พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 357

ตอนที่ 357 ทำร้ายองค์รัชทายาทบาดเจ็บ

หลีโม่แสยะยิ้ม หลิวเยว่ผู้นี้ยังไม่ลงมือ หรือว่าอยากจะรอให้พวกเขาทำธุระเสร็จก่อนงั้นหรือ? จริงๆ แล้วก็ใช่อย่างนั้น ทำลายเรื่องดีๆ ของคนอื่นก็เท่ากับสังหารบิดามารดาของเขา

หลังจากเสียงครางอู้อี้ออกมาจากปากขององค์รัชทายาท ทุกอย่างก็หยุดลง

เสียงของหลิวเยว่ก็ดังขึ้นมาอย่างช้าๆ “ทำเสร็จแล้วใช่หรือไม่?”

องค์รัชทายาทกับอี๋เฟยตกใจจนกระโดดขึ้นมา อี๋เฟยนั่งกอดตัวเอง กล่าวด้วยความโมโหว่า “เจ้าเป็นใคร?”

คนที่อยู่ด้านนอกประตูเมื่อได้ยินเสียงจึงรีบพุ่งเข้ามาทันที ซื่อเย่นร้องคำรามออกมา จากนั้นก็พุ่งเข้าไปหาคนเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว

นางกำนัลสองคนวิ่งหนีเตลิดออกไป องครักษ์ขององค์รัชทายาทต้านทานได้เพียงชั่วคราว ทว่าซื่อเย่นดุร้ายมากจริงๆ ภายใต้สถานการณ์ที่วุ่นวาย ก็ถูกกัดจนบาดเจ็บไปถึงสองคน จึงไม่มีใครกล้าเข้ามาวุ่นวาย

หลิวเยว่หยิบกริชที่วางเอาไว้บนโต๊ะขึ้นมา และหยิบสร้อยประคำของนางออกมา มือของนางขยับไปมา กล่าวอย่างถ่อมตนและมีมารยาท “ท่านคือองค์รัชทายาทใช่หรือไม่เพคะ?”

องค์รัชทายาทรีบร้อนสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ตะโกนด้วยความโกรธออกมาทันที “เจ้าเข้ามาได้อย่างไร? ไสหัวออกไป!”

ข้าย่อมต้องไสหัวออกไปแน่นอน องค์รัชทายาทโปรดระงับโทสะก่อน อารามเป็นที่เงียบสงบ ไม่สมควรโหวกเหวกเสียงดังนะเพคะ!” นางลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ ในมือขยับสร้อยประคำไปมา พูดกับอี๋เฟยว่า “สตรีแพศยาผู้นี้ ท่านออกไปก่อนเถอะ หม่อมฉันมีเรื่องจะคุยกับองค์รัชทายาทเพคะ”

อี๋เฟยสวมชุดเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางรู้สึกอับอายมากจนไม่มีสิ่งใดเทียบได้ สายตาพลันฉายไอสังหารออกมาอย่างฉับพลัน ทว่าอยู่ในอาราม นางไม่มีลูกน้องมากพอ อีกทั้งคนผู้นี้สามารถเข้ามาโดยไม่ให้สุ้มให้เสียงแม้แต่น้อย จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่จนตรอก นางต้องยอมถอยเพื่อไม่ให้เป็นฝ่ายเสียเปรียบต่อคนตรงหน้า หลังจากนางจ้องหลีโม่ครู่หนึ่ง ก็ออกไป

อันที่จริงแล้วไม่ใช่เพราะหลิวเยว่เข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง แต่พวกเขาเคลิบเคลิ้มกับกิจกรรมเข้าจังหวะมากเกินไป จึงไม่ได้สังเกตเห็นตรงส่วนนี้

หลังจากอี๋เฟยออกไปแล้ว หลีโม่กำลังมองดูอยู่ ในตอนแรกนางคิดว่าหลิวเยว่ถามความผิดก่อนค่อยลงมือ

ทว่าหลิวเยว่ผู้นี้ไม่เล่นตามแผน อี๋เฟยเพิ่งจะออกไปได้ไม่นาน นางก็หยิบกริชเล่มนั้นขึ้นมาและพุ่งตัวเข้าไปทันที

จากนั้นหลีโม่ได้ยินคำหยาบที่หยาบที่สุดที่ไม่เคยได้ยินมาในชีวิตนี้ ไม่ว่าจะเป็นไอ้สุนัขสำส่อน คนข้างถนน มารดาเจ้าเถอะ ฝากความคิดถึงไปที่บรรพบุรุษตระกูลเจ้าอะไรประมาณนั้น เป็นเพียงคำถามในชีวิตประจำวันเท่านั้น

คำพูดของนางไม่มีส่วนอวัยวะใด มีก็เพียงแต่คำสองคำ ทว่ากลับทำให้คนคิดไม่ถึงเรื่องสกปรกที่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้เหล่านี้ ความหมายประมาณว่านกของเจ้าเล็กขนาดนั้นเหตุใดถึงอยากให้มันแข็งแรงเหมือนนกอินทรีเหล่านั้น ชอบใจคำพูดเหล่านี้ยิ่งนัก

ทว่ามีบางส่วนที่หลังจากหลีโม่ได้ฟังแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง เพราะว่านางใช้วิธีที่แปลกประหลาดอย่างหนึ่งโดยการฝากความคิดถึงบรรพบุรุษของตระกูลซือถู

แปลออกมาให้สุภาพหน่อยก็คือสุสานบนเขาของบรรพบุรุษตระกูลของเจ้าเพราะถูกรดน้ำอุจจาระจึงได้สุนัขเช่นเจ้าออกมา สุสานบรรพบุรุษของตระกูลซือถูคงเหนื่อยมากจริงๆ ในฐานะพระชายาของซือถูเย้น นางจึงรู้สึกเหมือนมีภูเขาขนาดใหญ่กดทับเอาไว้ ถึงอย่างไรมันก็คือคำหยาบใหม่ที่หลีโม่ได้รู้จัก

ทว่าเมื่อคิดถึงพฤติกรรมไร้ยางอายขององค์รัชทายาท คิดว่าหากมาช้าเพียงก้าวเดียว อี้เอ๋อร์จะมีสภาพอย่างไร นางก็รู้สึกเดือดดาลขึ้นมา พูดในใจว่า “พยายามด่าออกมาเถอะ ฝาโลงศพของสุสานบรรพบุรุษตระกูลซือถูข้าจะช่วยเจ้ากดเอาไว้เอง”

องค์รัชทายาทถูกทำร้ายอย่างไม่มีความสามารถที่จะต่อสู้กลับ หลิวเยว่ลงมืออย่างโหดเหี้ยม ลงมือระหว่างใบหน้ากับน้องชายของเขาเท่านั้น ไม่ทำร้ายจนตาย แต่ก็เหมือนกับตายทั้งเป็นแล้ว

หลังจากอี๋เฟยออกไปแล้วก็รีบตะโกนเรียกคนในวัดเข้ามา ทว่าปกติเหล่าหลวงจีนจะไม่ฝึกวรยุทธ์แต่จะสวดมนต์เท่านั้น ต่อยตีไม่ได้ ด่าไม่ได้ ได้แต่มองตาปริบๆ อยู่ด้านนอก

หลีโม่เห็นแววตาที่โกรธแค้นของอี๋เฟย รู้ว่าไม่สามารถหลบซ่อนต่อไปได้แล้ว ไม่อย่างนั้นอี้เอ๋อร์สองแม่ลูกต้องลำบากมากแน่นอน

นางไม่สนว่าอี๋เฟยจะจงเกลียดจงชังนางมากเพียงใด

นางกระโดดลงมาจากหลังคา หยุดลงตรงหน้าของอี๋เฟย

อี๋เฟยมองไปที่ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดว่า “เป็นเจ้าเองหรือ?”

“ข้าเอง!” หลีโม่แสยะยิ้ม “อี๋เฟยชอบมาไหว้พระที่นี่ขนาดนี้เชียวหรือเพคะ?”

“เสี้ยหลีโม่ ข้าไปล่วงเกินเจ้าตรงไหนหรือ?” อี๋เฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม