หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...บริษัทซานเตียนโน่ คอร์ปอเรชัน
เวลา 16:07 น.หลังจากทำงานครบกำหนดตามที่บิดาตั้งไว้ สองหนุ่มก็ถูกเรียกเข้าไปคุยที่ห้องประชุมใหญ่
“พ่อดีใจนะ ที่ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาลูกทั้งสองตั้งใจทำงาน จนดีแลนเอ่ยปากชม” ลูคัสเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
‘แหม...ก็ลองไม่ชมดูสิ ครึ่งปีที่ผ่านมานี้พี่รัญแทบจะไม่ได้ทำงานอะไรเลย’ ภาคินแอบตอบในใจ
“เอาเป็นว่า...ไลอ้อนได้ไปคุมกิจการทางเหนือตามที่ขอ ส่วนไทเกอร์ได้คุมกิจการทางใต้ และสามปีต่อจากนี้...หากใครทำกิจการของพ่อขาดทุนก็เตรียมตัวกลับมาเป็นเลขาและเรียนรู้งานกับดีแลนใหม่” ลูคัสบอกบุตรชายทั้งสองอย่างเป็นทางการ
“ครับ/ครับ” สองหนุ่มขานรับด้วยรอยยิ้ม
“ไทเกอร์โอเคใช่ไหมที่ต้องไปคุมกิจการทางใต้” ลูคัสถามย้ำ
“โอเคครับ” ภัคคินัยฉีกยิ้มให้บิดา
“งั้นก็ไปพักผ่อนกันก่อนสักสองอาทิตย์ แล้วค่อยเริ่มงานกันต้นเดือนหน้า อ้อ! ใครว่างก็แวะไปเยี่ยมยายบ้างนะ บ่นคิดถึงใหญ่เลย” ลูคัสบอกพลางลอบสังเกตอาการของคนที่อยากจะไปคุมกิจการทางเหนือ
“โอเค! งั้นผมจะกลับวันนี้เลยครับ” ภาคินรีบบอก
“ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้” ลูคัสเอ่ยแซว
“กะ...ก็ผมคิดถึงยายนี่ครับ” ภาคินตอบอย่างอายๆ
“ใช่เหรอ?” ภัคคินัยกลอกตาอย่างรู้สึกหมั่นไส้
“ยุ่งน่า” ภาคินมองค้อนแฝดผู้น้อง
“หึๆ พ่อจะพยายามเชื่อก็แล้วกันนะ อ้อ! แล้วนี่ไทเกอร์รู้หรือเปล่าว่า อีกสามวันหนูคาร่าจะเดินทางไปอังกฤษแล้ว” ลูคัสเอ่ยถามเรื่องสำคัญ
“ยังครับ” ภัคคินัยขมวดคิ้วจนแทบจะพันกัน
“น้องไวน์ไปด้วยไหมครับ” ภาคินรีบถามถึงสาวเจ้าอย่างใจคอไม่ดี
“ไปสิ! เห็นว่าจะไปเรียนปรับพื้นฐานก่อน อ้าว! ไลอ้อนจะไปไหน” ลูคัสถึงกับตกใจเมื่อเห็นบุตรชายเดินออกห้องไปโดยไม่บอกไม่กล่าว
“ผมจะไปหายายครับ” ภาคินหันไปตอบบิดาก่อนจะรีบเดินตรงไปที่ลิฟต์อย่างคนที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“ไทเกอร์ตามไปดูไลอ้อนหน่อย” ลูคัสรีบบอกอย่างเป็นห่วง
“ครับ” ภัคคินัยรีบตามไป พร้อมกับตะโกนเรียกแฝดผู้พี่ด้วยสีหน้าตื่นๆ “คิน! รอก่อน”
“มึงจะตามกูมาทำไม?” ภาคินกลอกตาอย่างเซ็งเมื่อเห็นแฝดผู้น้องวิ่งตามเข้ามาในลิฟต์
“พ่อให้กูไปเชียงใหม่พร้อมกับมึง” ภัคคินัยรีบยกเอาบิดามาอ้าง
“บ้า! มึงจะไปทำไม” ภาคินส่ายหน้า แล้วกดลิฟต์ลงไปยังชั้นล็อบบี
“กูต้องไปส่งคาร่าขึ้นเครื่อง” คนมีข้ออ้างบอกยิ้มๆ
ภาคินกลอกตาอย่างเซ็งๆ พลางนึกไปถึงวรันยาที่กำลังจะออกเดินทางไปอังกฤษในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ก็รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก เพราะตั้งใจว่าจะกลับไปใช้เวลากับสาวเจ้าให้หายคิดถึง แต่ก็เหมือนว่าทุกอย่างจะไม่เป็นไปดั่งที่ตั้งใจ
เชียงใหม่...เวลา 18:01 น. หลังจากที่ภาคินกับภัคคินัยลงเครื่องเสร็จ ก็เดินออกมาเจอสิงขรรอรับอยู่ตรงประตูทางเข้า-ออกด้านหน้าสนามบิน
“สวัสดีครับคุณคิน คุณนัย” สิงขรหัวหน้าคนงานในไร่ไปรยาเวศ เอ่ยทักทายหลานชายฝาแฝดของคุณหญิงกังศมาด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีครับพี่สิงห์ / สวัสดีครับ พี่สิงห์มาคนเดียวเหรอครับ” ภาคินกับภัคคินัยยกมือไหว้คนที่อายุมากกวาอย่างนับถือ เพราะสิงขรคุมงานในไร่มานานร่วมสิบกว่าปีแล้ว
“ใช่ครับ คุณมาร์ติดละครเลยส่งผมมารับแทน” สิงขรเอ่ยหยอกพร้อมกับรับไหว้สองหนุ่ม ที่เห็นมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น จนกระทั่งเรียนจบและเตรียมจะเริ่มทำงานในฐานะผู้บริหารรุ่นต่อไปของไปรยาเวศและซานเตียนโน่
“เฮ้อ...นึกว่ายายจะคิดถึงผมกับไอ้นัยซะอีก” ภาคินตัดพ้อ
“หึๆ จะกลับไร่เลย หรือว่าจะแวะที่ไหนก่อนไหมครับ” สิงขรหัวเราะเบาๆ กับท่าทีของหนุ่มอารมณ์ขัน
“กลับไร่เลยครับ ผมคิดถึงยาย” ภาคินรีบบอกเพราะกลัวว่าแฝดผู้น้องจะแวะที่อื่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)