พายุรักแห่งเม็ดทราย นิยาย บท 52

ไซด์งานก่อสร้างโรงแรมที่พัก ณ โอเอซิสแห่งน้ำตามธรรมชาติหนึ่งเดียวในทะเลทรายอันแห้งแล้งซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงเกือบ 50 ไมล์คือสถานที่ที่เจ้าชายซารีฟร์ได้ใช้เป็นแหล่งหลบตัวหลังจากเผ่นแนบหลบหนีนาราภัทรมาจากท่าอากาศยาน

ตอนที่เห็นนาราภัทรก้าวลงจากเครื่องบินเขาใจเต้นแรงลอบดีใจที่เห็นหญิงสาวเดินทางมาด้วย ในใจลึกๆ นั้นคาดหวังว่านาราภัทรคงใจอ่อนเปิดใจให้กับความรักที่เขาได้เพียรเฝ้ามอบให้เสมอมา แต่เมื่อได้เห็นใบหน้างามที่ติดเรียบเฉยไม่แสดงอาการว่าดีใจตื่นเต้นที่ได้พบกันอีกครั้งหลังจากที่ห่างไกลกันมานามแรมคืนกอปรกับดวงตาที่ว่างเปล่าไม่มีวี่แววอาลัยอาวรณ์ให้เห็นทำเอาเขาทนไม่ได้จนต้องเผ่นแนบหลบหนีความเจ็บปวดมาซ่อนตัวอยู่ที่ไซด์งานแห่งนี้

เสียงเฮลิคอปเตอร์ที่ดังแว่วเข้ามากระทบประสาทหูก่อนจะดับสนิทบ่งบอกให้รู้ว่ามีแขกมาเยือนถึงโอเอซิสถ้าหากเดาไม่ผิดก็คงเป็นเหล่าองครักษ์เอกทั้งราชิตและอาดิลที่ได้เดินทางกลับจากเมืองหลวง

“ราชิต ชงกาแฟให้เราแก้วสิ”

เจ้าชายซารีฟร์ออกคำสั่งโดยไม่ได้หันไปมองว่าคนที่กำลังสาวเท้าช้าๆ แผ่วเบาเข้ามาในห้องทำงานนั้นจะใช่องครักษ์หนุ่มตามที่ตนเองนึกคิดหรือเปล่า ดวงตาคมยังคงทอดมองอยู่ที่รายงานการก่อสร้างโรงแรมซึ่งฝ่ายวิศวกรได้ส่งความคืบหน้ามาให้ตรวจสอบอยู่ทุกสัปดาห์

ผู้ที่ก้าวเข้ามาเป็นอาคันตุกะแบบไม่ได้รับเชิญหันรีหันขวางด้วยไม่รู้มุมชงกาแฟอยู่ที่ไหนเพิ่งเดินทางมาโอเอซิสแห่งนี้เป็นครั้งแรกเสียด้วยสิ

นาราภัทรถอยฉากออกมาจากห้องทำงานยืนตั้งหลักอยู่หน้าห้องตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำตามคำสั่งไปหากาแฟมาให้เจ้าชายซารีฟร์สักถ้วยหรือจะเข้าไปในห้องทำงานอีกครั้งด้วยมือเปล่า

“ไหนๆ ก็อุตส่าห์นั่งเครื่องบินมานานนับสิบชั่วโมง แล้วยังต้องนั่งเฮลิคอปเตอร์อีกเกือบชั่วโมงแม่คงถอยไม่ได้แล้วล่ะลูกรัก”

หญิงสาวพึมพำกับลูกน้อยสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เรียกความกล้าให้กับตัวเองก่อนจะเปิดประตูห้องแล้วก้าวเท้าช้าๆ ไปหยุดยืนอยู่ใกล้ๆ เรือนกายกำยำล่ำสัน

เจ้าชายซารีฟร์เอนกายพิงพนักเก้าอี้พลางหลับตาลงอย่างอ่อนล้าไม่นึกเลยว่าตนเองจะคิดถึงนาราภัทรมากถึงเพียงนี้ แค่เพียงคิดถึงใบหน้างามหวานลออดวงตาคู่สวยกลมโตเรือนกายอรชรอ้อนแอ้นก็ทำให้เขาได้กลิ่นหอมกรุ่นจรุงใจลอยมาติดจมูกจนต้องหลุดเสียงสบถครางออกมา

“บ้าชะมัด! เธอจะตามหลอกหลอนฉันไปถึงไหนน้ำหนาว”

ด้วยเข้าใจผิดคิดว่าเจ้าชายเห็นตนเองกอปรกับถ้อยคำที่สบถห้วนด้วยความไม่พอใจทำเอานาราภัทรผงะถอยหลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดแข้งขาไร้เรี่ยวแรงน้ำตาเอ่อคลอเบ้าขณะพึมพำขอโทษ

“น้ำหนาวขอโทษที่เข้ามารบกวนค่ะ”

เจ้าชายซารีฟร์ดีดตัวนั่งตรงเมื่อได้ยินเสียงพึมพำแผ่วเบาแล้วรีบคว้าร่างบางไว้ก่อนที่หญิงสาวจะก้าวพ้นรัศมีของอ้อมแขนอบอุ่น

“เจ้ามาที่นี่ได้ไง” เพราะยังคงขุ่นเคืองกับท่าทีเฉยเมยที่ผ่านมาน้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยถามจึงติดสั้นห้วนดังเดิม

“คุณอานีสต์ขับฮอมาส่งค่ะ” นาราภัทรคลี่ยิ้มบางๆ ดีใจที่ได้ตกอยู่ในอ้อมแขนอบอุ่นที่หวลหาทุกค่ำคืนอีกครั้ง

อานีสต์ ดามาสต์ ซาบิลซ์ คือองครักษ์เอกของเจ้าชายฮารีฟร์ อานีสต์เป็นองครักษ์มือหนึ่งและเป็นหัวหน้าของเหล่าองครักษ์ทั่วทั้งอัลนูรีน

“เจ้ามาที่โอเอซิสทำไม”

เรียวปากอวบอิ่มสีหวานที่อยู่ล่อตาล่อใจทำให้อยากกดประทับจุมพิตลงไปยิ่งนัก แต่สิ่งที่เจ้าชายหนุ่มนักรักกำลังทำในตอนนี้คือการสร้างกำแพงแห่งความเย็นชาปิดกั้นไม่ให้หัวใจได้แตกร้าวไปมากกว่าที่เป็นอยู่

รอยยิ้มหวานที่ตั้งใจมอบให้บุรุษที่รักมีอันต้องเจื่อนลงเมื่อเจอถ้อยคำย้อนถามห้วนจัด ดวงตาคมกริบที่เคยทอดมองอย่างอบอุ่นเผยให้เห็นความรักภักดีบัดนี้ดูว่างเปล่าเรียบเฉย

“คือ...น้ำหนาวอยากมาคุยกับเจ้าชายค่ะ”

“เรื่องอะไร ถ้าหากเป็นเรื่องเดิมเรื่องความรักที่งี่เง่าก็ไม่ต้องมาพูดกับเราอีก”

“ทำไมเจ้าชายพูดแบบนี้ค่ะ”

“แบบที่เรียกว่าไร้คุณค่าดูงี่เง่างั้นหรือ”

เจ้าชายหนุ่มย้อนเสียงสูงราบเรียบเย็นชาไม่สนใจหญิงสาวในอ้อมแขนที่หน้าถอดสีเผือดไร้สีเลือดทันตาเห็น

“เจ้าชายคิดเสมอมาหรือคะว่าความรักดูเป็นเรื่องที่ไร้สาระงี่เง่าไร้คุณค่า” น้ำเสียงที่เอ่ยถามนั้นสั่นเครือดวงตาคู่สวยมีน้ำตาเอ่อหล่อเลี้ยงทำท่าจะร่วงเผาะลงมาให้ได้

“ใช่ เราเสียเวลากับเรื่องนี้มามากแล้วจริงๆ เราควรคิดได้ตั้งนานคิดได้ก่อนที่มันจะถลำลึกเหมือนทุกวันนี้”

“จริงสิน่ะ น้ำหนาวก็ควรคิดได้ตั้งนานเช่นเดียวกัน เจ้าชายซารีฟร์ผู้ที่ได้รับฉายาว่าคาสโนว่าแห่งทะเลทรายมีหรือจะรักเราจริง มีหรือที่คาสโนว่าจะยอมลบลายออกไปง่ายๆ ผู้หญิงคนนี้คงต้องขอโทษที่ทำให้เจ้าชายนักรักเสียเวลามานาน ขอโทษที่ตามมาทำให้รำคาญใจ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พายุรักแห่งเม็ดทราย