บทที่ 519 หมุยเฟยก่อเรื่อง
เฉินไท่จูนพูดว่า “พระชายาไม่สบาย อยู่ในเกี้ยว? พวกนางนั่งรถม้าขึ้นมา”
“รถม้าขึ้นดอยมายาก ฉะนั้นปกติคนที่มาจุดธูปไหว้พระที่เดินไม่สะดวก ก็จะใช้ให้คนแบกเกี้ยวแบกขึ้นมา”
“ตอนนี้หาที่ไหนไปแล้วบ้าง?” ตอนนี้เฉินไท่จูนยังไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ได้ แต่วัดเจิ้นโก๋มีชื่อเสียงที่ดี ตามหลักแล้วจะไม่สามารถร่วมมือกับพรรคใดๆมาลักพาตัวหลีโม่ไป
“ตลอดทางขึ้นลงวัดเจิ้นโก๋ได้หาจนทั่วหมดแล้ว ตอนนี้กำลังสั่งให้คนตามลงไปตามเขา แต่วัดเจิ้นโก๋เป็นยอดเขาภูเขาหลิน ภูเขาหลินทั้งแถบ ล้วนมีต้นไม้หนาแน่น ติดกันยาวเป็นร้อยโล หากเกิดเรื่องในภูเขาหลิน แค่หาก็ยากแล้ว” เจ้าอาวาสถอนหายใจ
เฉินไท่จูนรู้ว่าภูเขาหลินซับซ้อน ถึงได้สร้างวัดเจิ้นโก๋ไว้ที่นี่ ก็เพื่อซึมซับเอาความบริสุทธิ์ของสถานที่นี้ ภูเขาหลินเป็นภูเขาทอดยาวหลายร้อยไมล์ ส่วนที่สูงที่สุดของเทือกเขาเป็นป่าดงดิบ ตระหง่านขึ้นไปบนท้องฟ้า
“หมุยเฟยเหนียงเหนียงกับพระชายามาที่นี่ มาเพื่อจุดธูปไหว้พระหรือทำอะไร?” เฉินไท่จูนถาม
“ความจริงแล้ว อาตมาเห็นเพียงหมุยเฟยเหนียงเหนียง หมุยเฟยเหนียงเหนียงมาจุดธูป คัดคัมภีร์ แล้วก็บริจาคปัจจัยให้กับวัด อยู่ที่นี่ประมาณสองชั่วโมง แล้วก็กลับ”
“พระอาจารย์หมายความว่า ไม่ได้เห็นพระชายาเลย?”
“ไม่เห็น ตอนที่พระชายามาก็พักผ่อนอยู่ในเกี้ยวตลอด หมุยเฟยเหนียงเหนียงบอกว่าพระชายาไม่สบาย อาตมาเลยให้คนเชิญพระชายาไปพักผ่อนในห้องพัก เกี้ยวถูกหามเข้าไปถึงหน้าประตู อาตมาไม่ได้ตามไปด้วย ส่วนเวลากลับ หมุยเฟยเหนียงเหนียงสั่งให้คนหามเกี้ยวไปถึงหน้าประตู รับพระชายาออกมา”
“งั้นพระอาจารย์ได้ยินเสียงพระชายาไหม?”
เฉินไท่จูนสงสัย หลีโม่ไม่ได้ขึ้นมาบนเขา บางทีในระหว่างทางขึ้นเขา ก็เกิดเรื่องแล้ว
นางกลับทำเป็นพาหลีโม่ขึ้นมาถ่วงเวลาเฉยๆ เบี่ยงเบนความสนใจ ทำเป็นเหมือนกับว่าหลีโม่เคยมาที่นี่
ตอนนี้ถามอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ หากหลีโม่ถูกทำร้ายระหว่างทางขึ้นดอยมา เช่นนั้น ภูเขาใหญ่ขนาดนี้หายากจริงๆ
“ช่างเถอะ ไปตามหาก่อน” เหล่าไท่จูนก็ไม่มีหนทางแล้ว หวังเพียงว่าทางด้านซือถูจิ้งจะถามได้ความจากหมุยเฟยมาบ้าง ดีที่สุดคือหลีโม่อยู่บนรถม้าของหมุยเฟย
ซือถูจิ้งตามมาถึงอย่างรวดเร็ว เข้าประตูมา นางก็ถามเจ้าอาวาสว่า “หมุยเฟยเหนียงเหนียงบอกว่าพระชายาอยากที่จะพักอยู่ที่วัดเจิ้นโก๋สองวัน มีเรื่องแบบนี้ไหม?”
เจ้าอาวาสส่ายหัว “องค์หญิง พระชายาไม่ได้อยู่ที่ในวัด อาตมาไม่เคยเห็นพระชายาด้วยซ้ำ”
เฉินเหล่าไท่จูนเล่าตามที่เจ้าอาวาสเล่าเมื่อกี้ให้ซือถูจิ้งฟังอีกรอบ และพูดอีกว่า “หมุยเฟยบอกว่าหลีโม่อยากที่จะอยู่ที่นี่ต่อสองวันเอง?”
“ใช่ นางบอกว่าองค์ชายสามไม่สบาย นางต้องกลับวัง แต่หลีโม่ไม่ยอมกลับ” ซือถูจิ้งโกรธมาก “รู้แบบนี้แต่แรก ข้าจะจับนางมาด้วย บีบคั้นนางบอกที่อยู่ของหลีโม่”
“หากนางบอก ก็จะไม่ทำร้ายหลีโม่” เฉินไท่จูนครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง “สั่งคนออกมาหาโดยรอบก่อน ใช้นกส่งสารไปให้อ๋องเย่ ให้เขาไปบีบคั้นถามหมุยเฟย”
“เจ้าเอานกส่งสารไปด้วย?”
“เอามา ออกมาจะไม่พกนกส่งสารมาด้วยได้อย่างไร?” เฉินไท่จูนหันตัวเดินไป
ตอนที่อ๋องเย่ได้รับสารจากนก ก็เป็นวันที่สองแล้ว
เขาตรงไปยังตำหนักเล่อชิง หัวหน้านางกำนัลของนางเสี่ยวชิงห้ามเขาไว้ “ท่านอ๋อง หมุยเฟยเหนียงเหนียงป่วย ไม่สะดวกเจอใคร”
“ถอยไป” อ๋องเย่พูดเสียงเข้ม
“ขออภัย เหนียงเหนียงมีรับสั่ง ไม่สะดวกเจอใคร” เสี่ยวชิงไม่เกรงกลัวเลย ยืนขวางตรงหน้าอ๋องเย่
อ๋องเย่ขมวดคิ้ว บุกตรงเข้าไป คนในตำหนักหมุยเฟยห้ามไว้ไม่ไหว วิ่งตามเข้ามา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...