ความสำราญเสียวซ่านไม่ได้มอบให้ปทุมงามแค่เพียงด้านเดียว ริมฝีปากร้อนผ่าวยิ่งกว่าลูกไฟได้ผละออกแล้วเข้าครอบครองมอบความสุขรัญจวนให้กับดอกบัวงามอีกด้านจนนาราภัทรหอบกระเส่าครางเสียงต่ำลึกไม่ได้หยุด
“เจ้าชาย...ได้โปรด...”
นาราภัทรครางปนสะอื้นไม่รู้สึกตัวสักนิดว่าตนเองกำลังทำอะไรลงไป สิ่งที่เธอต้องการในขณะนี้คือกองไฟแข็งแกร่งร้อนซ่าที่มือน้อยๆ ของเธอได้เลื่อนสอดเข้าไปกอบกุมลูบไล้เต็มทั้งสองมือ
“โอ...น้ำหนาว...อย่าหยุดทำต่อไป...”
เจ้าชายซารีฟร์กระซิบเสียงสั่นเรือนกายกระตุกความเสียวซ่านแล่นวูบวาบตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเมื่อมือน้อยๆ นุ่มนิ่มได้กอบกุมกองไฟร้อนแข็งแกร่งไว้เต็มอุ้มมือแล้วขยับลูบไล้หนักเบาจนเรือนกายเขาร้อนฉ่าปวดหนึบสั่นสะเทิ้มและเมื่อมองสบตากับดวงตาคู่สวยที่ปรือตาหวานฉ่ำมองยอดอกสีเข้มปรอยๆ ราวกับต้องการมอบความรัญจวนให้กับเขาบ้างจึงได้กระซิบเชิญชวนเสียงแหบแห้ง
“เอาสิน้ำหนาว บรรจงจุมพิตเหมือนที่เรามอบความสำราญให้กับเจ้า”
นาราภัทรแย้มยิ้มบางๆ ราวกับเด็กน้อยที่กล้าหาญขึ้นมาเมื่อได้รับคำอนุญาตจากผู้ใหญ่ มือบางลูบไล้กรีดเล็บเป็นทางยาววนรอบยอดอกสีเข้มทั้งสองข้างจากนั้นก็สะกิดหนักหน่วงอีกครั้งด้วยปลายเล็บ รับรู้ได้ถึงความชอบอกชอบใจเมื่อได้ยินเสียงสูดปากด้วยความเสียวซ่านหลุดออกมาจากเจ้าชายหนุ่ม หญิงสาวยิ้มกริ่มถูกใจกับผลงานของตนเองจากนั้นก็ลดเรียวปากเข้าไปกลืนกินแทนที่นิ้วเรียวยาวของตนเองบ้าง หญิงสาวขบเม้มยอดอกสีเข้มดูดดึงหนักหน่วงจนเจ้าชายซารีฟร์สะดุ้งเฮือก เธอตวัดปลายลิ้นโลมเลียกระหวัดชิมดุนดันเพิ่มความซาบซ่านให้เจ้าชายหนุ่มอีกเท่าตัว
“น้ำหนาวทำถูกหรือเปล่าคะ”
“ยะ...ยิ่งกว่าถูกเสียอีก”
เจ้าชายซารีฟร์ครางแทบไม่เป็นภาษาเรือนกายสั่นเทิ้มหายใจติดขัดเมื่อนาราภัทรมอบความสำราญทั้งจากมือนุ่มและเรียวปากอวบอิ่ม เขาลดใบหน้าลงเข้ากดจุมพิตตรงซอกคอระหงกัดเบาๆ ตรงแอ่งชีพจร มือหนาร้อนผ่าวรูดกางเกงที่นาราภัทรสวมอยู่ลงมากองอยู่ตรงหัวเข่าจากนั้นก็สร้างความสำราญซาบซ่านให้กับแก้วตาดวงใจอีกครั้งด้วยปลายนิ้วแข็งแกร่งที่เลื่อนไปลูบไล้สร้างความร้อนผ่าวสุขสมให้กับกลีบดอกไม้งามและจุดแห่งความหรรษาที่สร้างความเสียวซ่านได้มากที่สุด
“เจ้าชาย...น้ำหนาวทรมาน ปลดปล่อย...ช่วยน้ำหนาวด้วย”
นาราภัทรครางเร่งเร้าแอ่นกายเข้าหามือหนาที่ยังคงมีชีวิตชีวาสร้างความเสียวซ่านให้กับเธอไม่ได้หยุดหย่อน
“บอกสิ น้ำหนาว เจ้าต้องการใคร เจ้าเป็นของใคร”
เจ้าชายซารีฟร์กระซิบถามเสียงแหบพร่าเรือนกายร้อนฉ่าปวดหนึบแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความรัญจวนใจที่ไม่เคยมีหญิงใดทำให้เขาสุขสมได้เท่ากับนาราภัทร
“คุณ...เจ้าชาย...น้ำหนาวต้องการเจ้าชายซารีฟร์...”
นาราภัทรตอบปนสะอื้นพยายามหยัดกายเข้าหาแก่นกายร้อนผ่าวที่อยู่ใกล้กับกลีบดอกไม้หวาน มือบางขยุ้มตรงบ่ากว้างจิกเล็บลงไปแล้วรั้งให้เรือนกายกำยำริมฝีปากสีสดกดจุมพิตลงมาที่เรียวปากของตนเองซึ่งได้เผยอรอรับอยู่แล้ว
เจ้าชายซารีฟร์คลี่ยิ้มด้วยความพึงพอใจหัวใจอุ่นวาบขึ้นมาเมื่อได้รับคำตอบเด่นชัดจากหญิงงามในอ้อมแขนถึงแม้จะเป็นการเอ่ยตอบในขณะที่จิตใจร่างกายถูกครอบงำด้วยฤทธิ์ยานรกแต่เขาก็รู้สึกอิ่มเอมหัวใจพองโตกับคำตอบของนาราภัทร ริมฝีปากร้อนผ่าวที่ก้มลงไปกดจูบได้บรรจงมอบจุมพิตที่หวานฉ่ำซาบซ่านเต็มไปด้วยความรักใคร่ภักดีที่สื่อผ่านภาษากาย ปลายนิ้วแข็งแกร่งยังคงสร้างความสุขรัญจวนให้หญิงสาวไม่มีหยุด กลีบดอกไม้งามที่เต้นไหวเริงระบำสู้กับปลายนิ้วดิ้นกระเส่าหยัดกายเข้าหามากขึ้นทำให้รู้ว่านาราภัทรพร้อมพรักสำหรับเขาแล้ว มือหนาผละออกแล้วจับร่างบอบบางหอมจรุงใจได้นอนราบกับเบาะรถ เขาขัดเคืองใจเล็กน้อยที่พื้นที่ในการบรรเลงเพลิงรักนั้นคับแคบไม่ได้ดังใจต้องการ
“เจ้าชาย...ได้โปรด...อย่าหนีน้ำหนาว”
นาราภัทรครางเสียงปนสะอื้นยื่นมือทั้งสองออกไปไขว่ขว้าพยายามฉุดรั้งให้เจ้าชายซารีฟร์ได้กลับมามอบความสุขเสียวซ่านให้กับตนเอง
“ใจเย็นๆ ยอดรัก รอสักครู่”
เจ้าชายซารีฟร์กัดฟันกรอดกระซิบบอกพร้อมด้วยรอยยิ้มบางๆ มือร้อนผ่าวดึงกางเกงทั้งชั้นนอกและชั้นในลงมากองที่ปลายเท้าจากนั้นก็ใช้หัวเข่าของตนเองแยกต้นขาเรียวยาวให้เปิดออกกว้างเผยดอกไม้งามบานฉ่ำให้เห็นเต็มใจรัก เขาอยากกลืนกินดูดด่ำน้ำหวานจากกลีบดอกกุหลาบยิ่งนัก แต่เวลาและสถานที่ที่ไม่เอื้ออำนวยทำให้ต้องตัดใจเก็บความต้องการของตนเองไว้สำหรับเพลิงสวาทในครั้งต่อไป
“โอ...เจ้าชาย...อย่ารออีกเลย...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พายุรักแห่งเม็ดทราย