พายุรักแห่งเม็ดทราย นิยาย บท 42

คำถามที่ค้างคาใจซึ่งคุณกมลได้พยายามค้นหาคำตอบอยู่หลายวันมีอันสิ้นสุดและกระจ่างแจ้งเมื่ออีกหลายวันต่อมาคฤหาสน์กมลเนตรได้มีโอกาสต้อนรับอาคันตุกะผู้หล่อเหลาบุรุษหนุ่มชายชาติอาหรับ

คุณกมลออกตกใจแกมงุนงงเมื่อจู่ๆ ก็มีบุรุษหนุ่มรูปงามที่ตนเองรับรู้ได้ว่าเป็นชายชาติอาหรับได้เข้ามาพบแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

“สวัสดีพ่อหนุ่ม นั่งลงก่อนสิมาหาใครหรือ”

ผู้เป็นเจ้าบ้านเอ่ยต้อนรับยิ้มแย้มให้กับอาคันตุกะหนุ่มอย่างเป็นมิตรพร้อมกันนั้นก็ผายมือเชิญให้นั่งบนเก้าอี้ตัวยาวภายในศาลากลางน้ำ ละมือจากการให้อาหารปลาแล้วเดินมาทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับบุรุษรูปงาม

เจ้าชายซารีฟร์ทรุดตัวลงนั่งตามคำเชิญของเจ้าบ้านและด้วยไม่อย่างเสียเวลาพูดจาอ้อมค้อมให้มากเรื่องจึงได้กล่าวแนะนำตัวเองและเอ่ยบอกความตั้งใจที่ได้มาเยี่ยมเยียนในวันนี้

“สวัสดีเราคือเจ้าชายซารีฟร์ อัล ริฟาอีลส์ อนุชาของเจ้าชายฮารีฟร์”

คุณกมลมึนงงเป็นนานกว่าจะเอ่ยพูดออกมาได้ “เอ่อ...ยินดีที่ได้รู้จักครับเจ้าชายซารีฟร์ เมื่อสักครู่คิดอยู่นานว่าท่านเหมือนใครสักคนที่ผมรู้จัก ตอนนี้ก็บางอ้อแล้วท่านเป็นอนุชาเจ้าชายฮารีฟร์นั่นเอง”

“เราเป็นอนุชาองค์รอง ที่มาวันนี้ก็เพื่อมาสู่ขอลูกสาวของท่าน”

ตรงประเด็นและชัดเจนโดยไม่ต้องเอ่ยเกริ่นนำตามแบบฉบับนิสัยของเจ้าชายนักรักแห่งอัลนูรีน แต่ผู้ที่ถูกจู่โจมขอลูกสาวแบบไม่ทราบมาก่อนล่วงหน้าถึงกับอึ้งนิ่งขึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อนึกย้อนถึงหลายเดือนที่ผ่านมา

“สมกับที่เป็นอนุชาของเจ้าชายฮารีฟร์จริงๆ เจ้าชายทั้งสองเข้ามาพบผมเป็นครั้งแรกพร้อมกับเอ่ยสู่ขอลูกสาวบ้านนี้ด้วยกริยาท่าทางที่ไม่ผิดกันเลย”

“เรารักลูกสาวของท่าน”

เจ้าชายซารีฟร์เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงใจกลั่นกรองมาจากก้นบึ้งและรู้ว่าเชษฐาของตนเองคงเอื้อนเอ่ยวาจาคำนี้ออกมาเช่นเดียวกันตอนที่ได้เข้ามาพบกับบุพการีของหญิงอันเป็นที่รัก

“นั่นก็คงเป็นน้ำหนาวใช่หรือเปล่าครับ”

เป็นการคาดเดาแปรโจทย์ที่ไม่ยากเลย เจ้าชายผู้สง่างามท่าทางติดหยิ่งยโสเสียยิ่งกว่าผู้เป็นเชษฐาคงไม่มีทางหลงรักนาราพรรณสาวน้อยที่แสนอ่อนหวาน ผู้ที่เหมาะสมจะเป็นคู่ปรับกับเจ้าชายผู้นี้ได้คงมีแค่เพียงนาราภัทรเท่านั้น

เจ้าชายซารีฟร์พยักหน้ารับคำด้วยกริยาค่อนข้างสงบแต่สีหน้านัยน์ตาคมดำสนิทได้เผยให้เห็นความรักภักดีเทิดทูนที่มีต่อบุตรสาวแสนสวยของผู้ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามตนเอง

“เรารักน้ำหนาวเธอเป็นชายาของเราแล้วถ้าหากท่านไม่ขัดข้องเราจะให้ท่านพี่ฮารีฟร์เดินทางมาสู่ขอให้ถูกต้องตามประเพณีของไทย”

คุณกมลถอนหายใจยาวไม่อาจขัดข้องเมื่อได้เห็นความรักภักดีที่เผยออกมาจากดวงตาคมกริบ ท่านรู้ว่าเจ้าชายหนุ่มผู้นี้รักและจริงใจต่อบุตรสาวของตนเอง ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกแล้วจะมาขัดขวางพรากลูกให้จากชายอันเป็นที่รักก็เห็นจะไม่เป็นอันสมควร

“ผมไม่ขัดข้องเรื่องที่ท่านจะมาสู่ขอน้ำหนาว แต่ออกจะแปลกใจอยู่เล็กน้อยที่สาวๆ บ้านนี้มักจะแพ้ศิโรราบให้กับบุรุษหนุ่มอาหรับ”

“อย่าเรียกว่าแพ้เลย เราคิดว่าบุตรสาวของท่านทั้งสองหรืออาจจะเป็นทั้งสามคนได้ถูกชะตาฟ้าลิขิตให้เกิดมาเพียงเพื่ออยู่เคียงข้างบุรุษชาติอาหรับแห่งราชวงศ์อัลนูรีน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พายุรักแห่งเม็ดทราย