บทที่ 596 ได้พบแม่ทัพใหญ่หลง
หลีโม่คิดถึงท่าทีของฉินโจว “นางเป็นคนของพวกยึดมั่นทำสงคราม”
“ใช่ นางเป็นคนของพวกยึดมั่นทำสงคราม แต่หวังว่าสุดท้ายแล้วนางจะเข้าใจ หากไม่ได้นางมาช่วย โอกาสที่เราจะชนะมีน้อยมาก” กาวเฟิ่งเทียนพูด
“เจ้ารู้จักฉินโจวดีไหม?” หลีโม่ถาม
กาวเฟิ่งเทียนนคิดอยู่แปบหนึ่ง “ไม่นับว่ารู้จักดี แต่ก็พอรู้อยู่บ้าง”
“เจ้าคิดว่า ในใจนางมีความเมตตาสักนิดไหม?” ในใจหลีโม่มีความหวัง เพราะตอนที่ฉินโจวอยู่ที่หมู่บ้านมู่จ้าย นางมองดูผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมานพวกนั้น แววตานางเจ็บปวดมาก หากในใจลึกๆไม่รู้สึกอะไร จะมีแววตาแบบนี้ได้อย่างไร?
“ไม่รู้ แต่ว่าเจ้าไม่ต้องไปหานาง คนคนนี้...ก็มีความทะเยอทะยาน ความอ่อนน้อมถ่อมตนของนาง ใช่ว่าจะไม่มีทางเลือก ยังไงก็ยากที่จะคาดเดา เจ้าระวังตัวหน่อยก็ดี” กาวเฟิ่งเทียนพูด
“ข้าไปไม่หานางหรอก นางเกลียดข้าจะตาย” หลีโม่คิดถึงแววตาที่นางมองตน เกลียดจริงๆ เหมือนนางจะคิดว่านางทำร้ายประชาชนเป่ยม่ออะไรแบบนั้น
แต่ว่า ไม่ไปหานาง?
หากไปหานางแล้วมีโอกาสพลิกผัน นางสามารถลองไปดู
“ยังไม่ต้องไปสนใจมากมายขนาดนั้น รีบพาคนแยกย้ายหนีไป ฉาวจี๋คนนั้นจัดการคนในประตูเมืองแล้ว ก็จะมาที่หมู่บ้านมู่จ้าย” กาวเฟิ่งเทียนพูด
“ได้ ข้าไปหาซูม่อ โชคดีที่ซูม่อดีขึ้นมากแล้ว ไม่อย่างนั้นคนของเราคงไม่พอแน่” หลีโม่รีบวิ่งกลับไป
จวนแม่ทัพใหญ่หลง
แม่ทัพใหญ่มีหนวดเคราจ้องมองดูชายรูปงามที่อยู่ตรงหน้าเขา ความโกรธเต็มท้องประกายอยู่ในแววตา “เจ้าไม่แต่งหมายความว่ายังไง? เจ้าพูดกับข้ามาให้เข้าใจ”
“ข้าแต่งงานแล้ว จะให้คุณหนูหลงไปเป็นนางสนมให้ข้าคงไม่ได้” ซือถูเย้นนั่งอยู่บนเก้าอี้ ค่อยๆเช็ดดาบ
เมื่อกี้ได้รับชัยชนะในการประลอง เขาดูค่อนข้างภาคภูมิใจ เฮ้ย บอกแล้วว่าหากเขาลงมือ คนอื่นก็ไม่มีโอกาสแล้ว ซูชองกับเซียวโธ่ยังไม่เชื่อ
“เจ้าแต่งงานแล้ว?” คราวนี้แม่ทัพใหญ่โกรธจัดแล้วจริงๆ “เจ้าแต่งงานแล้วยังจะมาประลอง แสดงว่าเจ้ามาเพื่อก่อกวน? ถึงข้าจะเกษียณแล้ว แต่ก็จะให้ใครมาหยามถึงหน้าประตูไม่ได้ เอามา เอาปืนยาวของข้า”
บ่าวใช้ในจวนรีบพูดปลอบว่า “แม่ทัพใหญ่ ท่านอายุมากแล้ว ไม่ควรถือดาบถือปืน”
“ใช่ สั่งสอนอันธพาลคนหนึ่ง ท่านต้องลงมือเองด้วยหรือ? ท่านสั่งมาคำเดียว พวกบ่าวก็จะสับเขาเป็นชิ้นๆ”
“งั้นพวกเจ้าก็ลงมือสิ” แม่ทัพใหญ่หนวดยาวพูดอย่างโกรธจัด
แต่ไม่มีคนลงมือ แต่ละคนกลับถอยหลัง เมื่อกี้ความสามารถของ“อันธพาล” คนนี้ทุกคนต่างก็เห็นแล้ว สิบกระบวนท่าก็ไม่ถึง ก็ทำให้คุณชายซูรองที่มีฝีมือที่สุดพ่ายแพ้แล้ว
“ก็ไม่จำเป็นต้องลงอย่างเดียว” พ่อบ้านยิ้มพูด “ความสามัคคีปองดองเป็นสิ่งที่ดี ความสามัคคีปองดองเป็นสิ่งที่ดี”
“ล้วนไม่ได้เรื่องกันสักคน” แม่ทัพใหญ่พูดอย่างโกรธจัด
ซือถูเย้นหัวเราะ หางตาลึกๆตื้นๆเป็นประกาย “เอาล่ะ แม่ทัพใหญ่หลง ที่ข้าทำแบบนี้ ก็เพราะมีความจำเป็น ก่อนหน้านี้ข้ามาขอพบตั้งหลายครั้ง ท่านก็หลบไม่ยอมพบ บุกจวนแม่ทัพใหญ่ ขออภัยจริงๆ จะถือโอกาสอาศัยงานประลองยุทธเพื่อเลือกบุตรเขยนี้ มาพบท่านสักครั้ง”
แม่ทัพใหญ่อึ้ง หรี่ตาลงมองดูเขา แล้วก็ร้องขึ้นมาว่า “โอ้ โอ้ เจ้าเป็นซือถูเย้นอ๋องซื่อเจิ้งของต้าโจว อ๋องฉีแนะนำให้เจ้ามา อ๋องฉีชั่วนั่น ดาววันเกิดยังแขวนอยู่ใช่ไหม คงเห็นว่าอายุยืนเกินไปแล้ว ที่กล้ามาลบหลู่ข้ากับคนต้าโจว”
“ไม่ได้ลบหลู่” ซือถูเย้นมองดูคนในห้องโถง “ในเมื่อไหนๆข้าก็มาแล้ว เรามานั่งจับเข่าคุยกันดีๆไหม? ข้าขอรับประกันว่า หลังจากคุยเสร็จแล้ว งานแต่งของคุณหนูซู ข้าจะรับผิดชอบเอง”
“เหลวใหล” แม่ทัพใหญ่ด่าหยาบคาย “เจ้าใช้วิธีสกปรกแบบนี้เพื่อมาพบข้า ข้าจะให้เจ้าสมหวังง่ายๆหรือ? เป็นคนไม่ทำตัวเปิดเผยและตรงไปตรงมา ถือเป็นการลบหลู่ไม่ให้เกียรติความเป็นนักรบของพวกข้า”
“การทำแบบนี้สกปรกตรงไหน? ไม่เปิดเผยบริสุทธิ์ใจหรือ? ถ้าเดินเข้ามาทางประตูหลักนะ” ซือถูเย้นโบกมือ “ได้ ในเมื่อแม่ทัพใหญ่ไม่รังเกียจที่ข้ามีภรรยาแล้ว ข้าแต่งงานกับคุณหนูซูก็ได้”
แม่ทัพใหญ่หลงได้ยินเช่นนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที “จริงหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...