“อีเดียร์!” ลัมภาโกรธจนสั่น ง้างมือขึ้นเตรียมจะตบสั่งสอนที่อีกฝ่ายประจานเธอต่อหน้าคนอื่น
“ลองตบดูสิ!” ลิเดียร์ง้างมือขึ้นรอตบสวนอย่างไม่ยอม
ลัมภากัดปากแน่นแล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ ท่ามกลางสายตาตำหนิของผู้คนที่เห็นเหตุการณ์
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ สำหรับทุกอย่าง” ลีเดียร์ก้มหัวลงให้กับสองหนุ่ม ที่ยืนหน้าเหวออย่างรู้สึกอาย ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะแล้วล้วงเงินค่าอาหารและเครื่องดื่มวางไว้ จากนั้นก็รีบออกจากร้านไปโดยไม่เอ่ยลาเพื่อนสาวแม้แต่คำเดียว
ขุนพันกับแม่ทัพมองหน้ากันอย่างรู้สึก อึ้ง มึน งง ที่รู้ว่าลัมภาให้หญิงสาวคนเมื่อครู่แอบถ่ายรูปของวรันยา
โซนวีไอพี...
ภาคินเข้าไปสะกิดเรียกภรรยาสาวที่ด้านหลังเบาๆ “น้องไวน์ครับ”
“พี่คิน” คนที่มัวแต่ฟังเพื่อนๆ คุยกัน พอหันไปมองก็ถึงกับตกใจเมื่อเห็นสามีจอมหื่นยืนอยู่ด้านหลัง
“สะ...สวัสดีครับพ่อเลี้ยง” ประกรณ์รีบทักทายคนใหญ่คนโตของอำเภอด้วยสีหน้าเจื่อนๆ
“แหม...ทำไมหน้าซีดจังครับท่านนายอำเภอ” ภาคินเอ่ยแซวก่อนจะเข้าไปนั่งเบียดกับภรรยา
“คือว่าผม...” คนที่โลกทั้งใบกำลังเป็นสีชมพูถึงกับไปไม่ถูก ไม่คิดว่าสามีของนางในฝันจะโผล่มาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
“ไวน์มางานเลี้ยงรุ่นค่ะ” วรันยารีบบอกเพราะรู้ว่าตอนนี้สามีของเธอกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน
“พี่ก็ว่าทำไมน้องไวน์ถึงหายเงียบไป” ภาคินเอ่ยพลางส่งยิ้มให้เพื่อนๆของภรรยาที่กำลังจ้องมองมายังตนราวกับคนไม่เคยพบเคยเห็น
“คุณภาคินมาได้ไงคะเนี่ย?” ติช่าถามด้วยสีหน้าแดงก่ำ
“อ๋อ! ผมมากับเพื่อนๆ ครับ” ภาคินตอบพลางชี้ไปยังโต๊ะที่เพื่อนๆ นั่งอยู่ด้านล่าง
“มานั่งด้วยกันสิคะ มีแต่คนอยากจะเห็นสามีของไวน์กันทั้งนั้นเลยค่ะ”ส้มรีบชวน
“ได้ครับ” ภาคินตอบรับคำเชิญ
“ไวน์ไม่รู้ว่าพี่คินไปไหน ก็เลย...” วรันยาหันไปเอ่ยกับสามียังไม่ทันจบประโยค อีกฝ่ายก็ยกนิ้วขึ้นแตะที่ริมฝีปากไม่ให้เธอพูดต่อ
“จุ๊ๆ ไม่ต้องรีบบอกครับ เพราะคืนนี้พี่ตั้งใจจะซักฟอกน้องไวน์ยันเช้าเลย” ภาคินจ้องมองใบหน้างามด้วยสายตาสื่อความหมาย
“หูย...เบาๆ นะคะพ่อเลี้ยง” ติช่าเอ่ยแซวอย่างรู้สึกเขินแทนเพื่อนสาว ขณะที่ประกรณ์รู้สึกจุกแน่นที่หน้าอกคล้ายกับคนกำลังจะขาดอากาศหายใจ
“ว้าว! ทำไมสามีของไวน์ถึงหล่อขนาดนี้เนี่ย” ชมจันทร์ที่เพิ่งจะเคยเห็นสามีของเพื่อนใกล้ๆ บอกพร้อมกับทำตาโต
“นั่นสิ! อย่างกับพระเอกหนังแน่ะ” ออยที่นั่งโต๊ะข้างๆ หันมาสมทบตามอย่างอดไม่ได้
“เบื่อพวกไม่ได้ไปร่วมงานแต่งจัง” ติช่ากลอกตากับท่าทีตื่นเต้นของเพื่อนๆ
“ก็มันติดงานนี่” ออยบอกเสียงอ่อน
“นึกไปถึงสามีตัวเองแล้วหดหู่” เอื้องบอกอย่างรู้สึกเซ็งๆ
“ก็นะ! ได้กันในวงไฮโลงานศพ” ส้มที่รู้ความเป็นมาเอ่ยหยอก ทำเอาหนุ่มสาวที่ได้ยิน พากันหัวเราะอย่างขบขัน “คิกๆๆๆ / ฮ่าๆๆ”
“อย่าประจานดิ” เอื้องบอกอย่างรู้สึกอาย เพราะเธอกับสามีพบรักกันในวงไฮโลงานศพของญาติจริง
“หึๆ” ภาคินที่กำลังมึนตึงกับภรรยาหันมองหน้ากันแล้ว ก็อดหัวเราะตามคนอื่นๆ ไม่ได้ ก่อนจะสะดุ้งเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงของแม่ทัพดังขึ้นที่ด้านหน้าเวที
“สวัสดีครับ ขอเชิญพ่อเลี้ยงภาคินขึ้นมาร้องเพลงเป็นเกียรติแก่ค่ำคืนอันสุดพิเศษนี้ สักเพลงครับ” แม่ทัพเชิญเพื่อนรักออกไมค์ ทำเอาแขกในร้านต่างพากันหันไปมองตามที่แสงไฟจับจ้องหนุ่มหล่อคนดัง ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ กับภรรยาคนสวยอยู่ตรงโซนวีไอพี
ภาคินจ้องมองเพื่อนรักที่ยืนฉีกยิ้มอยู่บนเวทีอย่างมึนงง ‘ให้ตายสิ! เล่นบ้าอะไรของมันวะ’
“ถ้าไม่ขึ้นเวที ผมกับขุนพันสัญญาว่าจะแวะไปกินมื้อค่ำที่ไร่ทุกวันครับ” แม่ทัพยื่นคำขาด
“สู้ๆ ค่ะพ่อเลี้ยง” ติช่าให้กำลังใจของดีประจำประจังหวัด
“ขะ...ขอบคุณครับ” ภาคินยิ้มบางๆ ก่อนจะหันไปกระซิบภรรยาสาวที่เอาแต่อมยิ้ม “เดี๋ยวพี่มานะ”
“ค่ะ” วรันยาพยักหน้ารับ รอลุ้นว่าคนหล่อจอมสร้างภาพจะร้องเพลงอะไร ขณะเดียวกันก็เหลือบไปเห็นสายตาฟาดฟันที่ลัมภาส่งมาให้ เธอจึงส่งยิ้มบางๆ ตอบกลับ แล้วเบือนหน้าหนีอย่างไม่สนใจ
“แหม...นึกว่าจะได้ไปเป็นแขกประจำของไร่ไปรยาเวศแล้วซะอีก ขอเสียงปรบมือให้คุณภาคิน เจ้าของโรงแรมซานเตียนโน่และเจ้าของไร่ไปรยาเวศ หน่อยครับ” แม่ทัพส่งยิ้มไปให้เพื่อนรักที่กำลังเดินมาอย่างขำๆ
เสียงปรบมือดังกระหึ่มไปทั่วทั้งร้านอาหาร ก่อนที่ใครต่อใครจะพากันล้วงมือถือขึ้นมา ถ่ายรูป ถ่ายคลิป และไลฟ์สด การขึ้นเวทีร้องเพลงของพ่อเลี้ยงคนดัง ที่หน้าตาหล่อเหลา การศึกษาดี แถมยังเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของเชียงใหม่
“ดูสายตาของอีลัมภาสิ เห็นแล้วอยากจะลุกไปตบสักฉาดสองฉาด” เอื้องบอกอย่างเริ่มไม่โอเคกับการแสดงออกของสาวที่เคยมีข่าวกับสามีของเพื่อน
“ใจเย็นๆ เอื้อง จะทำอะไรก็นึกถึงลูกถึงผัวให้เยอะๆ” ติช่าเตือนอย่างขำๆ ทั้งที่จริงก็อยากจะลุกไปตบลัมภาด้วยเช่นกัน
“ปล่อยเขาไปเถอะ ไวน์ไม่อยากจะไปยุ่งด้วย” วรันยาบอกเพื่อนสาวก่อนจะยกแก้วขึ้นชนกับคนอื่นๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
“คุณภาคินจะร้องเพลงแล้ว ฉันจะถ่ายคลิป” ส้มรีบล้วงมือถือมากดเปิดกล้องมือไม้สั่น
ภาคินเดินไปรับไมค์ที่เพื่อนรักส่งให้ แล้วเอ่ยความในใจที่เก็บเอาไว้มานาน “ผมขอมอบเพลงนี้ให้กับน้องไวน์ ภรรยาสุดรัก เป็นเพลงที่ผมชอบร้องเวลาคิดถึง ตอนที่เธอไปเรียนต่างประเทศครับ”
กรี๊ดดดดด / แปะๆๆ
เสียงกรีดร้องของสาวๆ และปรบมือดังกระหึ่มไปทั่วทั้งร้านอีกครั้ง เมื่อพ่อเลี้ยงสุดหล่อส่งผ่านความหวานไปยังภรรยาคนสวยด้วยสายตาสื่อความหมาย
“โอ๊ยๆ คืนนี้ไวน์คงไม่ได้หลับได้นอนกันแน่ๆ เลยพวกเธอ” เอื้องเอ่ยแซวพร้อมกับบิดไปมาอย่างรู้สึกเขินแทนเพื่อนสาว
“ล้านเปอร์เซนต์ ไม่ต่ำกว่าสองรอบ” ติช่าเสริมต่อ
“จริง!” ส้มสมทบตามอย่างเห็นด้วย
“บ้า” วรันยามองค้อนสามสาวอย่างอายๆ รู้สึกเหมือนมีใครมาก่อกองไฟอยู่ใต้เก้าอี้ เพราะเธอรู้สึกร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะนั่งไม่ติด
ทันทีที่เสียงกีตาร์ในท่วงทำนองซึ้งๆ เริ่มบรรเลงขึ้น ทุกคนก็พากันเงียบเสียงและจับจ้องไปยังบนเวที
วอนให้ลม ช่วยพัดหัวใจพี่ลอยไป
จากดินแดน ถิ่นเหนือที่ไกลแสนไกล
สุดขอบฟ้า ที่ไกลแสนไกล ล่องลอยไป
วอนให้ลม ช่วยพัดหัวใจ พี่ไปให้ถึง
“เสียงมันดี แต่กว่าจะได้ฟังก็ต้องรอให้มันเมาได้ที่ก่อน” แม่ทัพบอกก่อนจะยกแก้วบรั่นดีขึ้นจิบเบาๆ
“อืม!” แม่ทัพที่กำลังเคลิบเคลิ้มกับน้ำเสียงอันไพเราะของเพื่อนรักที่ไม่ค่อยได้ฟังบ่อยนัก พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
ฝากดวงใจ พี่ลอยล่องไปบนนภา
สุดขอบฟ้า หัวใจพี่จะไปถึง
ได้สบตาแค่เพียงครั้งหนึ่ง หัวใจพี่แทบติดตรึง
เพ้อรำพึงรำพัน ถึงแม่นวลน้อง
“โอ๊ย! ฉันเขินแทนไวน์อะแก” ติช่าบอกเมื่อเห็นสายตาของพ่อเลี้ยงสุดหล่อจ้องมองมายังเพื่อนสาว
“ใจเย็นๆ เพื่อน” เอื้องสะกิดคนที่อายหน้าแดงอย่างขำๆ
แก้มน้องนางนั้นแดงกว่าใคร
ใจพี่จมแทบพสุธา
“เดี๋ยวพี่ไปส่งครับ” ภาคินรีบอาสา เพราะอยากจะใช้เวลาปรับความเข้าใจกับภรรยาสาว
“ค่ะ” วรันยาขานรับก่อนจะเดินตามสามีจอมหื่นที่กำลังเป็นจุดสนใจของคนในร้านอาหารแห่งนี้
“แหม...อยากจะตามไปด้วยจัง” เอื้องบอกด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม
“ฉันว่าอย่างเธอไปเยี่ยวแถวมุมมืดๆ ข้างร้านเถอะ ไม่ต้องเสียเวลาเดินไปถึงห้องน้ำให้เหนื่อยหรอก” ส้มบอกพลางหัวเราะเบาๆ
“แต่ฉันปวดจริงๆ นะ” เอื้องกลอกตาอย่างเพลียๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมวันนี้เพื่อนสนิทถึงชอบขัดเธอจัง ทั้งที่มาก็มาด้วยกันแท้ๆ
“รอก่อน!!” ส้มบอกอย่างรู้ทันว่าเพื่อนจะต้องไปแอบฟังการสนทนาของ วรันยากับพ่อเลี้ยงสุดหล่อเป็นแน่
“โอเค” เอื้องตอบก่อนจะหันไปสนใจปลาช่อนลุยสวนที่แสนอร่อยต่อ
“จริงๆ คุณภาคินมีฝาแฝดนะ ชื่อภัคคินัย” ติช่าเปิดประเด็น
“ใช่ๆ แต่ฝาแฝดหน้าตาออกดุนิดๆ แต่ก็ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ” ออยที่นั่งอยู่อีกโต๊ะหันมาเสริม
“นังออย! ย้ายมานั่งโต๊ะนี้เถอะ” ส้มบอกอย่างรู้สึกรำคาญ
“ไม่! ฉันนั่งตรงนี้เห็นหน้าพ่อเลี้ยงชัดดี”
“คิกๆๆ” สาวๆ พากันหัวเราะกันอย่างขบขัน ขณะที่มีนาเอาแต่มองตามภาคินจนลับตา
“ว่าก็ว่าเถอะ! พอเห็นหน้าของพ่อเลี้ยงนะ! ฉันน่ะอยากจะตายแล้วเกิดใหม่ซะเหลือเกิน” เอื้องบอกด้วยสีหน้าเพ้อฝัน ทำเอาเพื่อนชายที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆ พากันแอบหัวเราะตามๆ กัน
“จริง! คนอะไร หล่อ รวย โปรไฟล์ดีเว่อร์ขนาดนี้ เกิดมาก็เพิ่งจะเคยเจอนี่แหละ” ส้มรีบเอ่ยสมทบ
“ไม่ใช่แค่พ่อเลี้ยงนะที่โปรไฟล์ดีเว่อร์ ยังมีคุณหิรัญพี่ชายของพ่อเลี้ยง อีกคนที่หล่อไม่แพ้กัน” ออยหันมาร่วมแจมอีกครั้ง
“ฉันเคยเห็นในข่าว หล่อโคตรๆ เลย” ติช่าพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“โสดไหมแก?” เอื้องรีบถามด้วยสายตาแวววาว
“หึ! ฉันนึกแล้วว่ายัยเอื้องต้องถามแบบนี้” ส้มกลอกตาพร้อมกับส่ายหัวเบาๆ ทำเอาสาวๆ และหนุ่มๆ พากันหัวเราะอย่างขบขัน
“โสด! แต่คั่วระดับดารานางแบบตัวท็อปๆ เท่านั้นจ้ะ” ออยบอกขำๆ
“เขามีฉายาว่าเสี่ยใหญ่สายเปย์” ติช่าเสริมต่อ
“อ๊าย! หล่อแล้วยังใจป้ำอีก” เอื้องออกอาการปลื้มทันใด
“ฉันว่าเขาฉลาดนะที่ซื้อกิน จะได้ไม่ต้องผูกมัด” ออยออกความเห็น
“แล้วฉายาของคุณภาคินล่ะ” เอื้องถามอย่างอยากรู้
“พ่อเลี้ยงมหาเสน่ห์” ติช่าชิงตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“กรี๊ดดด ตรงตัวสุดๆ” ส้มกับเอื้องกรีดร้องเบาๆ พร้อมกับยกนิ้วให้
“ส่วนคุณภัคคินัยก็...นายหัวผู้เย็นชา” ออยรีบสปอยต่ออย่างไม่รอช้า
“ใครตั้งอ่ะ?” เอื้องถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“ก็นักข่าวไง! เธอไปอยู่ที่ไหนมาถึงไม่รู้เรื่องรู้ราว” ติช่าแสร้งตำหนิ
“มันอยู่วงไฮโล! ฉันไปงานศพที่ไหนก็เจอมันทุกงาน” ส้มแฉอีกครั้ง
“นังส้ม!” เอื้องต่อว่าเพื่อนสนิท ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ ร่วมชั้นที่ร้องโห่ขึ้นอย่างชอบอกชอบใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)