ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่) นิยาย บท 59

ตู๊ดดด ตู๊ดดด

[ครับคุณคิน]

[พี่สิงห์ครับ! แม่บ้านที่ขึ้นมาทำความสะอาดประจำเพนท์เฮาส์มีกี่คน]

[สองคนครับ]

[แล้วรู้รหัสผ่านไหมครับ?]

[รู้ครับ คุณคินมีอะไรหรือเปล่า?]

[มีครับ! ณีเข้ามาในห้องนอนผม แล้วคลานขึ้นไปบนเตียงที่น้องไวน์นอนอยู่ โดยใส่แต่ชุดชั้นใน]

[บ้าจริง! คุณคินจะให้ผมจัดการยังไงดีครับ]

[เรียกแม่บ้านมาสอบ ถ้ารู้ว่าใครให้รหัสกับณี ก็ไล่ออกได้เลยครับ]

[ได้ครับ แล้ว...คุณไวน์เป็นยังไงบ้างครับ]

[ก็คิดว่าผมเคยมีอะไรๆ กับณีที่ห้องนี้น่ะสิครับ] ภาคินบอกอย่างรู้สึกนอยด์ๆ ที่เมียรักเอาแต่ร้องไห้ โดยไม่ยอมฟังคำพูดของตน

[เฮ้อ...ผมว่าแล้วต้องมีวันนี้จนได้ คุณณีน่ะหาโอกาสจะเข้าหาคุณคินหลายครั้งแล้ว วันก่อนก็เอางานมาให้เซ็นที่ไร่ ทั้งๆ ที่ผมดูแลงานของโรงแรมแทนคุณคินอยู่” สิงขรบอกพร้อมกับถอนหายใจ

[ผมไล่ณีออกไปแล้วครับ] ภาคินบอกโดยไม่ยอมปล่อยมือจากเอวบาง แม้ว่าเธอจะทุบตีที่แขนของเขาไปหลายต่อหลายครั้งแล้วก็ตาม

[เย็นนี้คุณธรรมต้องมาที่ไร่แน่ๆครับ]

[ขอให้มาเถอะครับ!] ภาคินตอบก่อนจะกดวางสาย แล้วโยนมือถือไปที่บนเตียง

“นี่ไวน์ต้องเจอะ ต้องเจอผู้หญิงของพี่คินอีกกี่คนคะ?” วรันยาถามทั้งน้ำตา

“พี่สาบานว่าตั้งแต่ที่แต่งงานกับน้องไวน์ พี่ไม่เคยยุ่งกับผู้หญิงคนไหน อีกเลย เมื่อวานพี่คิดว่าจะมานั่งดื่มที่โรงแรมสักพักแล้วค่อยกลับไร่ พอดีไอ้ขุนกับไอ้ทัพโทรมา พี่เลยชวนมานั่งดื่มด้วยกัน” ภาคินเล่ายังไม่ทันจบก็ถูกขัดขึ้น

“แต่พอดื่มไปได้สักพัก คุณลัมภาก็โทรมาชวนไปนั่งดื่มต่อที่ร้านฮาร์เปอร์ ใช่ไหมคะ” วรันยาต่อท้ายให้

“ไม่ใช่! พี่ดื่มที่โรงแรมได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ณีก็เดินเข้ามาทักแล้วบอกว่าจะมานั่งด้วย ไอ้ทัพเลยชวนย้ายหนี เพราะไม่อยากให้พี่กับไวน์มีปัญหากันภายหลัง พอเข้าไปเข้าในร้าน ไอ้ขุนก็สะกิดว่าไวน์นั่งอยู่ตรงโซนวีไอพี พี่โกรธมาก นอกจากเราจะไม่โทรมาง้อพี่แล้ว ยังไปมานั่งดื่มชิลล์ๆ กับเพื่อนๆ อีก” ภาคินกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น กลัวสาวเจ้าจะเข้าใจตนผิด

“ไวน์ก็ไม่ได้อยากจะไป แต่เพราะปฏิเสธคนชวนไม่ได้” วรันยายกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้ง แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามใช้เหตุผลคุยกับอีกฝ่าย

“ใครครับที่ชวน ไอ้นายอำเภอนั่นใช่ไหม” ภาคินถามอย่างรู้สึกหึงหวง

“คนที่ชวนไวน์คือมีนค่ะ เขาเพิ่งกลับจากฝรั่งเศส”

“อย่าให้พี่เห็นน้องไวน์ไปนั่งคุยกับไอ้นายอำเภอนั่นอีกนะ ไม่งั้นพี่ต่อยหน้ามันแน่” ภาคินคาดโทษ

“พี่คิน! คุณกรแค่มาทักทายทั่วไป ไม่ได้มีอะไรสักหน่อย” วรันยาหันไปต่อว่าอย่างรู้สึกโกรธขึ้นมานิดๆ

“มีแน่! รู้อยู่ว่าไวน์เป็นเมียพี่ ยังจะเข้ามายุ่งวุ่นวายด้วย”

“ก็คงจะดีกว่าคุณลัมภาล่ะค่ะ จนถึงตอนนี้ไวน์ยังไม่รู้เลยว่าเลิกกันไปแล้วจริงๆ หรือเปล่า หรือว่าเลิกกันแค่ต่อหน้า แต่ลับหลังก็ยังแอบคบกัน” วรันยาบอกสิ่งที่อยู่ในใจมาทั้งคืน แถมพอตื่นเช้าขึ้นมาก็ต้องมาเจอะเจอเสาวณีในชุดวาบหวิว มันทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าคนตรงหน้ารักเธอจริงๆ หรือแค่สร้างภาพว่ารักเธอเท่านั้น

“พี่เลิกกับภาไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว จะให้ไปจุดธูปสาบานตายวันนี้พรุ่งนี้ก็ยังได้” ภาคินบอกด้วยสีหน้าตึงๆ

“ไม่ต้องทำแบบนั้นค่ะ ก็ถ้าจับได้จังๆ วันไหน ก็แค่หย่า”

“พี่ไม่หย่า ตั้งแต่ที่แต่งงานกันมาพี่ไม่เคยทำเรื่องไม่ดี หรือนอกใจน้องไวน์เลยสักครั้ง”

“ก็อย่างที่บอกค่ะ จับได้วันไหนก็ไปหย่าวันนั้น” เธอยืนยันเจตนาเดิม

“เฮ้อ...วันนี้เราไปเที่ยวกันไหม” ภาคินเปลี่ยนเรื่องคุย พร้อมกับเช็ดคราบน้ำตาที่เปื้อนใบหน้างามออกให้อย่างเบามือ

“ไม่ค่ะ ไวน์อยากจะกลับบ้าน” วรันยาบอกเสียงแข็ง

“โอเค งั้นน้องไวน์ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เดี๋ยวเรากลับบ้านกันเลย”

“ค่ะ” วรันยาตอบก่อนจะลุกจากเตียงไปเข้าห้องน้ำ ภาคินมองตามก่อนจะกดต่อสายหาคนสนิท ให้ตั้งเตาย่างเนื้อกับเตรียมเครื่องส้มตำรอ จากนั้นก็เดินไปกดเปลี่ยนรหัสที่แป้นพิมพ์หน้าประตูใหญ่ด้านนอก

“โห...กี่กิโลคะนั่น” นารีถามอย่างตกใจ

“ห้ากิโลครับ ถ้าไม่พอเดี๋ยวพี่จะสั่งเด็กให้เอามาเพิ่มอีก” ขุนพันบอกพร้อมกับหันไปยักคิ้วให้เจ้าของบ้านอย่างกวนๆ

“โอมขอแรงหน่อย” แม่ทัพบอกกับเปิดท้ายรถ

“ครับ” โอมเข้าไปหา แล้วยกลังเบียร์ที่ท้ายรถออกมาวางที่บนโต๊ะ

“ให้ตายสิ! นี่พวกแกกะจะดื่มกันแต่วันเลยหรือไง” ภาคินมองความพร้อมของเพื่อนทั้งสองอย่างรู้สึกอึ้ง

“ก็เออนะสิ!” แม่ทัพพยักหน้ารับอย่างไม่เข้าใจว่าเหตุใดเพื่อนรักถึงได้หน้างอคอหักเหมือนกับปลาทูในเข่งซะเหลือเกิน

“พวกฉันน่ะเปิดห้องพักที่รีสอร์ตของน้องไวน์เอาไว้แล้ว เผื่อเมาแล้วขับรถกลับไม่ได้” ขุนพันบอกยิ้มๆ ตั้งใจว่าจะมาโต้รุ่งกับเพื่อนยันเช้าเหมือนเมื่อก่อน

“พวกมึงมีอะไรหรือเปล่า?” ภาคินเลิกคิ้วถามอย่างข้องใจ เพราะตนกะว่าหากเมียรักกินข้าวเสร็จแล้ว จะพาอีกฝ่ายไปปรับความเข้าใจ แต่ก็ดันมีแขกไม่ได้รับเชิญโผล่มาซะก่อน

“เปล่า! แค่อยากมาเป็นพยานให้มึงเรื่องเมื่อวานไง เผื่อน้องไวน์ไม่เชื่อ” ขุนพันเปิดประเด็น

“เรื่องอะไรเหรอคะ?” นารีถามอย่างลืมตัว

“ก็เรื่องที่ลัมภาเดินมากอดไอ้คินที่โต๊ะน่ะสิครับพี่นา พวกผมสาบานว่าไอ้คินมันไม่รู้เรื่องใดๆ” แม่ทัพบอกด้วยสีหน้าจริงจัง

“แหม...ขอบใจมากนะทัพ” ถ้ามึงไม่บอกเมียกูก็ไม่รู้แหละว่ากูโดนกอด ภาคินต่อท้ายประโยคในใจอย่างรู้สึกขุ่นเคือง

“ใช่ครับ! ตอนแรกพวกพี่สามคนนั่งดื่มกันที่โรงแรมซานเตียนโน่ แต่พอดีว่าบรรยากาศไม่โอเคก็เลยพากันย้ายมาที่ร้านฮาร์เปอร์” ขุนพันเอ่ยเล่าเหตุการณ์

“ที่บอกว่าบรรยากาศไม่ดี หมายถึงคุณณีหรือเปล่าคะ” วรันยากัดฟันถามเพราะอยากรู้ว่าสิ่งที่สามีบอก กับสิ่งที่เพื่อนของสามีพูดจะตรงกันหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ คือเธอเพิ่งรู้ว่าสามีกอดกับกิ๊กเก่าเมื่อคืน!!

“เอ่อ...ครับ ว่าแต่น้องไวน์รู้ได้ยังไง” แม่ทัพถามด้วยสีหน้าเจื่อนๆ

“เฮ้อ...” ภาคินถอนหายใจอย่างเซ็งๆ เหมือนอะไรๆ กำลังจะดี แต่แล้วก็กลับไปยืนจุดเดิม จุดที่เมียรักกลับมาระแวงเรื่องชู้สาวอีกเช่นเคย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)