“รองแม่ทัพหลี่ว์ เห็นแก่จิ่วยวนของพวกเรา ท่านพอจะยั้งมือสักหน่อยได้หรือไม่”
นายหญิงมองจวนที่ถูกทหารรักษาพระองค์ทำลายจนย่อยยับอย่างปวดใจ ความโศกเศร้าแผ่ซ่านเข้ามาในอก
“นายหญิง”
นายทหารที่เป็นหัวหน้าคือรองแม่ทัพหลี่ว์ ซึ่งเคยอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของจ้านอ๋องมาก่อน เขามองพวกผู้หญิงกลุ่มนี้ด้วยท่าทีภูมิใจ
“รับสั่งจากฝ่าบาท ซ่งจิ่วยวนมีเจตนากบฏ ทรัพย์สินนั้นได้มาอย่างไม่สะอาด เห็นแก่ความดีความชอบของซ่งจิ่วยวนในอดีต
จึงไม่ถูกประหาร เพียงแต่ถูกยึดอำนาจทางทหาร ลดฐานะเป็นสามัญชน ยึดทรัพย์สมบัติและเนรเทศ นี่ถือเป็นเมตตาของฝ่าบาทแล้ว”
คำพูดเพียงไม่กี่คำของเขาทำให้ผู้หญิงในจวนจ้านอ๋องร้องไห้หนักขึ้นไปอีก รู้ดีว่าครานี้คงจะรอดได้ยาก ด้วยความโศกเศร้า จึงไม่มีเวลามาสนใจจวนที่กำลังถูกทำลาย
“พี่ใหญ่ของข้าดูแลท่านเป็นอย่างดี ท่านกลับตอบแทนเขาเช่นนี้หรือ”
คนที่พูดคือ ซ่งจิ่วฉือ น้องชายของซ่งจิ่วยวน ดวงตาแดงก่ำของเขาจ้องรองแม่ทัพหลี่ว์ที่มีท่าทีภาคภูมิใจจนลืมกำพืดตนเอง
ถ้าไม่ได้รับการผลักดันจากพี่ใหญ่ของเขา คน ๆ นี้ก็คงเป็นได้แค่ยามเฝ้าประตู!
ตอนนี้ได้ดีแล้ว คาดไม่ถึงเลยว่าจะออกตัวรับหน้าที่มายึดทรัพย์เสียเอง หน้าที่การงานก็ดีขนาดนี้เขายังจะออกหน้ามาจัดการเรื่องแบบนี้อีก เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเป็นสุนัขรับใช้ขององค์ชายหก!
รองแม่ทัพหลี่ว์หัวเราะเบา ๆ อย่างไม่แยแสซ่งจิ่วฉือที่ขณะนี้ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง แล้วสะบัดมือออกคำสั่งว่า
“ตรวจสอบให้ละเอียดทุกซอกทุกมุม ต้องหาหลักฐานการกบฏของซ่งจิ่วยวนให้เจอ ของมีค่าทั้งหมดให้ยึดเป็นของหลวง!”
ทหารรักษาพระองค์กรูเข้ามา ทำร้ายคนรับใช้ที่คอยขัดขวาง เจียงหว่านยืนอยู่ที่มุมห้องอย่างใจเย็น ตอนนี้นางมีเวลาเรียบเรียงเนื้อเรื่องในนิยายอย่างละเอียดแล้ว
เจ้าของร่างเดิมพยายามทุกวิถีทางเพื่อแต่งงานเข้าจวนจ้านอ๋อง วันต่อมาจ้านอ๋องก็ถูกกวาดล้างตระกูล เจ้าของร่างเดิมเป็นฮูหยินได้เพียงวันเดียว
อย่างไรก็ตาม...แม้จะถูกเนรเทศ เจ้าของร่างเดิมก็ไม่เปลี่ยนนิสัย ระหว่างการเดินทางยังคงทำสิ่งต่าง ๆ ที่รนหาที่ตายจนไปยั่วยุให้ตัวร้ายเกลียดชัง สุดท้ายก็ตายระหว่างถูกเนรเทศ
เห้อ!
เริ่มต้นด้วยไพ่ที่แย่ แต่คนอย่างเจียงหว่านไม่เคยยอมแพ้ แม้จะเป็นไพ่ที่แย่ นางก็ต้องเฉิดฉายให้ได้
ในขณะที่นางกำลังเหม่อลอย เสิ่นเชียนที่ถูกนางทำร้ายมาก่อนหน้านี้ก็ชี้นิ้วไปที่เจียงหว่านอย่างกะทันหัน
“เพราะนาง เป็นเพราะนางแน่ ๆ!”
เสิ่นเชียนโกรธแค้นชี้ไปที่เจียงหว่าน “นางเป็นตัวซวย เพิ่งจะแต่งงานเข้ามาก็ทำร้ายคนอื่น!”
นางเกลียดเจียงหว่านจนขบฟันแน่น ถ้าไม่ใช่เพราะโกรธเจียงหว่าน นางก็ไม่แต่งงานเข้ามา และก็จะไม่ถูกเนรเทศ!
การโหวกเหวกโวยวายของเสิ่นเชียนในครั้งนี้ ดึงดูดความสนใจของทุกคนในจวนทันที นายหญิงกำไม้เท้าในมือแน่น สายตาคมกริบจ้องมองไปที่เจียงหว่าน ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัย
“ใช่แน่ ๆ ต้องเป็นเพราะเจียงหว่านตัวซวยทำให้เราตกที่นั่งลำบาก”
“เมื่อก่อนพวกเรามีหน้ามีตามากขนาดไหน พอนางแต่งเข้ามา จวนพวกเราก็ถูกกวาดล้างเลย!”
“ข้าไม่อยากถูกเนรเทศ ฮือ ๆ…”
“…”
ราวกับเจอที่ระบาย คนในจวนต่างมองเจียงหว่านด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง เจียงหว่านมองไปที่เสิ่นเชียนด้วยความเยือกเย็น
“เจ้ากับข้าแต่งเข้ามาพร้อมกัน มันก็ยากที่จะพูดว่าใครกันแน่ที่เป็นตัวซวย!”
ถึงขนาดนี้แล้วไม่คิดจะหาหนทางออก แต่ยังจะมากัดนางอีก ผู้หญิงคนนี้นี่มันโง่เขลาเสียจริง
“ต้องเป็นเจ้านั่นแหละ!”
เสิ่นเชียนขึ้นเสียง ดวงตาแดงก่ำ ซ่งจิ่วฉือที่เพิ่งพูดกับทหารรักษาพระองค์ก็จ้องมองเจียงหว่านด้วยความรังเกียจ
เมื่อสถานการณ์เริ่มจะวุ่นวาย นายหญิงก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “ทุกคนหุบปาก!”
นายหญิงผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก เข้าใจว่าฝ่าบาทได้ตัดสินใจที่จะจัดการกับพวกเขาแล้ว ตอนนี้ไม่ว่าจะก่อความวุ่นวายไปแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์
อย่างน้อยเจียงหว่านก็เป็นถึงลูกสาวของจวนซ่างซู ตอนถูกเนรเทศอาจจะได้รับการช่วยเหลือจากตระกูลของนาง ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะล่วงเกิน
อีกอย่าง ตอนนี้ชีวิตของคนทั้งจวนอาจจะต้องพึ่งซ่งจิ่วยวน แม้ว่าเขาจะไม่ชอบคนแซ่เจียง แต่ถึงอย่างไรนางก็เป็นภรรยาของเขา
หลังจากที่เสิ่นเชียนถูกตำหนิก็ไม่พอใจอย่างมาก ขณะเดียวกันซ่งจิ่วยวนที่ถูกเรียกเข้าวังตั้งแต่เช้าก็กลับมา
ทว่าเขาถูกหามกลับมา!
ร่างกายส่วนล่างของเขาเต็มไปด้วยเลือดจนชวนสยอง ทันทีที่ท่านหญิงใหญ่ซ่งเห็นสภาพลูกชาย นางก็ลมจับทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภารกิจกวาดสมบัติตระกูลที่ถูกล้มล้าง