บทที่ 68 ฟื้นแผนปองร้าย
หลีโม่กลับถึงจวน ก็เป็นเวลาใกล้จะห้าโมงเย็นแล้ว
หลังจากสังหารอาฟาแล้ว นางไปทูลลาฮองไทเฮาที่ตำหนัก เป็นธรรมดา ที่จะถูกส่งตัวภายใต้การคุ้มครองของหยางมามาและองครักษ์
ฮองไทเฮาตรัสกับนางพักหนึ่ง ก่อนจะให้นางออกมา
อ๋องเหลียงกลับจวน นางจึงต้องตามไปหาอ๋องเหลียงเสียก่อน จัดแจงสถานที่แก่อ๋องเหลียงอย่างดี และกำชับหมอหลวงที่อยู่หน่วยดูแลร่วมกันถึงเรื่องที่ต้องเฝ้าระวัง จึงสามารถกลับจวนเฉิงเสี้ยงได้ ดังนั้น นางจึงให้หยางมามาส่งเย็นเอ๋อร์กลับไปก่อน
หลังจากเข้าสู่จวนเฉิงเสี้ยง สีท้องฟ้าก็ค่อยๆ มืดสนิทลง
ว่าตามกฎเกณฑ์ นางกลับออกมาข้างนอกก็เพื่อมาทำความเคารพแด่นายหญิงแก่ แต่ว่า นางกลับตรงดิ่งไปลานเสี้ยจื้อเสียดื้อๆ
หลี่ซื่อเห็นนางกลับมา จึงกอดนางเอาไว้หลวมๆ “ลำบากแล้ว”
หลีโม่กอดหลี่ซื่อเอาไว้ ความขมขื่นแผ่กระจายอยู่ในดวงใจ ความเจ็บปวดก็ทำให้หัวใจสั่นระรัว ก่อนกล่าวด้วยความเหนื่อยล้าเกินทน “มารดา ฮ่าวหรานตายแล้ว”
หลี่ซื่อสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง ผลักหลีโม่ออกและมองที่นาง “เจ้าว่าอะไรนะ”
หลีโม่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันนี้ให้หลี่ซื่อรับรู้ หลังจากฟังจบหลี่ซื่อก็ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ จากนั้นน้ำตาก็ไหลพรากตามมา
เด็กคนนั้น เป็นเด็กดียิ่งนัก เขาเป็นผู้ที่บริสุทธิ์เพียงคนเดียวในจวนเฉิงเสี้ยงอันโสมมแห่งนี้ แต่กลับสูญสิ้นไปเยี่ยงนี้?
หลี่ซื่อคิดอยู่ครู่หนึ่ง เงยหน้าขึ้นมองหลีโม่ “อยู่ในวังยังกล้าลงมือ? พวกนางบังอาจเพียงนี้? อาฟาเป็นคนของหมุยเฟย เขาไม่ได้มองให้ดีก็ยิงลูกศร ก็หมายความว่ามีคนสั่งให้สังหาร แต่ว่า หมุยเฟยเป็นคนรอบคอบเสมอมา เป็นไปไม่ได้ว่าจะทำเช่นนี้”
“เสี้ยเฉิงเสี้ยงอยู่ในตำหนักของหมุยเฟยด้วย” หลีโม่กล่าวอย่างเย็นชา
ดวงตาของหลี่ซื่อผุดแววเย็นชา “เขาเข้าวังแต่เช้ามืด ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่น แต่เพื่อจะฆ่าเจ้า”
“กลับฆ่าฮ่าวหรานโดยไม่เจตนาเข้าให้แล้ว” ดวงใจของหลีโม่รู้สึกผิดเกินคำบรรยาย
หลี่ซื่อกุมมือของนางเอาไว้ “หลีโม่ อย่าโทษตัวเอง มิใช่ความผิดเจ้า”
หลีโม่เห็นฮ่าวหรานตายไปกับตา อารมณ์เศร้าและขมขื่นนี้ ไม่สามารถกำจัดไปได้เลยสักนิด
“ใช่แล้ว พิษของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ข้ารู้ว่าพวกเขาวางยาพิษเจ้า” จู่ๆ หลี่ซื่อก็นึกถึงเรื่องดังกล่าวขึ้น และเอ่ยถามอย่างรีบร้อน
หลีโม่กล่าว “หมอหลวงสั่งยาต้มแก้พิษให้ข้าแล้ว ข้าดื่มมาสองวัน ดีขึ้นมากแล้ว แค่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดยาอีกสักสองสามวันก็เป็นอันเรียบร้อยแล้ว”
“เช่นนั้นก็ดี จากนี้ไปอยู่ในจวนก็ระวังสักหน่อย พวกเราสองแม่ลูกล้วนต้องระมัดระวังหน่อย” หลี่ซื่อกล่าว
หลีโม่นั่งลง พูดในใจว่า ต่อให้ระวัง ก็หลีกไม่พ้นการคำนวณแผนแบบระดมหัวคิดได้ เพียงแต่ ในช่วงเวลาที่ทำการรักษาอ๋องเหลียงนี้ นางยังคงปลอดภัยได้ชั่วคราว อย่างน้อยที่สุด ต่อให้มีแผนการ ก็มิกล้าจะกระทำการอย่างอล่างฉ่างได้ปานนั้น
กว่าเสี้ยเฉิงเสี้ยงจะกลับไปถึงจวนอ๋องก็ช่วงเย็น หลังจากเขาออกจากวัง ก็ไปดื่มเหล้าที่โรงเตี๊ยม ดื่มจนเมาหัวราน้ำจึงค่อยกลับมา
เพิ่งถึงจวนอ๋องทางฝั่งของนายหญิงแก่ก็มาบออกล่าว ให้เขาไปหา
เขาไม่ได้ล้างหน้า ก็ตรงเข้ามาเลย หลิงหลงฮูหยินเหลือบมองว่าไม่มีเสี้ยฮ่าวหราน ก็คิดเอาเองว่าเขาเล่นสนุกอยู่ที่ลาน จึงไม่ได้สนใจเขา รีบร้อนตามเสี้ยเฉิงเสี้ยงไป
นายหญิงแก่นั่งอยู่หน้าระเบียง แสงไฟหน้าระเบียงสะท้อนใบหน้าของนางให้ดูเคร่งขรึม
นางหันลูกประคำจีนในมือ พลางเงยหน้าขึ้น หรี่ดวงตาเสมองเสี้ยเฉิงเสี้ยง พลางกล่าวอย่างไม่ปรีติ “เข้าวังตั้งแต่เช้ามืด เพิ่งกลับมาเอาป่านนี้ กลับมาก็เอาเถิด เวลานี้ยังดื่มจนเมามายขนาดนั้น ไม่รู้ความเลยสักนิด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...