ทันทีที่เข้าไปข้างในลิฟต์ ภาคินก็ดึงร่างบางเข้ามากอด พร้อมกับเอ่ยกระซิบ “พี่ขอโทษที่เมื่อกี้ทำตัวไม่ดีครับ”
“ช่างมันเถอะค่ะ” วรันยาบอกพร้อมกับแกะมือหนาออกจากเอว
“พี่รักไวน์มากนะรู้ไหม ที่ผ่านมาพี่อาจจะเคยทำตัวไม่ดีไปบ้าง แต่ต่อจากนี้ไปพี่สาบานว่าจะมีแต่น้องไวน์คนเดียวครับ” ภาคินให้คำมั่น ก่อนจะเกยคางบนไหล่บางเบาๆ
“ที่ไวน์ยอมดีด้วยเพราะคุณมาร์ ส่วนเรื่องของเราเอาไว้ถ้าไวน์เรียนจบแล้ว ถึงตอนนั้นถ้าพี่คินยังไม่คบหาใคร ก็ค่อยมาคุยกันดีกว่าค่ะ ตอนนี้ไวน์อยากโฟกัสแค่เรื่องเรียนอย่างเดียว” วรันยาออกตัว
“ที่กันพี่ออกห่างนี่คงไม่ได้คิดจะคบหาใครใช่ไหม?” ภาคินรู้สึกเจ็บจี๊ด ที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก
“ไวน์ก็บอกไปแล้วไงคะว่าอยากจะโฟกัสเฉพาะเรื่องเรียน” วรันยาพยายามแกะมือหนาออกอีกครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล
“แล้วจากนี้...ถ้าพี่โทรหา จะรับสายพี่ไหม?” ภาคินถามเสียงสั่น
“ถ้าว่างก็จะรับค่ะ” วรันยากลืนก้อนแข็งๆ ที่แล่นมาจุกอยู่ตรงต้นคออย่างยากลำบาก
“...” คนที่ได้ฟังคำตอบถึงกับน้ำตาคลอขึ้นมาทันทีทันใด
“พี่คิน” วรันยาเอ่ยเรียกเมื่อหยดน้ำอุ่นๆ ของเขาหยดลงบนหลังมือของเธอสอง-สามหยด
“พี่รู้ว่าเราจะไม่รับสายของพี่” ภาคินดักทางขณะที่น้ำตาไหลทะลักออกมาตอกย้ำความเจ็บปวดในใจ
“ถ้าพี่คินรู้ขนาดนั้น ก็น่าจะรู้ว่าการที่คนรักไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่น มันไม่ได้ลบหรือว่าลืมได้ในวันเดียว” วรันยายกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของตัวเองทิ้ง
“พี่ขอโทษครับ ยกโทษให้พี่ได้ไหม พี่อยู่กับความรู้สึกนี้ไม่ได้ ได้โปรด...” ภาคินอ้อนวอนอย่างคนหมดหนทาง
“แล้วพี่คินคิดว่าไวน์อยากอยู่กับความรู้สึกนี้เหรอคะ” วรันยาถามกลับทั้งน้ำตา
“พี่...” ภาคินถึงกับพูดไม่ออก
“เอาไว้ไวน์เรียนจบแล้ว เราค่อยมาคุยกันค่ะ ตอนนี้ไวน์ไม่รับปากทั้งนั้น” วรันยาตัดบทพร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกๆ
“ก็ได้ครับ พี่จะรอ” คนมีความผิดยอมรับชะตากรรมของตัวเอง เขาจะรอให้เธอเย็นลงกว่านี้ แล้วค่อยกลับมาง้อใหม่ หากง้อไม่สำเร็จ ก็คงต้องทำอะไรสักอย่าง แม้มันจะดูโหดร้ายไปบ้าง แต่ก็ต้องทำ เพราะเธอคือผู้หญิงคนเดียวที่เขารักและอยากจะแต่งงานด้วย
นาทีต่อมา...หลังจากที่ประตูลิฟต์เปิดออกหนุ่มสาวก็รีบปรับอารมณ์และ สีหน้า แล้วพากันไปซื้อของที่ซุปเปอร์ใกล้ๆ
ตลอดเวลาที่เดินเลือกซื้อของภาคินพยายามจะชวนคุย ‘เอาเซเลอรี่ไหมครับ’ ‘เอาเห็ดด้วยหรือเปล่า’ แต่คำตอบที่ได้รับกลับมามีเพียง ‘ค่ะ’ สั้นๆ คำเดียว เขาจึงแกล้งชูกล่องคอนดอมกับเจลหล่อลื่นให้ดู ซึ่งคำตอบก็ยังเป็นค่ะคำเดิม เพิ่มเติมคือเธอรีบเดินหนีเขาไปไกลราวกับคนไม่รู้จักกัน
วรันยาวิ่งหอบออกมานั่งรอที่ม้านั่งด้านนอกซุปเปอร์มาเก็ต เพราะอับอายและทนความเซ้าซี้ของอีกฝ่ายไม่ไหว ทุกครั้งที่เขาจะหยิบของใส่ลงรถเข็น ก็เอาแต่ถามเธออยู่ตลอด ด้วยความรำคาญเธอจึงตอบไปว่า ค่ะ! ค่ะ! และค่ะ จนมาถึงตอนที่พนักงานคิดเงิน เธอไม่ทันได้ฟังว่าเขาถามอะไร จึงตอบไปว่าค่ะเหมือนเดิม แต่พอเงยหน้าขึ้นมองก็ตกใจจนแทบช็อกที่เห็นอีกฝ่ายยื่นกล่องถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นมาให้ดู ! เธออยากจะกรีดร้องแล้วกระโจนเข้าไปข่วนหน้าหล่อๆ ให้เสียโฉม เอาให้ไม่มีสาวคนไหนกล้าหันมามองอีกเลยตลอดชาติ แต่เพราะเสียงหัวเราะและสายตาของผู้คนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ทำให้เธออายจนต้องรีบเดินหนีออกมา
พอกลับมาถึงเพนท์เฮาส์ ภาคินกับวรันยาก็ช่วยกันลงมือล้างผักและหมักเนื้อ ก่อนจะยกไปวางที่โต๊ะด้านนอก
กัศมาอมยิ้มเมื่อเห็นหลานชายมีสีหน้าที่ดีขึ้น แม้ว่าวรันยาจะมีใบหน้า ที่บูดบึ้งอยู่นิดๆ ซึ่งเธอรู้ว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นในใจครั้งนี้มันหนักหนาเพียงใด และเธอก็หวังว่าในอนาคตข้างหน้า...จะได้เห็นทั้งสองกลับมาคบหากันเหมือนกับช่วง ลอยกระทงที่ผ่านมา
สองวันต่อมา...หลังจากที่ภาคินกับกังศมาบินกลับประเทศไทย วรันยาก็วุ่นอยู่กับการเรียนโดยมีคาร่าคอยช่วยเหลือและติวเข้มด้วยกันแทบทุกวัน ทำให้ไม่มีเวลาคิดหรือสนใจเรื่องอื่นๆ
ภาคินยอมถอยตามคำขอ จากที่เคยวิดีโอคอลคุยกันทุกวัน ก็ลดระดับลงเหลือเพียงแค่ส่งข้อความไปหา ซึ่งเขารายงานตัวตั้งแต่ตื่นนอน ไปวิ่งออกกำลังกาย รับประทานอาหารเช้ากับผู้เป็นยาย ทำงาน ส่วนช่วงเย็นก็แวะไปทานมื้อค่ำกับสินชัย ก่อนจะปิดท้ายด้วยการส่งรูปนอนกอดหมอนข้างอยู่บนเตียงไปให้ ซึ่งบางครั้งเธอก็ตอบกลับด้วยข้อความสั้นๆ ‘ฝันดีค่ะ’ บางครั้งก็ส่งแค่สติ๊กเกอร์
สามเดือนต่อมา...
หลังจากที่ลัมภาเซ็นสัญญารับเงินก้อนสุดท้ายเสร็จ ก็ย้ายออกจากคอนโดของภาคิน และได้พบกับผู้อุปถัมภ์รายใหม่ เป็นเสี่ยใหญ่เจ้าของร้านอาหารดังที่เสนอเงินใช้เดือนละเจ็ดหมื่นบาท เพื่อแลกกับการเป็นบ้านเล็ก แต่กระนั้นก็ไม่เคยทำให้เธอลืมชายที่ชื่อภาคินได้แม้แต่วินาทีเดียว
ด้านเสาวณีที่คิดว่าหากทำให้ภาคินเลิกกับลัมภาได้ อีกฝ่ายจะหันมาสนใจในตัวเธอ แต่ก็เปล่า! แถมเขายังระวังตัวมากกว่าเดิม นอกจากการมาเข้าประชุมใหญ่เพียงเดือนละหนึ่งครั้ง เขาก็สิงอยู่แต่ในไร่ ทำให้โอกาสที่จะสานสัมพันธ์แทบไม่มี
“ก็พอจะมีอยู่ แต่ว่ามัน...” สินชัยเอ่ยค้างไว้อย่างชั่งใจ ไม่รู้ว่าตัวเองสมควรจะพูดเรื่องนี้ต่อไปหรือไม่
“บอกมาเถอะค่ะ ถ้าไวน์ช่วยได้ไวน์จะทำ”
“คือ...คินเขาเสนอปิดหนี้สินที่ธนาคารให้ แต่มีข้อแม้ว่า...”
“อะไรคะ” วรันยารอฟังอย่างตั้งใจ
“หนูต้องแต่งงานกับพี่คิน” สินชัยบอกเสียงอ่อนเพราะเงินจำนวนสองร้อยล้านบาท หากภาคินจะช่วยก็ต้องแต่งงานกับบุตรสาวของตนเท่านั้น ถึงจะเอาเงินในกองมรดกที่ลูคัสจัดสรรปันส่วนไว้ให้กับบุตรชายแต่ละคนในจำนวนเท่าๆ กัน ออกมาใช้ได้โดยจำเป็นต้องรายงานการใช้จ่ายให้ทราบ
วรันยาได้ฟังถึงกับสะอึกจนพูดไม่ออก ถึงว่า...หนึ่งปีที่ผ่านมา อีกฝ่ายไม่ได้ตามตอแยมากเธออย่างที่คิด นั่นก็เพราะว่าเขามีแผนสำรองเอาไว้แล้วนี่เอง
“พ่อรู้ว่าไวน์ไม่ค่อยชอบพี่เขา แต่จากที่พ่อรู้จักมา คินก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แถมยังเป็นคนหนุ่มไฟแรง ขยัน ไม่ถือตัว” สินชัยพยายามพูดถึงข้อดีของว่าที่ลูกเขย ที่เพิ่งจะมาสารภาพกับตนเมื่อเดือนก่อนว่าแอบหลงรักบุตรสาวมานาน พร้อมกับเคลียร์ข่าวของหญิงสาวที่ชื่อลัมภาแบบเปิดอกว่าเคยคบหากันภายใต้เงื่อนไข แต่ก็ได้เลิกรากันไปแล้ว ซึ่งตนก็เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของหนุ่มโสด ที่ต้องมีสาวๆ เอาไว้รองรับความเหงา แต่หากเมื่อใดก็ตามที่ภาคินแต่งงานกับบุตรสาวของตนไปแล้ว ยังมีเรื่องบ้านเล็กบ้านน้อยให้ได้ยินมาเข้าหู เมื่อนั้นอีกฝ่ายจะได้เห็นด้านมืด ของตน
“พ่อ...” วรันยายกมือขึ้นปาดน้ำตาของบิดาที่ไหลอาบแก้มออกเบาๆ ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถกั้นน้ำตาของตัวเองไม่ให้ไหลตามได้
“คินจะปิดหนี้เสียที่ธนาคาร แล้วก็จะให้เงินอีกก้อนมาปรับปรุงรีสอร์ต ของเรา” สินชัยดึงบุตรสาวเข้ามากอด ความรู้สึกที่หลากหลายตีกันจนยุ่งเหยิงไปหมด
“ฮึก...” วรันยาร้องไห้ออกมาอย่างรู้สึกสับสน ก่อนจะเหลือบมองกำหนดชำระหนี้ในกระดาษอีกครั้ง พลัน! หัวใจของเธอก็เหมือนมีเข็มนับร้อยนับพันทิ่มแทงกับทางเลือกที่แสนจะเจ็บปวด เมื่อคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยกลับเป็นคนที่เคยขยี้หัวใจของเธอให้แหลกละเอียดจนแทบจะไม่เหลือชิ้นดี แต่หากเทียบกับการต้องสูญเสียรีสอร์ตอันเป็นที่รัก และเต็มไปด้วยความทรงจำมากมายแล้วละก็...
“หนูจะแต่งงานกับเขาค่ะ” วรันยากัดฟันบอกอย่างไม่มีทางเลือก
“นี่ลูกพูดจริงเหรอ?” สินชัยดันตัวบุตรสาวออกถามอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าอีกฝ่ายจะยอมตอบตกลง
“ค่ะ ถ้าเขายังยืนยันในข้อเสนอเดิมที่ยื่นมา” วรันยายกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้ง แล้วฝืนยิ้มให้กับบิดา ตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาเธอเอาแต่คิดหาวิธีและข้ออ้างสารพัดที่จะหยิบยกขึ้นมาใช้ เพื่อจะเลี่ยงการเจอหน้ากับภาคิน แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปดั่งที่คิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)