“เราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ” วรันยาเอ่ยชวนอย่างรู้สึกอายนิดๆ
“จ้ะ” กังศมายิ้มรับ ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้หลานชายและหัวหน้าคนงานในไร่ (สิงขร) ออกเดินตาม
“สวัสดีครับอาสิน” ภาคินเอ่ยทักทายผู้ใหญ่
“สวัสดีคิน! อาขอบใจมากนะเราที่จะไปส่งน้องไวน์ถึงอังกฤษ” สินชัยรับไหว้ พร้อมกับบอกอย่างซาบซึ้งใจ
“ผมยินดีครับ” ภาคินยิ้มรับทันใด
“เดี๋ยวนะ! นี่พี่คินจะไปส่งไวน์อย่างนั้นเหรอคะ?” วรันยาหันไปถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง
“ใช่จ้ะ” กังศมาชิงตอบ ‘บ้าจริง! นี่สินยังไม่ได้บอกน้องไวน์เหรอเนี่ย’
“เอ่อ...ไวน์ไปกับคาร่าสองคนได้ค่ะ” วรันยารีบบอก เพราะเพื่อนสาวของเธอก็อยู่อังกฤษมาตั้งแต่เด็ก คุ้นเคยกับสถานที่ต่างๆ เป็นอย่างดี จึงไม่มีอะไรให้ต้องน่าเป็นห่วง
ภาคินมองค้อนแม่ตุ๊กตาบลายธ์ ก่อนจะเอ่ยเรื่องที่อีกฝ่ายน่าจะยังไม่รู้ “คาร่าเลื่อนการเดินทางออกไปหนึ่งอาทิตย์ครับ”
“ไม่จริง!” วรันยาส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อ เพราะเมื่อคืนเธอยังวิดีโอคอลคุยกับเพื่อนสาว ไม่เห็นอีกฝ่ายจะว่าอะไร
“งั้น...น้องไวน์ก็ลองโทรไปถามดูสิครับ” ภาคินยกยิ้มที่มุมปาก
วรันยารีบล้วงมือถือมาขึ้นมาเตรียมจะกดต่อสายหาเพื่อนรัก แต่อีกฝ่ายกลับโทร. เข้ามาเสียก่อน เธอจึงรีบกดรับสาย
[คาร่า! เธอเลื่อนการเดินทางออกไปอย่างนั้นเหรอ?]
[ใช่! ฉันขอโทษจริงๆ นะไวน์ ต้องไปทำธุระกับพ่อก่อน ก็เลย...]
วรันยาฟังเพื่อนสาวพูดยังไม่ทันจบก็ถูกจอมทะลึ่งแย่งมือถือไปคุยสายหน้าตาเฉย [พี่จะดูแลน้องไวน์เองครับไม่ต้องห่วง]
[เอ่อ...นั่นพี่คินใช่ไหมคะ?]
[ครับ]
[ฝากดูแลไวน์ด้วยนะคะ แล้วก็ขอโทษที่มีเหตุกะทันหัน]
[ไม่ต้องห่วงครับ พี่จะพาน้องไวน์ไปดูสถานที่ต่างๆ รอ]
[ค่ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ หนูต้องรีบไปแล้ว] ปลายสายบอกจบก็กดวางไปทันทีทันใด
“คาร่ามีธุระสำคัญกับลุงอัสลานนะครับ” ภาคินบอกก่อนจะส่งมือถือคืนให้กับสาวเจ้า
“อืม...งั้นเราไปกินข้าวกันเถอะ เดี๋ยวจะสาย” สินชัยเอ่ยชวนเพราะกลัวว่าบุตรสาวและภาคินจะตกเครื่อง
“ครับ” ภาคินขานรับก่อนจะเดินตามผู้ใหญ่ไปด้วยสีหน้าอันเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ขณะที่วรันยายืนสตั้นนิ่งอยู่กับที่
“ไปจ้ะน้องไวน์” กังศมาสะกิดสาวเจ้าที่ยังไม่หายงงให้ออกเดินไปยังโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งมีนารีกับเพลินกำลังตักข้าวใส่จานรออยู่
หลังจากที่รับประทานอาหารและร่ำลากันเสร็จเรียบร้อย ซึ่งแน่นอนว่ามีดราม่าบ่อน้ำตาแตกกันทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ภาคินที่ต้องแอบเบือนหน้าหนีแล้วปาดน้ำตาทิ้งอยู่สอง-สามครั้ง
วรันยาได้ขวัญถุงจากกังศมาจำนวนหนึ่งหลังจากที่อีกฝ่ายผูกข้อมืออวยพรให้ จากนั้นเธอก็ออกเดินทางไปขึ้นเครื่องกับภาคิน โดยมีสิงขรกับนารีขับรถไปส่งที่สนามบินเชียงใหม่
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...
พอลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ วรันยาก็เจอกับหิรัญที่มาดักรอพร้อมกับคนสนิทของอีกฝ่าย
“แหม...ไม่เจอกันแค่ปีเดียวเอง น้องสาวพี่สวยขึ้นเป็นกองเลย” หิรัญ อ้าแขนรอให้สาวน้อยที่รักดั่งน้องสาวแท้ๆ วิ่งเข้ามากอดเหมือนทุกครั้ง
“คิดถึงพี่รัญที่สุดเลยค่ะ” วรันยาวิ่งไปหาอีกฝ่ายอย่างดีใจ ขณะที่ภาคินกลอกตาอย่างเซ็งๆ หลังเห็นพี่ชายกอดและหอมแก้มของสาวเจ้า
“ตั้งใจเรียนนะ ว่างๆ พี่จะแวะไปหาครับ” หิรัญบอกก่อนจะเหลือบไปมองใบหน้าที่บูดบึ้งของน้องชาย ก็อดหัวเราะไม่ได้
“ค่ะ” วรันยาฉีกยิ้มหวานให้พี่ใหญ่ของซานเตียนโน่ที่น่ารักและอบอุ่นกับเธอเสมอ
“แล้วนี่คินจะไปส่งน้องไวน์เหรอ?” หิรัญแสร้งถาม ทั้งที่รู้จากผู้เป็นยายมาแล้วเมื่อคืน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)