ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่) นิยาย บท 80

“โอ๊ย! นี่ผัวนะ ไม่ใช่กระท้อน” ภาคินบอกอย่างรู้สึกเจ็บและชาที่ใบหน้านิดๆ ‘ผู้หญิงอะไร มือหนักชะมัดเลย’

คนที่ยังไม่หายโกรธทุบต่ออีกสองที ปึก! ปึก!

“โอ๊ยยย พอแล้วครับ พี่เจ็บไปหมดแล้ววว” ภาคินโอดครวญ

“คนบ้า!” วรันยามองค้อนก่อนจะนอนหันหลังให้สามีจอมทะลึ่ง

“เอ้...เมื่อกี้ใครว่าพี่เป็นหมานะ?” คนหื่นเอ่ยเย้าด้วยสีหน้าทะเล้น

“ไม่ต้องมากอดเลย” วรันยาปัดมือหนาที่เอื้อมมาแตะแขนออกอย่าง ม่สบอารมณ์

“ไม่กอดก็ได้ งั้นเลียเลยแล้วกัน” ภาคินบอกพร้อมกับสอดมือเข้าไปดึงแพนตี้ของสาวเจ้าออกจากขาเรียวงามอย่างรวดเร็ว

“กรี๊ดดดด มาถอดกางเกงในของไวน์ทำไม” วรันยากรีดร้องกับการกระทำอันหน้าด้านหน้ามึนของสามี

“อ้าว! ก็จะได้เลียถนัดๆ ไงครับ” ภาคินก้มลงเลีย เอ๊ย! ลิ้มลองดอกไม้งามอย่างหื่นกระหาย

“ไม่นะ” วรันยาดิ้นพล่านเมื่อลิ้นอุ่นๆ ของสามีกำลังรัวระริกมายังจุดที่ไวต่อความรู้สึก

แผล็บๆๆๆ ภาคินไม่สนคำท้วง ตวัดลิ้นเลียต่ออย่างเมามัน

“อะ....อื้ม...” วรันยาครางลั่น พร้อมกับบิดตัวไปมากับความเสียวซ่าน ที่จุดประกายไฟปรารถนา ให้แผดเผาและหลอมละลายคนสองคน ให้กลายเป็นหนึ่งเดียว

เช้าวันต่อมา...

ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ

“พี่คินคะ พี่คิน” วรันยาสะกิดสามีที่ชอบนอนกอดขาของเธอ แล้วเอาใบหน้าแนบกับหน้าท้อง เพื่อคุยรำพึงรำพันเกี่ยวเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้กับอีกหนึ่งชีวิตน้อยๆ ที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นฟัง จนกระทั่งหลับไป ให้ตื่นขึ้นมากดรับสาย

“อื้อ...ใครโทรมากวนแต่เช้านะ” ภาคินต่อว่าเสียงอู้อี้

“เขาอาจจะมีเรื่องด่วนก็ได้นะคะ” วรันยารีบบอก

“พ่อรับสายก่อนนะครับ” ภาคินกดจูบลงที่หน้าท้องแบนราบของเมียรักเบาๆ ก่อนจะกดรับสาย

[สวัสดีครับ]

[พ่อเลี้ยงครับ คุณเสาวณีตายแล้วครับ] ประกรณ์โทรมารายงาน

[! มะ...เมื่อไหร่ครับ] ภาคินอุทานอย่างตกใจ

[เมื่อคืนครับ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเมาแล้วขับ แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องรอผลชันสูตรยืนยันอีกที]

[ขอบคุณมากครับที่โทรมาแจ้ง เดี๋ยวผมจะให้คนไปตามเช็กต่อ]

[ครับ] ปลายสายตอบก่อนจะกดวาง

“มีเรื่องอะไรเหรอคะ?” วรันยาถามขึ้นอย่างร้อนใจ

“ณีตายแล้ว ตำรวจสันนิษฐานว่าเมาแล้วขับครับ” ภาคินบอกเรื่องไม่สู้ดี กับภรรยา

“คุณณีถูกประกันตัวออกมาเมื่อไหร่คะ”

“เมื่อวานครับ”

“แล้วพี่คินคิดว่า...” วรันยาเอ่ยค้างไว้ ไม่กล้าจะบอกสิ่งที่อยู่ในใจ

“พี่ว่าณีอาจจะโดนฆ่าปิดปาก” ภาคินบอกพร้อมกับถอนหายใจอย่างรู้สึกเครียดนิดๆ เพราะการตายของเสาวณีจะทำให้ธรรมนัสรอดจากการเอาผิด

“...” วรันยาได้ฟังถึงกับช็อก

“วันนี้น้องไวน์ไม่ต้องออกบ้านไปไหนนะ เดี๋ยวพี่จะให้คนมาคุ้มกันที่นี่” ภาคินบอกอย่างเป็นห่วง

“ทะ...ทำไมล่ะคะ” เธอถามอย่างไม่เข้าใจ

“ก็ถ้าหากณีโดนฆ่าปิดปากจริง ลุงธรรมคือผู้ต้องสงสัยรายแรก เพราะ พี่กำลังจะให้ทนายยื่นข้อเสนอให้ณีแฉการทุจริตของลุงธรรม จำนวนเงินที่หายไปทั้งหมดไม่ใช่แค่สามล้าน แต่เป็นสิบสามล้านบาท” ภาคินบอกยอดสรุปที่สิงขรส่งมาให้เมื่อวาน

“ตายจริง! นี่โกงกันเยอะขนาดนี้เลยเหรอคะเนี่ย?” วรันยายกมือทาบอกอย่างตกใจ

“นั่นสิ! พี่ยังไม่ได้เรื่องนี้กับพ่อนะ กลัวท่านจะไม่สบายใจ รอให้กลับจากไปเที่ยวมาก่อนดีกว่า” ภาคินบอกพลางดึงเมียรักเข้ามากอด เรื่องเงินแค่สิบสามล้านบาทไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับบิดา แต่การถูกคนที่ไว้ใจหักหลังต่างหาก คือเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้

“แล้วนี่พี่คินต้องไปงานศพของคุณณีไหมคะ” วรันยารู้สึกสงสารและเห็นใจมารดาของอีกฝ่ายอย่างบอกไม่ถูก

“ไปสิ! ยังไงก็ต้องไป” ภาคินบอกเสียงหนักแน่น

“ให้ไวน์ไปด้วยไหมคะ?” วรันยาถามเสียงอ่อน

“ไปก็ได้ครับ แต่น้องไวน์ต้องรออยู่ที่โรงแรมของเรา” ภาคินบอกยิ้มๆ เพราะงานศพของเสาวณีน่าจะจัดที่บ้านของอีกฝ่าย ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมซานเตียนโน่ไปประมาณสี่กิโลเมตร เขาจึงคิดว่าจะให้เมียรักรออยู่ที่โรงแรม

อันนา : เห็นหรือยังว่าพ่อเลี้ยงภาคินมีอิทธิพลต่อคนในอำเภอแม่รินขนาดไหน

จีจ้า : ดราม่าผิด ชีวิตเปลี่ยน

ญาญ่า : เป็นเราจะไม่กล้าโพสต์นะ อาย!

นานา : เรียนจบตั้งเมืองนอกเมืองนา ทำไมนางคือง่าวแท้

นิสา : ใครบอกว่าจบ!

นานา : หลังไมค์ด่วน

ญาญ่า : ตามๆ

“ตอนแรกฉันว่าจะพิมพ์แซะสักหน่อย แต่คิดไปคิดมาไล่อ่านคอมเมนต์สนุกกว่าเยอะ” ส้มบอกพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

“สรุปนางไม่ได้จบจากมหาลัยของฝรั่งเศสเหรอ?” เอื้องถามอย่างสงสัย

“มันจะจบได้ยังไง ขนาดเข้ายังเข้าไม่ได้เลย” ชิสาบอกอย่างขำๆ เพราะเมื่อคืนมีคนตั้งเพจลับแฉมีนาและกำนันคง ชนิดที่สาวไส้ทุกขดออกมาประจาน จนแทบจะไม่เหลือชิ้นดี

“อ้าว! ก็ไหนว่าไปอยู่ฝรั่งเศสมาตั้งหลายปีนี่” ติช่าถามอย่างงงๆ

“สร้างภาพทั้งนั้น เดี๋ยวฉันแคปโพสต์ในเพจลับส่งให้ดู” ชิสาบอกพร้อมกับก้มหน้าก้มตาแคปโพสต์เด็ดๆ ส่งเข้าในไปในกลุ่มทันที

“ว่าแต่คาร่าเป็นไงบ้างน่ะไวน์ ไม่เห็นหน้าเห็นตาเลย” ติช่าถามถึงพื่อนสาวอีกคนที่หายหน้าหายตาไป

“อืม...คาร่าไปเที่ยวน่ะ วันก่อนก็โทรมานะ แต่ได้คุยกันแค่ไม่กี่คำ สัญญาณก็ตัดไป” วรันยาเสียงอ่อน

“อิจฉาเนาะ! อยากใช้ชีวิตแบบคาร่าบ้างจัง” ส้มบอกยิ้มๆ

“ใช่ๆ เห็นแบกเป้ไปเที่ยวประเทศนั้นประเทศนี้บ่อยๆ เราก็อยากทำบ้าง” เอื้องบอกก่อนจะยกแก้วไวน์แดงขึ้นมาจิบเบาๆ

“อย่างแรกเลยนะเอื้อง คือแกต้องมีเงินก่อน” ส้มแนะนำเพื่อนสาว

“คิกๆๆ” เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนในกลุ่มขึ้นมาทันที

“แหม...ก็บ้านฉันไม่ได้รวยเหมือนไวน์กับคาร่านี่” เอื้องต่อว่าอย่างนอยด์ๆ

“คาร่าใช้เงินที่หามาได้เองไปเที่ยวนะ ตอนเรียนที่อังกฤษก็ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย แถมยังคว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาได้อีก เราน่ะยอมแพ้เลย คาร่าทั้งเรียนเก่งแล้วก็หาเงินเก่งมาก” วรันยาบอกอย่างชื่นชมในตัวเพื่อนสาวที่ว่างเมื่อไหร่ ก็จะต้องไลฟ์สดขายเสื้อผ้ามือสองสภาพนางฟ้าให้กับเพื่อนๆ นักศึกษาในมหาลัย.ที่เข้ามากดติดตามเพจของอีกฝ่ายอยู่ราวๆ สามพันกว่าคน บางครั้งเธอก็ต้องช่วยแพ็กของและเขียนชื่อติดให้ มันทั้งสนุกและตื่นเต้นที่เสื้อผ้าถูกขายออกไปในเวลาอันรวดเร็ว แถมเสร็จงานคาร่ายังโทร. สั่งอาหารไทยจากห้องอาหารมะลิฉัตรแกรนด์มาเลี้ยงเธออยู่บ่อยๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)