอให้โม่เฟยเฟยตอบกลับ นางก็พูดกับตัวเองว่า “อันที่จริง พระชายาหมิงถึงจะเป็นพี่สะใภ้ที่แท้จริงของเจ้า”
“เฟยเฟย เจ้าควรอยู่ร่วมกับนางอย่างสันติถึงจะถูก”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โม่เฟยเฟยก็รู้สึกประหลาดใจ
นางกวาดตามองฉินซื่อเสวีย “พี่สะใภ้สาม หมายความว่าอย่างไร”
“เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าเจ้าบอกข้าว่า หยุนหว่านหนิงทำร้ายข้า ข้าต้องจดจำความแค้นนี้ไปตลอดชีวิตหรือไม่”
ฉินซื่อเสวียทำหน้าอึดอัดเล็กน้อย
แต่หลังจากคิดดูแล้ว โม่เฟยเฟยเป็นคนไม่มีสมอง
ตราบใดที่นางไม่พูดความอึดอัดของนางออกไป โม่เฟยเฟยก็ไม่มีทางมองความอึดอัดของนางออกแน่นอน!
ดังนั้น นางจึงอธิบายด้วยรอยยิ้มบางว่า “เมื่อก่อนก็คือเมื่อก่อน เมื่อก่อนที่ท่านพี่เยว่ไม่ชอบนาง แต่มาดูตอนนี้ ไม่เพียงแต่ท่านพี่เยว่จะอบนาง แม้กระทั่งเสด็จพ่อก็ให้ความสำคัญนาง”
“หากเจ้ายังเป็นศัตรูกับนางต่อไป จะไม่เป็นการทำให้ท่านพี่เยว่และคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงกลางลำบากใจหรือ”
ฟังดูแล้วเหมือนจะเพื่อให้เป็นผลดีต่อครอบครัวของพวกเขา
แต่ในใจโม่เฟยเฟยกลับหัวเราะอย่างเย็นชา
ฉินซื่อเสวียผู้นี้ ยังคิดว่านางฟังความหมายโดยนัยไม่ออกจริง ๆ หรือ
เห็นชัดว่าเป็นแผนการสร้างความบาดหมางที่สุดยอดยิ่ง
ให้นางรู้ว่าหยุนหว่านหนิงเป็นคนก่อกวนราชวงศ์ให้วุ่นวาย หากนางยังเป็นอริกับนางต่อไป ก็จะเป็นการทำให้โม่เยว่และคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงกลางลำบากใจ
สุดยอด สุดยอดจริง ๆ!
เมื่อสบสายตาที่ “จริงใจ” ของฉินซื่อเสวีย โม่เฟยเฟยยิ้มทันทีทันใด “ที่พี่สะใภ้สามพูดถูกจริง ๆ ”
“นังคนชั้นต่ำหยุนหว่านหนิงนี่ไม่ง่ายเลยจริง ๆ ! ตอนนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้พี่เจ็ดข้าชื่นชอบเท่านั้น ยังทำให้เสด็จพ่อเห็นความสำคัญได้ แม้แต่เสด็จแม่ก็เหมือนจะเปลี่ยนความคิดที่มีต่อนาง...”
โม่เฟยเฟยถอนหายใจ "ข้าเป็นศัตรูกับนางนั้นไม่ดีเลยจริงๆ !"
เห็นนางฟังความหมายโดยนัยของนางออก ฉินซื่อเสวียถอนหายใจอย่างนิ่งเงียบ
นางก็ได้รู้ว่า โม่เฟยเฟยเป็นคนที่ไม่มีสมอง
ตอนนี้ล้วนเป็นนางกังวลมากเกินไป เฟยเฟยผู้นี้ยังเป็นคนโง่เง่าเหมือนเดิม เพราะงั้นก็ได้จัดการไปเยอะแล้ว
นางจับมือของนางเบา ๆ ทำหน้าจริงใจ “เฟยเฟย ข้าก็เพราะดีต่อเจ้า!แม้ข้ากับท่านพี่เยว่ไม่อาจเป็นสามีภรรยากันได้ แต่ใจข้านี้ก็หวังให้เขามีชีวิตที่ดี”
“ไม่สนว่าเมื่อก่อนหยุนหว่านหนิงจะเป็นอย่างไร...”
ครู่หนึ่ง นางก็ส่ายหัวเบา ๆ อีกครั้ง “แต่อย่างน้อยตอนนี้นางได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว! พวกเราก็ไม่ควรหมกมุ่นกับความเกลียดชังที่ผ่านไปแล้ว ควรให้โอกาสนางกลับเนื้อกลับตัวสักคราไม่ใช่หรือ”
“ที่พี่สะใภ้สามพูดก็ใช่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...