พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 162

ตอนที่ 162 ยกน้ำชา

หลีโม่สีหน้าเย็นชา ตามหลักแล้ว บิดาแต่งภรรยา ผู้เป็นลูกถึงแม้จะออกมาได้ แต่ก็ต้องหลบให้เกี้ยวเจ้าสาวเข้าประตูมา รอฮูหยินใหม่เคารพฟ้าดินเรียบร้อยแล้วถึงจะสามารถกลับเข้ามาได้

ลูกสาวคนโต ไม่จำเป็นต้องยกน้ำชาให้เจ้าสาว แต่เป็นแม่ใหม่ที่ต้องออกไปเรียกลูกคนโต ว่า คุณหนู เพื่อแสดงถึงตำแหน่งที่ต่างกัน

ทุกคนล้วนรอที่จะดูภาพเหตุการณ์นี้ เพราะว่า ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยแต่งเข้าบ้านมาในตำแหน่งผิงชี ถ้าตามกฎหมายแล้ว ผิงชีก็เป็นตำแหน่งสนม เพียงแต่ว่า ฐานะของซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยค่อนข้างไม่ธรรมดา ดังนั้น วันนี้ไม่ว่าใครจะยกน้ำชาให้ใคร ก็ล้วนไม่ค่อยจะเหมาะสมไปทั้งหมด

มาดูว่าใครจะหัวแข็งมากกว่ากัน ใครจะเอาชนะได้ในครั้งนี้

ตอนที่เกี้ยวเจ้าสาวใกล้จะถึงนั้น องค์หญิงใหญ่ซือถูจิ้งก็มาด้วย

การมาของนาง ทำให้งานแต่งครั้งนี้มีอะไรขึ้นมาทันที ครึกครื้นขึ้นมาทันที

ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยพูดถึงเรื่องดวงไม่ถูกกัน ให้หลี่ชื่อออกไปก่อน ให้เหลือแค่คุณหนูหลีโม่คนเดียว เมียหลวงไม่อยู่ ลูกสาวคนโตเดิมทีสามารถทำหน้าที่แทนได้ แต่ทว่า จวนเฉิงเสี้ยงกลับไปตกปากรับคำให้เสี้ยหลีโม่ยกน้ำชาคำนับซีเหมินเสี่ยวเยวี่ย แล้วยกย่องเป็นแม่อีกคนอีก

ทั้งสองฝ่ายดูยิ่งใหญ่กันมาก แค่เสี้ยหลีโม่ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น แค่อ๋องซื่อเจิ้งกับองค์หญิงใหญ่ ก็ทำให้คนต้องมองนางใหม่แล้ว

ส่วนฝั่งจิ้นโก๋วกง นอกจากพวกจิ้นโก๋วกงแล้ว ก็ยังมีเหลียงไท่ฝู้และองค์รัชทายาทเข้ามาแสดงความยินดีพร้อมกัน ราวกับกำลังจะตั้งท่าประชันหน้ากัน ความซับซ้อนของงานวิวาห์นี้ มีอะไรมากกว่าที่คนธรรมดาจะนึกคิดได้

เดิมที่องค์รัชทายาทไม่อยากมางานนี้ เขาเข้าวังไปขอพระราชอนุเคราะห์ ว่าจะยกเลิกงานแต่งนี้ เลยถูกฮองเฮาด่ากลับมา ออกมาแล้วยังถูกเหลียงไท่ฝู้ต่อว่าอีก เขาก็เลยทำอะไรไม่ได้ จำเป็นต้องมา

องค์รัชทายาทก็ต้องกล้าทำเช่นนี้เป็นธรรมดา เพราะมีคนคอยหนุนหลัง จะมีคนคอยจัดการคิดแผนการให้เขาทุกเรื่อง เรื่องที่ต้องการก็มีคนคอยปูทางให้เขาเดินขึ้นไปอย่างสะดวก เมื่อขึ้นไปถึงบรรลังก์มังกร ก็จะได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน

นายหญิงแก่ดูเหมือนจะภูมิใจมาก นางจะเอางานแต่งนี้มาขยายอำนาจของจวนเฉิงเสี้ยง

เกี้ยวเจ้าสาวสีแดงหยุดหน้าประตูจวน หลังจากออกจากเกี้ยว มีแม่สื่อเป็นคนแบกเจ้าสาวเข้าไปในจวน

ผ้าคลุมหน้าสีแดงปกปิดจิตใจทะเยอทะยานที่จะเป็นเมียหลวงของนางไว้ ภายใต้ผ้าคลุมหน้าสีแดง ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยสีหน้าหยิ่งผยอง นางไม่อยู่ในจุดจุดนี้มานานแล้ว นางอยากเป็นจุดสนจากทุกคน

ก่อนหน้านี้นางเป็นแม่หม้าย จะทำอะไรก็ต้องเก็บตัวเงียบๆ แม้กระทั่งการแต่งตัวก็สีสดมากไม่ได้ นางมีเครื่องเยอะแยะมากมาย ล้วนเป็นของมีค่า แต่นางได้แค่เพียงใส่ปิ่นปักที่เก่าและดูธรรมดา

ทีแรกคิดว่าจะได้อยู่เป็นหม้ายไปตลอดชีวิตเสียแล้ว ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ได้เป็นถึงฮูหยินของเฉิงเสี้ยง

เครื่องขันหมากถูกยกเข้ามาที่ละหีบๆ กว่าครึ่งเป็นเสื้อผ้าอาภรณ์ เมื่อรู้ว่าจะได้แต่งกับเสี้ยห้วยจุน นางก็ได้ทำชุดใหม่ถึง30ชุด ทั้งหมดล้วนมีสีสันที่ฉูดฉาด

เสื้อผ้าธรรมดาๆก่อนหน้า นางทิ้งไปเสียหมดแล้ว

นางต้องการความใหม่ทั้งหมด เพื่อแสดงถึงช่วงชีวิตที่เริ่มต้นใหม่

นางรู้ว่าวันนี้จะมีแขกมาเยอะ นางคิดว่าทุกคนมาเพื่อแสดงความยินดีกับนาง

ขณะที่ไหว้ฟ้าดิน ด้วยเหตุที่มีว่าที่ฮ่องเต้อย่างอ๋องซื่อเจิ้ง อยู่ในงานด้วย เป็นประมุขฟ้าดิน ดังนั้น ไหว้ฟ้าดินเสร็จแล้ว ก็ต้องมาทำความเคารพอ๋องซื่อเจิ้งเสียก่อน ถึงจะไปเคารพพ่อแม่และเคารพซึ่งกันและกันได้

ซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยรู้สึกแปลกใจที่อ๋องซื่อเจิ้งมางานแต่งของนาง เพราะว่านางรู้ว่าปกติแล้วอ๋องซื่อเจิ่งไม่ค่อยออกงานพวกนี้

แต่นางกลับมองว่าเป็นเพราะว่าตัวเองนั้นมีความสำคัญ

หลังจากกราบไหว้ฟ้าดินเสร็จ นางถูกนำตัวส่งห้องหอก่อน ด้วยเหตุที่นางเป็นเมียแต่ง นางไม่ต้องรอเจ้าบ่าวเข้ามาในห้องหอถึงค่อยเปิดผ้าปิดหน้าออก นางสามารถเข้าไปในห้องหอแล้วเปิดผ้าคลุมหน้าออก แล้วก็ออกมาต้อนรับผู้อาวุโสในตระกูลได้

หลังจากที่ยกน้ำชาทำความเคารพผู้อาวุโสในตระกูลทีละคนแล้ว แม่สื่อก็จะประคองนางนั่งลง จากนั้น เสี้ยหลีโม่และเสี้ยโล่เยว่ต้องยกน้ำชาเคารพนาง ตามที่นางต้องการแต่แรก

เสี้ยเฉิงเสี้ยงให้คนจับตาดูหลีโม่ไว้แต่แรกแล้ว ไม่ให้นางหนีไปไหนได้

หลังจากที่นางนั่งลง ทุกคนคิดว่า เสี้ยหลีโม่ยังไงก็ต้องยกน้ำชาให้นางแน่ๆ

และเป็นเช่นนั้น พอนางนั่งลง ก็มีเสียงแม่สื่อส่งเสียงว่า “ขอเชิญคุณหนูใหญ่และคุณหนูรองเข้ามายกน้ำชาทำความเคารพให้แม่”