“แหม...ก็ช่วยทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยสิคะ หน้าดุอย่างนั้นใครจะกล้าเข้าไปกอดกัน” วรัยาบอกพลางแอบยิ้มในใจ
“น้อยๆ หน่อยไวน์ ที่พี่หน้าดุก็เป็นเพราะเราไม่ยอมเข้ามากอดพี่ตั้งแต่แรก นี่ถ้าอาสินกับยายไม่อยู่ด้วยล่ะก็...พี่จะจับตีก้นให้ช้ำเลยคอยดู” ภาคินคาดโทษด้วย น้ำเสียงดุๆ
“บ้า!” วรันยามองค้อนคนที่นับวันก็ยิ่งเจ้าบทบาทเข้าไปทุกที
“สรุปจะกอดหรือไม่กอด” ภาคินบอกอย่างเริ่มจะทนไม่ไหว
“ขากลับค่อยกอดได้ไหม” วรันยาต่อรอง
“หึ! ถ้าจะกอดพี่ตอนขากลับมันอาจจะเลยเถิดไปไกลนะ”
“โอเคๆ” วรันยาขานรับยังไม่ทันขาดคำ ก็ถูกอีกฝ่ายดึงเข้าไปกอดแน่นจนแทบจะหลอมรวมกันเป็นร่างเดียว “อ๊ะ! ปล่อยนะพี่คิน”
“เงียบๆ สิ พี่ขอกอดแป๊บเดียวเอง” คนที่กำลังซึมซับไออุ่นเอ็ด ก่อนจะกดจูบลงที่เรียวปากจิ้มลิ้มที่เฝ้าแต่ฝันถึงคืนแล้วคืนเล่าอย่างนุ่มนวล
“อะ...อื้อ...พะ...พี่คิน” วรันยาครางท้วงเบาๆ แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน
ภาคินถอนจูบที่แสนหวานออก แล้วก้มลงหอมที่แก้มนวลทั้งสองข้าง พร้อมกับเอ่ยกระซิบเสียงอ่อน “พี่คิดถึงน้องไวน์นะรู้ไหม”
“ไม่รู้ค่ะ” วรันยาตอกกลับทันใด
“แนะ! พูดกวนแบบนี้เดี๋ยวพี่ก็พาเข้าโรงแรมข้างทางซะหรอก” ภาคินอมยิ้มเมื่อเห็นใบหน้างามแดงก่ำ
“บ้า! รีบๆ ออกรถเถอะค่ะ ไวน์กลัวพนักงานที่รีสอร์ตจะขับรถผ่านมาเห็น”
“กลัวทำไม ถ้าอาสินรู้เราก็จัดงานแต่งงานไปเลย น้องไวน์ก็ไม่ต้องกลับไปเรียนต่อแล้ว เมียคนเดียวพี่เลี้ยงได้สบายครับ”
“ชิ!” วรันยามองค้อนคนปากดี ก่อนจะเบือนหน้าหนีอย่างรู้สึกเขิน
“พี่พูดจริงๆ นะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพี่ก็พร้อมจะรับอย่างเต็มใจ” คนที่เตรียมตัวพร้อมมาหลายปีพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“อืม...น่าเสียดายนะคะที่พี่นัยกับพี่รัญไม่ได้กลับมาเที่ยวที่ไร่” วรันยารีบเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะไม่อยากจะลงลึกถึงเรื่องอนาคตในตอนนี้
“! นี่พี่จริงจังอยู่นะไวน์” ภาคินหน้ามุ่ยขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์ที่ถูกสาวเจ้าเฉไฉเรื่องสำคัญ
“รีบๆ ออกรถเถอะค่ะ ไวน์อยากกินลูกชิ้นทองสุขจะแย่แล้ว” วรันยาเบี่ยงความสนใจ พร้อมกับกดเปิดเพลงคลาสสิกฟังเบาๆ
“หอมแก้มพี่ก่อนสิ” ภาคินอ้อนขอกำลังใจจากสาว
“เฮ้อ...” วรันยาถอนหายใจ แล้วขยับเข้าไปหอมแก้มของอีกฝ่ายอย่างเสียไม่ได้ จุ๊บ! จุ๊บ!
“อื้อ...ชื่นใจจัง” ภาคินยิ้มก่อนจะรีบขับรถมุ่งตรงไปยังในเมืองด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข
พอเดินทางมาถึงในเมือง ภาคินก็นำรถไปจอดข้างๆ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง พร้อมกับจ่ายเงินให้พนักงานดูแลรถของตนเป็นพิเศษ จากนั้นก็ควงวรันยาเดินไปตามทางที่มีผู้คนและร้านค้าตั้งเรียงกันอยู่มากมาย
“ว้าว! คนเยอะจังเลยนะคะ” วรันยาหันไปมองรอบๆ อย่างตื่นเต้น
“นั่นสิ! นี่ถ้าวันแข่งกระทงใหญ่คงจะต้องเดินเบียดกันแน่ๆ” ภาคินพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ใช่ค่ะ! แต่วันกระทงใหญ่ไวน์จะอยู่ที่รีสอร์ตนะคะ ต้องช่วยพ่อดูแลลูกค้า” เธอรีบบอกเพราะกลัวว่าจะถูกอีกฝ่ายลากไปเที่ยวที่นั่นที่นี่แล้วไม่ได้อยู่ช่วยงานของบิดา
“ครับ! พี่จะแวะไปเฝ้า เอ๊ย! ไปช่วย” ภาคินรีบขันอาสา
“บ้า! ที่ไร่ก็มีงานไม่ใช่เหรอคะ” วรันยารีบท้วงเพราะที่ไร่ไปรยาเวศจะจัดงานเลี้ยงคนงานในไร่ตลอด ทั้งวันลอยกระทง วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และวันสงกรานต์
“ช่วงหัวค่ำพี่ไปช่วยน้องไวน์ที่รีสอร์ต แล้วสักสาม-สี่ทุ่มน้องไวน์ก็ไปสังสรรค์ต่อกับพี่ที่ไร่สิครับ” ภาคินเสนอ
“ก็ได้ค่ะ” วรันยาพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย เพราะลึกๆ แล้วเธอก็อยากจะใช้เวลาร่วมกับอีกฝ่ายเช่นกัน
“อ่า...พี่เจอลูกชิ้นทองสุขแล้ว” ภาคินรีบบอกสาวเจ้าก่อนจะหันไปสั่งกับพ่อค้า “เอาลูกชิ้นหมู 200 บาทครับ”
“รอสักครู่นะครับ” พ่อค้าบอกหนุ่มสาวยิ้มๆ ก่อนจะลงมือตักลูกชิ้นหมูใส่ลงในถุง
ภาคินพยักหน้ารับแล้วหันกลับไปคุยกับสาวข้างกายต่อ “แล้วพรุ่งนี้น้องไวน์จะไปไหนหรือเปล่าครับ”
“อืม...ไวน์จะอยู่ที่รีสอร์ตค่ะ”
“พี่จะอยู่ด้วยครับ”
“แล้วพี่คินไม่ไปดูงานที่โรงแรมเหรอคะ?” เธอถามอย่างสงสัย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)