บทที่ 917 ตอนจบ
หลีโม่หัวเราะพร้อมพูดว่า “เจ้าระวังเขาจะกลายเป็นเด็กเสเพล”
“แบบนั้นก็ไม่เป็นไร ข้าเลี้ยงเอง” ฉินโจวพูด
“เจ้าตามใจพวกเขาเกินไป ระวังจะกลายเป็นเลี้ยงลูกจนตัวจน”
ฉินโจวอุ้มหู่เถาที่ได้ห้าขวบแล้วขึ้นมา “เรียกข้าว่า”
“อาเหนียง”หู่เถายิ้มจนเห็นฟัน ลักยิ้มสองข้างเผยออกมาให้เห็น งดงามอย่างบอกไม่ถูก ฉุดกระชากวิญญาณฉินโจวหลุดลอยไปแล้ว
ตามที่ทุกคนคิด ฉินโจวน่าจะชอบเทียนอืนมากกว่า เพราะเทียนอืนกับหลีโม่หน้าตาเหมือนกันมาก โดยเฉพาะตอนนี้ห้าขวบกว่าแล้ว ตาคิ้วยิ่งชัดเจน เหมือนกันอย่างกับคนคนเดียวกัน
แต่ฉินโจวกับรักหู่เถามากกว่า ไม่ใช่อะไร เพราะเด็กคนนี้เจอนางครั้งแรกก็เรียกนางว่าอาเหนียง
นี่คือโชคชะตา
อีกอย่าง นางจะไม่อภิเษกอีก แคว้นฉินต้องมีผู้สืบทอด…
“ฮ่องเต้อาเหนียง อุ้มข้าด้วย” เทียนอืนดึงแขนเสื้อฉินโจว แล้วสะบัดไปมา
ฉินโจวจึงอุ้มเทียนอืนขึ้นมา หอมแก้มคนละที “เด็กดี เด็กดี”
หลีโม่ไล่พวกเขาไป แล้วก็ดึงฉินโจวเข้าไปในห้องอุ่นๆ
“เป็นอย่างไรบ้าง?” หลีโม่มองดูนาง รูปร่างหน้าตาไม่เปลี่ยน แต่เมื่อเทียบกับฉินโจวที่ผ่านมา ค่อนข้างแตกต่างกัน
“ก็ดี เหนื่อยบ้างทุกข์บ้าง แต่แคว้นฉินสงบสุข” ฉินโจวพูดไปด้วย แล้วก็มองนางอย่างลึกซึ้ง “เจ้าล่ะ? สามปีแล้ว ทำไมถึงยังไม่ท้องอีก?”
หลีโม่ส่ายหัว “ท้องไม่ได้แล้ว ก่อนหน้านี้ที่คลอดในป่า ส่งผลกระทบต่อร่างกาย ท้องไม่ได้อีกแล้ว”
ฉินโจวได้ยินเช่นนี้ แล้วก็อดไม่ได้ที่อยากจะดึงฉู่จิ้งออกมาด่าให้สาสมใจ
หลีโม่ยิ้มพูดว่า “ต่อให้สามารถท้องได้ ไอ้เจ็ดก็ไม่ให้ข้าท้องแล้ว ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ข้าพอใจแล้ว”
ฉินโจวอืมหนึ่งที คิดถึงคำสาปแช่ง “ตอนนี้คำสาปแช่งถูกถอนแล้วหรือยัง?”
หลีโม่พูดว่า “น่าจะถอนแล้ว กลางปีที่แล้ว ไอ้เจ็ดพาข้าไปที่เซียนเป้ย ถามคนที่รู้เรื่องคำสาปแช่ง บอกว่าตอนที่ข้าได้เทียนอืนกลับมา ความสุขล้นขจัดความทุกข์ ร้องไห้อย่างหนักแล้วก็อ้วกออกมาเป็นเลือด นับว่าได้จิตเดิมของตัวเองกลับมาแล้ว"
“งั้นก็ดี งั้นก็ดี” ฉินโจวได้ฟังคำตอบนี้แล้วก็พอใจมาก
สักพัก ฉินโจวก็ถามขึ้นอีกว่า “ฮองไทเฮาจะตายเมื่อไหร่?”
หลีโม่กลอกตามองบน “คนคนหนึ่งจะตายเมื่อไหร่ ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร?”
“นางสมควรตายแต่แรกแล้ว ทำร้ายคนมามาก” ฉินโจวเมิน แล้วมองดูหลีโม่ “ดีนะที่โหรวเหยาส่งข่าวมาบอก ว่าเจ้าไม่ได้รักษาให้นาง ไม่เช่นนั้น ช่วยนางแล้ว ต่อไปก็คงคิดทำร้ายเจ้าอีก?”
“คนเราต่างก็มีความอดทนจำกัด นางล้ำเส้นข้า” หลีโม่ถอนหายใจเบาๆ “ที่จริง สุดท้ายข้าได้ให้อู๋เยี่ยนจู่ไปดูอาการของนางอยู่ อาการป่วยของนาง ต่อให้ข้าไปก็รักษาไม่ได้ ร่างกายครึ่งหนึ่งของนางขยับไม่ได้ ข้าให้อู๋เยี่ยนจู่ตรวจดู ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เลือดลมไหลเวียนอย่างดี ชีพจรก็ปกติ และก็ไม่มีโรคร้าย นางเดินไม่ได้ ขยับร่างกายด้านซ้ายไม่ได้ เป็นเพราะใจของนางเอง”
“ตายไปก็ไม่สาสมกับความผิดที่ได้กระทำ”
หลีโม่มองดูนางอย่างครุ่นคิด “ที่จริง สิ่งเหล่านั้นที่นางทำ ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายใหญ่โตอะไร แต่คนน่ารังเกียจ นางเป็นเช่นนี้มาตลอดชีวิต ไม่ยอมรับความจริง หลงในตำแหน่งของตัวเอง ที่จริงนางก็มีด้านที่มีเมตตา ร่างกายนางขยับไม่ได้ ก็เพราะเหตุนี้ ในใจคิดร้ายแต่ก็พยายามปลอบใจตัวเอง บอกว่าตัวเองไม่ผิด ใครบอกว่าจิตใต้สำนึกไม่สามารถลงโทษคน? ความจริงแล้ว จิตใต้สำนึกของนางกำลังลงโทษตัวเอง”
ฉินโจวพูดว่า “ข้าไม่สนใจพวกนี้ ตอนนั้นข้าได้สั่งจิ่งไว้แล้ว หากเจ้าไปรักษาให้นาง ก็ให้จิ่งคิดหาวิธี ฆ่านางเสีย”
หลีโม่หัวเราะ “แบบนั้นไม่ได้ เจ้าฮ่องเต้แคว้นฉิน มาฆ่าฮองไทเฮาประเทศต้าโจว จะสร้างความแตกร้าวระหว่างทั้งสองประเทศหรือ?
ฉินโจวเมิน “ต่อให้ข้าฆ่านางแล้ว ก็ไม่มีคนรู้ว่าเป็นข้าทำหรอก แค่นี้เจ้าก็ไม่เชื่อใจข้าหรือ?”
“เชื่อ เชื่อ เชื่อ” หลีโม่หัวเราะ ในใจกลับซาบซึ้งมาก
คนนิสัยแปรปรวนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเช่นนี้ พูดตามความจริงแล้วก็คือคนที่เชื่อถือไม่ได้ คนแบบนี้ป้องกันยาก ฉินโจวเป็นกังวลก็เป็นเรื่องปกติ
“ยังไม่มีข่าวของอ๋องหนานหวยหรือ?” ฉินโจวเปลี่ยนเรื่องคุย ไม่อยากพูดถึงคนคนนั้นแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...