พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 515

บทที่ 515 กุ้ยไท่เฟยพ่ายแพ้

ทุกอย่างเป็นไปตามที่หลีโม่คิดไว้ ทางด้านซุนฟางเอ้อร์ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงเลย หลังจากที่ได้ยินสีเหล็กกระทบกันแล้ว ก็รู้ว่ามีนักฆ่ามา หยิบขลุ่ยเล็กๆออกมาจากในแขนเสื้อ แล้วก็เป่า

เพียงชั่วพริบตาเดียว ตามประตู หน้าต่าง หลังคาของนาง ก็มีงูพิษห้าสีเลื้อยอยู่เต็มไปหมด เฝ้าคุ้มกันอยู่อย่างแน่นหนา

ตำหนักซีเวยก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะอ๋องเย่มีหน้าที่รับผิดชอบปกป้องคุ้มครองตำหนักซีเวย นอกจากทหารรักษาพระองค์แล้ว ยังจัดคนของตึกเสหานมาเฝ้าอยู่ด้วย

ตำหนักซีเวยไม่ได้อยู่ในแผนการของกุ้ยไท่เฟย ดังนั้น “คนร้าย” พวกนี้ที่จริงเป็นโจรที่ฆ่าคนดั่งมดที่คนของตึกเสหานกับสู้เยว่โหลวจับตัวมาได้

แต่ต่อให้มีการคุ้มกันอย่างหนาแน่น ฮ่องเต้ก็ยังคงตื่นตระหนกหวาดกลัว

ถึงแม้เขาจะรู้ว่าสองวันนี้ยังไงกุ้ยไท่เฟยก็ต้องลงมือ แต่คิดไม่ถึงว่าคนร้ายจะบุกมาถึงตำหนักซีเวยด้วย

และเป็นช่วงเวลาพิเศษแบบนี้ อ๋องเย่กับอ๋องเหลียงต่างก็ไม่อยู่ในวัง กลับจวนตัวเองกันหมดแล้ว

แน่นอน กลับไปถึงจวนแล้วก็ไม่มีอะไรทำ รอคอยคนร้ายบุกเข้ามาเท่านั้น

เช่นนี้ ค่ำคืนนี้ เหมือนดั่งกำลังเล่นละครชุดใหญ่ ในจวนเฉินไท่จูน จวนอ๋องหลี่ชิน จวนอ๋องหก จวนอ๋องเย่ตง ล้วนต่างก็มีคนร้ายมาเยือน

การเข่นฆ่าในครั้งนี้ แม้แต่ประชาชนรอบข้างยังรู้เรื่องแล้ว ภายใต้มีดดาบเป็นประกาย การเข่นฆ่าก็เริ่มขึ้น

ในจวนอ๋องหลี่ชิน เอิกเกริกที่สุด

ตอนที่คนร้ายมาถึง ก็เกิดเอิกเกริก วุ่นวายไปทั้งจวน

เพราะหมาโกลเด้นของอ๋องหลี่ชินร้องเสียงดัง หมาทั้งหมดที่อยู่หลังจวนต่างก็เดือดพล่านขึ้นมา ประตูกงถูกเปิดออก หมาสีดำหลายตัววิ่งออกมา โดยเฉพาะได้กลิ่นคาวเลือด ก็ยิ่งบ้าคลั่ง

จวนอ๋องหลี่ชินสามารถพูดได้ว่าไม่ต้องสูญหายทหารเลยสักคน ก็สามารถเก็บร่างของ “คนร้าย” ได้ทั้งหมด พวกจนที่ฆ่าคนเหมือนดั่งมดพวกนี้ ได้สังเวยเลือดสดๆเป็นการชดใช้

กุ้ยไท่เฟยนั่งอยู่ในพระราชวังซีอาน นั่งอยู่อย่างนิ่งๆ องค์ชายเจ็ดนอนอยู่ด้านข้างนาง นางยื่นมือไปลูบใบหน้าขององค์ชายเจ็ด ท่าทีสงบอย่างบอกไม่ถูก

สิ่งที่นางวางแผนมาทั้งชีวิต ต้องรอดูแค่คืนนี้

ดังนั้นนางจึงสงบลง ใครชนะได้เป็นกษัตริย์ ใครแพ้ได้เป็นโจร นางรู้กฎของเกมดี

อาฝูถูกส่งออกไป แอบสั่งการนักฆ่าที่พระราชวังฮุยชิงอย่างลับๆ แต่เมื่อเขาเห็นตำหนักซีเวยก็มีนักฆ่า เขาก็รู้ว่าสถานการณ์ผิดปกติ จึงรีบกลับมารายงานกุ้ยไท่เฟย

“เจ้าบอกว่าตำหนักซีเวยก็มีนักฆ่า?” กุ้ยไท่เฟยลุกขึ้น ดวงตาเบิกโต

“ใช่ ที่ตำหนักซีเวยก็มีคนร้ายปรากฏ แต่งตัวเหมือนกับคนของเราเลย”

ในใจกุ้ยไท่เฟยร้องเตือนว่าแย่แล้ว ครั้งนี้นางใช้หน่วยกล้าตายไปตั้งมากมาย เหลือไว้เพียงคนที่มีฝีมือที่สุดสิบกว่าคน เอาไว้ลอบฆ่าฮ่องเต้หลังจากเสร็จสิ้นทุกอย่างแล้ว เพราะตำหนักซีเวยมีกำแพงที่แน่นหนา และมีทางลับ หน่วยกล้าตายไม่มีทางเข้าไปได้ ถึงจะเข้าไปได้ก็หาทางลับไม่เจอ

นางตั้งใจต้องการที่จะฆ่าพวกหลีโม่ให้หมด แล้วบีบบังคับให้ฮ่องเต้ออกมา เพราะการฆ่าเสี้ยหลีโม่กับอ๋องเย่ไม่ถือว่าเป็นการก่อกบฏ เขาคิดว่าเขายังสามารถสู้นางได้

แต่ตอนนี้มีนักฆ่าไปฆ่าฮ่องเต้ เท่ากับเป็นการท้าทายอำนาจของฮ่องเต้โดยตรง เป็นการก่อกบฏ ฮ่องเต้จะต้องหาทางตอบโต้ทุกวิถีทาง

แอบลอบฆ่าอ๋องเย่กับเสี้ยหลีโม่ กับลอบฆ่าฮ่องเต้นั้น ความหมายไม่เหมือนกัน

แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือ นางไม่ได้เป็นคนสั่งให้ไปฆ่าฮ่องเต้ ไม่ได้สั่งให้ไปบุกทำร้ายตำหนักซีเวย

นางล้มนั่งลงบนเก้าอี้ สีหน้าค่อยๆขาวซีด แววตาเป็นประกายค่อยจางหายไปดวงตา นางเริ่มสั่น เริ่มหวาดกลัว

ที่จริง นางนึกว่าตัวเองจะหวาดกลัวไม่เป็น นางสามารถยอมรับการพ่ายแพ้ได้อย่างสง่าผ่าเผย

แต่เมื่อเกิดขึ้นจริงๆแล้ว นางไม่สามารถยอมรับได้

ไม่ นางจะต้องต่อสู้อีกสักครั้ง

“เจ้ารีบส่งสัญญาณออกไป หน่วยกล้าตายที่เหลือทั้งหมด ไปโจมตีตำหนักซีเวย ฆ่าฮ่องเต้” กุ้ยไท่เฟยพูดขึ้นเสียงดัง

“รับทราบ” อาฝูรีบหันตัวแล้วออกไป

นางนั่งลง จับใบหน้าขององค์ชายเจ็ด องค์ชายเจ็ดเจ็บจนตื่นขึ้นมา “กุ้ยไท่เฟย?”

ริมฝีปากกุ้ยไท่เฟยสั่นเทา กลับฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “เสี่ยวชี วันเวลาที่ดีของเราใกล้มาถึงแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม