คำถามที่ค้างคาใจซึ่งคุณกมลได้พยายามค้นหาคำตอบอยู่หลายวันมีอันสิ้นสุดและกระจ่างแจ้งเมื่ออีกหลายวันต่อมาคฤหาสน์กมลเนตรได้มีโอกาสต้อนรับอาคันตุกะผู้หล่อเหลาบุรุษหนุ่มชายชาติอาหรับ
คุณกมลออกตกใจแกมงุนงงเมื่อจู่ๆ ก็มีบุรุษหนุ่มรูปงามที่ตนเองรับรู้ได้ว่าเป็นชายชาติอาหรับได้เข้ามาพบแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
“สวัสดีพ่อหนุ่ม นั่งลงก่อนสิมาหาใครหรือ”
ผู้เป็นเจ้าบ้านเอ่ยต้อนรับยิ้มแย้มให้กับอาคันตุกะหนุ่มอย่างเป็นมิตรพร้อมกันนั้นก็ผายมือเชิญให้นั่งบนเก้าอี้ตัวยาวภายในศาลากลางน้ำ ละมือจากการให้อาหารปลาแล้วเดินมาทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับบุรุษรูปงาม
เจ้าชายซารีฟร์ทรุดตัวลงนั่งตามคำเชิญของเจ้าบ้านและด้วยไม่อย่างเสียเวลาพูดจาอ้อมค้อมให้มากเรื่องจึงได้กล่าวแนะนำตัวเองและเอ่ยบอกความตั้งใจที่ได้มาเยี่ยมเยียนในวันนี้
“สวัสดีเราคือเจ้าชายซารีฟร์ อัล ริฟาอีลส์ อนุชาของเจ้าชายฮารีฟร์”
คุณกมลมึนงงเป็นนานกว่าจะเอ่ยพูดออกมาได้ “เอ่อ...ยินดีที่ได้รู้จักครับเจ้าชายซารีฟร์ เมื่อสักครู่คิดอยู่นานว่าท่านเหมือนใครสักคนที่ผมรู้จัก ตอนนี้ก็บางอ้อแล้วท่านเป็นอนุชาเจ้าชายฮารีฟร์นั่นเอง”
“เราเป็นอนุชาองค์รอง ที่มาวันนี้ก็เพื่อมาสู่ขอลูกสาวของท่าน”
ตรงประเด็นและชัดเจนโดยไม่ต้องเอ่ยเกริ่นนำตามแบบฉบับนิสัยของเจ้าชายนักรักแห่งอัลนูรีน แต่ผู้ที่ถูกจู่โจมขอลูกสาวแบบไม่ทราบมาก่อนล่วงหน้าถึงกับอึ้งนิ่งขึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อนึกย้อนถึงหลายเดือนที่ผ่านมา
“สมกับที่เป็นอนุชาของเจ้าชายฮารีฟร์จริงๆ เจ้าชายทั้งสองเข้ามาพบผมเป็นครั้งแรกพร้อมกับเอ่ยสู่ขอลูกสาวบ้านนี้ด้วยกริยาท่าทางที่ไม่ผิดกันเลย”
“เรารักลูกสาวของท่าน”
เจ้าชายซารีฟร์เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงใจกลั่นกรองมาจากก้นบึ้งและรู้ว่าเชษฐาของตนเองคงเอื้อนเอ่ยวาจาคำนี้ออกมาเช่นเดียวกันตอนที่ได้เข้ามาพบกับบุพการีของหญิงอันเป็นที่รัก
“นั่นก็คงเป็นน้ำหนาวใช่หรือเปล่าครับ”
เป็นการคาดเดาแปรโจทย์ที่ไม่ยากเลย เจ้าชายผู้สง่างามท่าทางติดหยิ่งยโสเสียยิ่งกว่าผู้เป็นเชษฐาคงไม่มีทางหลงรักนาราพรรณสาวน้อยที่แสนอ่อนหวาน ผู้ที่เหมาะสมจะเป็นคู่ปรับกับเจ้าชายผู้นี้ได้คงมีแค่เพียงนาราภัทรเท่านั้น
เจ้าชายซารีฟร์พยักหน้ารับคำด้วยกริยาค่อนข้างสงบแต่สีหน้านัยน์ตาคมดำสนิทได้เผยให้เห็นความรักภักดีเทิดทูนที่มีต่อบุตรสาวแสนสวยของผู้ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามตนเอง
“เรารักน้ำหนาวเธอเป็นชายาของเราแล้วถ้าหากท่านไม่ขัดข้องเราจะให้ท่านพี่ฮารีฟร์เดินทางมาสู่ขอให้ถูกต้องตามประเพณีของไทย”
คุณกมลถอนหายใจยาวไม่อาจขัดข้องเมื่อได้เห็นความรักภักดีที่เผยออกมาจากดวงตาคมกริบ ท่านรู้ว่าเจ้าชายหนุ่มผู้นี้รักและจริงใจต่อบุตรสาวของตนเอง ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกแล้วจะมาขัดขวางพรากลูกให้จากชายอันเป็นที่รักก็เห็นจะไม่เป็นอันสมควร
“ผมไม่ขัดข้องเรื่องที่ท่านจะมาสู่ขอน้ำหนาว แต่ออกจะแปลกใจอยู่เล็กน้อยที่สาวๆ บ้านนี้มักจะแพ้ศิโรราบให้กับบุรุษหนุ่มอาหรับ”
“อย่าเรียกว่าแพ้เลย เราคิดว่าบุตรสาวของท่านทั้งสองหรืออาจจะเป็นทั้งสามคนได้ถูกชะตาฟ้าลิขิตให้เกิดมาเพียงเพื่ออยู่เคียงข้างบุรุษชาติอาหรับแห่งราชวงศ์อัลนูรีน”
“อย่าขัดความต้องใจของเรากับท่านพี่เลย น้ำค้างก็เป็นน้องสาวที่เราอยากมีเช่นเดียวกัน น้ำค้างเป็นเด็กดีน่ารักเราเชื่อว่าเมื่อไหร่ที่ปองผองราษฎรอัลนูรีนได้เห็นเจ้าหญิงองค์น้อยแห่งราชวงศ์ทุกคนต้องตกหลุมรักและยกย่องเจ้าหญิงแสนสวยองค์นี้ เราและท่านพี่เองก็พร้อมที่จะปกป้องนางฟ้าแสนสวยของเราเช่นเดียวกัน”
“ถ้าหากเป็นความประสงค์ของเจ้าชายกับเจ้าชายฮารีฟร์จริงผมก็ไม่อาจขัดได้อีก ผมดีใจแทนลูกที่มีพี่ชายทีเดียวถึงสองคน”
คุณกมลยิ้มหน้าบานหุบไม่ลงไม่นึกว่าลูกๆ ทั้งสามจะเกิดมาโชคดีเช่นนี้ นางฟ้าแสนสวยทั้งสามมีผู้ดูแลคอยพิทักษ์อารักขาเป็นบุรุษชาติอาหรับผู้ยิ่งใหญ่ต่อไปท่านก็นอนตายตาหลับไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องของลูกๆ อีกต่อไป
“น้ำหนาวอบคุกกี้อยู่ในห้องครัวเชิญเจ้าชายตามสบายเลยครับ” คุณกมลเอ่ยอนุญาตสังเกตเห็นว่าเจ้าชายหนุ่มเริ่มขยับตัวอยู่ไม่สุข
“ขอบใจมาก เราอยากคุยปรับความเข้าใจกับน้ำหนาวและบอกเธอเรื่องการอภิเษกด้วย ถ้าหากเป็นไปได้เราจะจัดพิธีขึ้นพร้อมๆ กับท่านพี่ฮารีฟร์”
“น้ำหนาวเป็นคนที่รักแรงเกลียดแรงดื้อด้านทิฐิเป็นที่หนึ่ง ถ้าหากเจ้าชายรักน้ำหนาวมาก ผมอยากขอร้องให้ทนกับน้ำหนาวสักนิด”
“เรารู้ดีและจะพยายามแก้ไขสถานการณ์ให้ดีที่สุด
เจ้าชายซารีฟร์เอ่ยตอบเสียงทุ้มลึกเรือนร่างใหญ่โตล่ำสันก้าวเดินออกจากศาลากลางน้ำตรงไปยังห้องครัวใหญ่ซึ่งหาได้ไม่ยากเพราะกลิ่นหอมกรุ่นของคุกกี้ที่อบใหม่ๆ ได้ลอยมาปะทะจมูกเป็นเสมือนแผนที่นำทางให้ตัวเขาได้เดินเข้าไปหาหญิงอันเป็นที่รัก
ภาพของหญิงสาวเรือนร่างโปร่งบางคาดผ้ากันเปื้อนลายน่ารักยืนหันหลังให้ประตูห้องครัวทำขนมอย่างขะมักเขม้นเป็นภาพที่งดงามประทับใจเจ้าชายหนุ่มซึ่งกอดอกเอนกายพิงขอบประตูยืนดูด้วยสายตาอบอุ่น รอยยิ้มละไมปรากฏขึ้นทั่วใบหน้าคมเข้มคงจะดียิ่งนักถ้าหากมีนาราภัทรอยู่เคียงข้างคอยให้กำลังใจทำอาหารให้เขากินทุกมื้อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พายุรักแห่งเม็ดทราย