พายุรักแห่งเม็ดทราย นิยาย บท 47

เจ้าชายนักรักกระซิบเว้าวอนชิดกับปลายถันรสชาติเลิศ มือใหญ่รูดกางเกงนอนทั้งของตนเองและหญิงสาวในอ้อมแขนทิ้งลงข้างเตียงจากนั้นก็จับร่างบางให้ขึ้นทาบทับอยู่ด้านบน

“เจ้าชายยังไม่หายดีเอ่อ...เอาไว้วันหลังนะคะ”

ปากเอ่ยคัดค้านแต่มือเล็กกลับปลดกระดุมเสื้อออกเป็นแถวจนเผยให้เห็นแผงอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามไรขนอ่อนๆ ที่ตนเองนั้นชอบสอดปลายนิ้วเข้าไปลูบไล้พันมือเล่นกับไรขนที่ขึ้นประปรายทั่วอกแข็งแกร่ง

“ไม่! ต้องเป็นวันนี้และเดี๋ยวนี้ด้วย”

เจ้าชายซารีฟร์ออกคำสั่งติดห้วนเอาแต่ใจก่อนจะผงกหัวขึ้นมอบความหรรษาให้กับปลายถันสีหวาน ปลายนิ้วเรียวยาวทำหน้าที่ร่ายรำเริงร่าปลุกเร้าไฟรักให้ลุกฮือยิ่งขึ้นโดยการสอดเข้าไปนวดเคล้าคลึงกลีบดอกกุหลาบหวานฉ่ำจากนั้นก็เปิดทางความเสียวซ่านด้วยการบดขยี้ใจกลางดอกกุหลาบตรงตำแหน่งที่สร้างความหฤหรรษ์ให้กับหญิงอันเป็นที่รักมากที่สุดจนกระทั้งร่างบอบบางดิ้นกระเส่าบดเบียดดอกกุหลาบให้แนบชิดกับปลายนิ้วมากยิ่งขึ้น

“โอ...เจ้าชาย...”

นาราภัทรครวญครางแทบไม่เป็นภาษาอยากให้กองไฟร้อนผะผ่าวที่เต้นตุบๆ ดุนดันอยู่กับดอกกุหลาบหวานได้เข้าครอบครองแทนปลายนิ้วมหัศจรรย์ ใบหน้างามเงยขึ้นหงายไปด้านหลังแอ่นกายบดเบียนยื่นปทุมอิ่มให้ริมฝีปากปลายลิ้นนุ่มสร้างความหรรษาซาบซ่านให้กับตนเองได้ถนัดถนี่มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันนั้นก็มอบความสุขสมซ่านสยิวให้กับเจ้าชายหนุ่มโดยการใช้ปลายนิ้วสะกิดยอดถันทั้งสองแล้วครอบครองให้ปลายถันสีเข้มแข็งเป็นไตอยู่ระหว่างซอกนิ้วชี้กับนิ้วกลางก่อนจะนวดเฟ้นหนักหน่วงตามเพลิงพิศวาสที่ปะทุเดือดจนร้อนรุ่มเรือนกายแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ

“รักเราเดี๋ยวนี้ได้โปรด...น้ำหนาว”

เจ้าชายนักรักกระซิบเว้าวอนเสียงแหบพร่าจับร่างบางยกขึ้นเล็กน้อยแล้วหยัดกองไฟร้อนฉ่าให้ตั้งเด่นตระหง่านจ่ออยู่ตรงปากทางสวรรค์รอให้นาราภัทรเป็นผู้คุมเกมส์ไฟสวาทลดเรือนกายลงมาสอดประสานกลืนกินท่อนไฟร้อนรุ่มให้จมดิ่งเข้าไปในกุหลาบบานฉ่ำ นาราภัทรไม่อาจปฏิเสธความต้องการของตนเองได้อีกต่อไป เธอขยับโยกเรือนกายอย่างช้าๆ ทว่าหนักหน่วงแนบแน่นตามแรงจังหวะการสอดประสานที่เจ้าชายหนุ่มได้ตอบรับอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน ทุกท่วง

ทำนองการเริงร่าร่ายระบำเพลิงเสน่หาเต็มไปด้วยความหรรษาเสียวซ่านจนต่างฝ่ายต่างก็สูดปากร้องครวญครางออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่

“โอ...น้ำหนาวยอดมาก วิเศษมาก”

เจ้าชายซารีฟร์ผงกหัวขึ้นครอบครองปลายถันสีหวานตวัดปลายลิ้นนุ่มดูดชิมกลืนกลิ่นนวดเฟ้นปทุมอิ่มด้วยริมฝีปากร้อนผ่าวโดยที่เรือนกายเบื้องล่างยังคงขยับสอดประสานตอบรักทุกจังหวะที่นาราภัทรได้ขยับโยกโหมกระหน่ำเพลิงสวาท

นาราภัทรคลี่ยิ้มขณะที่เป็นผู้คุมเกมส์ไฟเสน่หารู้สึกว่าตนเองกำลังกุมชัยชนะกุมแผ่นดินทะเลทรายไว้ในอุ้มมือบทเพลงรักที่เจ้าชายหนุ่มเคยสอนบทเรียนไว้ถูกนำมาผสมประสานกันเพื่อให้เป็นบทรักบทใหม่ที่ดุดันเสียวซ่านกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เรี่ยวแรงพลังกายความรักภักดีที่มีทั้งหมดถูกถ่ายทอดมอบลงไปกับทุกจังหวะที่ได้กดกระแทกสร้างความหฤหรรษ์ให้กับบุรุษชาติที่รักยิ่ง คลื่นความซาบซ่านลูกแล้วลูกเล่าที่ถาโถมซัดกระหน่ำทำเอาเรือนกายสั่นสะท้านหายใจหอบกระเส่าหลุดเสียงครวญครางด้วยความสุขสมออกมาโดยไม่คิดกักกั้นไว้

“น้ำหนาวเร็วกว่านี้อีก...เร็วกว่านี้”

เจ้าชายซารีฟร์กระซิบสั่งเร่งเร้าเสียงสั่นพร่ารู้ว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเพลิงรักไฟเสน่หาที่ดุดันรุนแรงกำลังเดินทางมาถึงปลายทางแห่งความสุขสม มือหนาจับเอวคอดกิ่วไว้มั่นช่วยส่งทุกจังหวะที่บดขยี้ขยับโยกอย่างเร่าร้อนและเมื่อคลื่นแห่งความเสียวซ่านหฤหรรษ์ลูกสุดท้ายได้ซัดกระหน่ำส่งให้ลอยละล่องเข้าไปแตะสัมผัสกับดวงตาที่พร่างพราวเต็มฟากฟ้าหนุ่มสาวทั้งสองที่ชะตาฟ้าลิขิตให้เกิดมาเพื่อกันและกันเท่านั้นต่างก็ส่งเสียงกรีดร้องครวญครางด้วยความสุขสมอิ่มเอิบที่แตกพร่าทั่วเรือนกาย

“พระเจ้า...วิเศษมากน้ำหนาวไม่เคยมีครั้งใดที่วิเศษเท่าครั้งนี้มาก่อน”

เจ้าชายนักรักกระซิบชื่นชมหลังจากที่ปรับระดับการหายใจให้เป็นปกติไม่หอบกระเส่าเหมือนไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา

นาราภัทรยิ้มเอียงอายกับถ้อยคำกระซิบให้คะแนนกับความกล้าหาญของตัวเธอ หญิงสาวซบหน้ากับซอกคอที่เปียกชื่นไปด้วยเม็ดเหงื่อแล้วใช้ปลายลิ้นตวัดโลมเลียเช็ดเม็ดเหงื่อออกจากซอกคอและบ่ากว้าง

“เจ้าชายชอบไหมคะ”

นาราภัทรทำใจกล้าผงกหัวขึ้นถามชิดกับริมฝีปากสีสดที่รีบยื่นมาบดจูบดูดดื่มเป็นนานกว่าจะเอ่ยตอบได้

“ยิ่งกว่าชอบเสียอีก เจ้าเป็นนักเรียนที่เรียนรู้เร็วที่สุด”

ใบหน้างามถอดสีเล็กน้อย ดวงตาคู่สวยหลุบมองแผงอกกว้างเพื่อซ่อนแววปวดร้าวเจ็บลึกเลือดซึมทั่วหัวใจดวงเล็กกับถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากคาสโนว่าแห่งแผ่นผืนทะเลทราย

เป็นนักเรียนที่เรียนรู้เร็วที่สุด...แสดงว่าครูคนนี้มีนักเรียนในคลาสมากมายจนสามารถเปรียบเทียบได้ว่าใครเก่งใครมีฝีมือเลิศและควรให้คะแนนนักเรียนแต่ละคนตามลำดับความเก่งกาจในเพลิงรักเท่าไหร่ดี

“สายมากแล้วเดี๋ยวน้ำหนาวจะไปทำข้าวต้มให้ทาน เจ้าชายจะได้กินยาตามที่หมอสั่งไว้ด้วย”

หญิงสาวถอนกายออกอย่างช้าๆ ไม่รอให้เจ้าชายซารีฟร์ตอบรับหรือปฏิเสธและเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นหยาดน้ำตาแห่งความอาดูรที่กำลังเอ่อคลอเบ้าจึงรีบสาวเท้ายาวๆ เกือบเป็นวิ่งเข้าไปในห้องน้ำใหญ่หรูหรา ประตูบานใหญ่ที่ถูกปิดลงสายน้ำเย็นยะเยือกที่ถูกเปิดให้ไหลผ่านจากฝักบัวราคาแพงเป็นสิ่งที่ช่วยปิดกั้นไม่ให้บุรุษหนุ่มที่อยู่ข้างนอกได้ยินเสียงสะอื้นร่ำไห้ของตนเองที่ไม่อาจกักเก็บไว้ได้อีกต่อไป

ผ่านไปเกือบ 30 นาที กว่าที่นาราภัทรจะออกมาจากห้องน้ำได้ หญิงสาวหยิบเสื้อผ้าชุดเดิมเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำจากนั้นก็ออกมาพร้อมกับกะละมังใบเล็กและผ้าขนหนูเช็ดตัวอีกผืน

“เช็ดตัวก่อนนะคะ จะได้สบายตัวขึ้นเสร็จแล้วน้ำหนาวจะทำข้าวต้มให้ทาน เจ้าชายอยากกินข้าวต้มปลาไหมคะ”

เจ้าชายซารีฟร์ยันกายลุกขึ้นนั่งเอนตัวพิงหมอนใบใหญ่ มือหนาร้อนผ่าวเอื้อมไปลูบไล้พวงแก้มแดงปลั่งด้วยความรักก่อนจะเอ่ยตอบพร้อมด้วยรอยยิ้ม

“อะไรก็ได้เรากินได้ทั้งนั้นแหละ เจ้าไม่ต้องไปทำเองก็ได้สั่งให้เจ้าราชิตหรืออาดิลเป็นคนทำเถอะ เจ้าดูแลเรามาทั้งคืนแล้วไม่ต้องลำบากทำอาหารให้เรากินหรอก”

“ราชิตกับอาดิลคงทำข้าวต้มปลาไม่เป็น ป้าจันแม่บ้านที่บ้านน้ำหนาวเคยบอกว่าคุณยายของป้าจันมักจะทำข้าวต้มปลาให้ลูกๆ กินทุกครั้งที่ลูกๆ ของคุณยายป่วยคุณยายบอกว่าข้าวต้มปลาจะช่วยไล่พิษไข้ให้หมดไปจากร่างกาย”

หญิงสาวเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเป็นสุขมือเล็กเช็ดทำความสะอาดให้ทั่วดวงหน้าคมเข้มลำคอแผงอกแข็งแกร่งเรื่อยลงไปจนถึงปลายเท้าใหญ่เปล่าเปลือย

“แล้วลูกๆ ของคุณยายหายไข้จริงหรือเปล่า”

“ไม่รู้เหมือนกันคะ แต่ที่แน่ๆ ทุกครั้งที่เราสามพี่น้องไม่สบายป้าจันก็จะต้มข้าวต้มปลาให้กินหลังจากนั้นอีกไม่กี่วันก็หายสนิท จริงๆ แล้วอาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาของคุณหมอด้วยเลยทำให้พวกเราหายไข้เร็วขึ้น”

ขณะที่เอ่ยตอบกลั้วหัวเราะมือเล็กก็ทำหน้าที่เช็ดตัวให้บุรุษอันเป็นที่รักโดยไม่นึกรังเกียจทุกครั้งที่แตะต้องทั่วเรือนกายกำยำก็ได้ถ่ายเทความรักภักดีที่มีอยู่ล้นใจลงไปกับทุกสัมผัสด้วย

“คนแก่สมัยก่อนคงอุปโลกน์ให้คนป่วยยอมกินข้าวเพื่อที่จะได้หายป่วยไวๆ”

“น้ำหนาวก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่เวลาป้าจันทำข้าวต้มมาให้กินน้ำหนาวก็กินหมดทุกครั้ง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พายุรักแห่งเม็ดทราย