พลิกชะตา ล่าหัวใจแม่ทัพ นิยาย บท 3

ตวนมู่สวี่ชิงลืมตาขึ้น ก่อนจะเผลอคิดไปว่าตนเองตาบอดเสียแล้ว รอบตัวมีแต่ความมืดมิดจนไม่อาจมองเห็นแม้แต่ปลายนิ้วของตนเอง

จนกระทั่งสายตาเหลือบไปเห็นหน้าต่างบานเล็ก แสงจันทร์ลอดผ่านเข้ามา ที่นี่คือที่ไหนกัน? หรือว่าจะเป็นคุกหลวง?

แต่เหตุใดจึงเงียบเชียบเช่นนี้เล่า? ไม่มีแม้แต่กลิ่นเหม็นอับ? แล้วท่านพ่อ ท่านแม่และพวกพี่ๆ ล่ะ?

“มีใครอยู่ไหม? มีใครได้ยินข้าหรือเปล่า? ท่านพ่อ? ท่านแม่? พี่ใหญ่? พี่รอง? อี๋เหนียง? น้องสี่?”

มีเพียงเสียงปีกนกกระพือบินจากไปอย่างรวดเร็วที่ตอบกลับมา

หรือว่าเรื่องที่ตวนมู่สวี่ชิงปลอมตัวเป็นบุรุษจะถูกเปิดโปงแล้ว? จึงถูกขังไว้เดียวดายเช่นนี้?

แค่คิดถึงความเป็นไปได้นี้ สวี่ชิงก็รู้สึกเย็นวาบไปทั้งหนังศีรษะ ค่อยๆ เอื้อมมือคลำหาประตู ขอดูก่อนว่าเป็นอย่างไรแล้วค่อยว่ากัน!

ประตูกลับไม่ได้ลงกลอน นางค่อยๆ ผลักเปิดออก และเมื่อแสงจันทร์ส่องกระทบ ก็ทำให้มองเห็นสถานที่โดยรอบได้ชัดเจนขึ้น เป็นที่ที่ว่างเปล่าไร้ผู้คน แม้แต่ตะเกียงสักดวงก็ไม่มี

สวี่ชิงขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิม นี่มันที่ไหนกันแน่?

นางก้าวออกจากเรือน เดินตามเส้นทางเล็กๆ ไปข้างหน้าอีกสักพัก แต่สิ่งที่พบกลับมีเพียงความว่างเปล่า ไม่พบแม้แต่เงาของผู้คนสักคนเดียว

หรือว่านางถูกยอดฝีมือเร้นกายช่วยไว้? หรือว่าระบบส่งนางไปยังที่แห่งใหม่อีกแล้วกันแน่?

ความทรงจำของสวี่ชิงขาดหายไปตั้งแต่ที่หอเก็บสมุนไพรของจวนตระกูลตวนมู่ ดังนั้นนางจึงไม่รู้ว่าบิดาของนางได้ส่งตัวนางไปเป็นคนรับใช้ของจิ้งอ๋อง เพื่อรักษานางไว้และเพื่อปกป้องฐานะบุตรสาวของเขาไม่ให้ถูกเปิดเผย

หลังจากหยิ่นฉู่เคอพานางกลับจวนอ๋องแล้ว เขายังมีเรื่องมากมายให้ต้องจัดการ จึงสั่งให้คนพานางไปพักในเรือนที่อยู่ห่างไกลออกไปโดยไม่ได้ใส่ใจมากนัก

จิ้งอ๋องใช้ชีวิตอยู่ในจวนอ๋องน้อยครั้ง อีกทั้งยังไม่ชอบให้มีข้ารับใช้มากมาย ดังนั้นภายในจวนจึงมีคนอยู่น้อยอยู่แล้ว ยิ่งในยามดึกเช่นนี้ ก็แทบไม่มีใครเดินไปมาเลย

ในที่สุด สวี่ชิงก็เห็นบางอย่าง ไม่ไกลจากที่นางยืน มีร่างหนึ่งยืนอยู่ริมสระบัว อืม น่าจะเป็นคน ไม่ว่ายังไง ไปถามให้แน่ใจก่อน อย่างน้อยก็น่าจะทำให้นางเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ได้บ้าง

ทว่ายังไม่ทันเดินเข้าไปใกล้ ก็เห็นเงาดำสามสายพุ่งออกจากความมืด มุ่งโจมตีบุคคลที่ยืนอยู่ริมสระบัว

แต่คนผู้นั้นกลับแข็งแกร่งยิ่งนัก ต่อสู้กับศัตรูทั้งสามได้อย่างคล่องแคล่วไร้ที่ติ ไม่นานนัก เหล่านักฆ่าในชุดดำก็เริ่มต้านทานไม่ไหว

สวี่ชิงแอบซ่อนตัวอยู่หลังโขดหินจำลอง นางมองภาพตรงหน้าด้วยความตะลึงงัน นี่มันวิชาตัวเบาที่เล่าขานกันหรือ? นี่คือพลังภายในที่มีอยู่จริงหรือ? วันนี้นางได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ ในที่สุดก็ได้เห็นกับตาว่าของจริงเป็นเช่นไร

ทันใดนั้น นักฆ่าชุดดำคนหนึ่งถูกซัดกระเด็นมาทางที่สวี่ชิงซ่อนตัวอยู่ ใบดาบเย็นเยียบในมืออีกฝ่ายฟันลงมาตรงหน้านางอย่างไม่ลังเล สวี่ชิงตกตะลึงจนร่างแข็งค้าง

แต่โชคดีที่ได้สติในเสี้ยววินาทีสุดท้าย นางรีบกลิ้งตัวหลบไปด้านข้าง หวุดหวิดรอดพ้นจากคมดาบมาได้ นางเงยหน้าขึ้นมองด้วยความหวาดกลัว ทว่ากลับเห็นภาพที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่า นักฆ่าชุดดำยกดาบขึ้นสูงค้างไว้ในอากาศ ร่างเหมือนถูกตรึงแน่นอยู่กับที่ นางเพ่งมองให้ชัดขึ้น แล้วจึงพบว่าบริเวณลำคอของอีกฝ่ายมีคมดาบเปล่งประกายสีเงินทะลุผ่าน เลือดสีแดงเข้มไหลซึมออกจากปลายดาบ

นักฆ่าชุดดำเซไปสองสามก้าวก่อนร่างทรุดฮวบลงกับพื้นแน่นิ่ง สวี่ชิงรีบหันกลับไปมองการต่อสู้ บุรุษที่ช่วยนางไว้ดูเหมือนจะเสียสมาธิไปชั่วขณะขณะที่ช่วยนาง ทำให้แขนของเขาถูกฟันเข้าจนเกิดบาดแผลลึก

แต่ถึงอย่างนั้น กระบวนท่าของเขาก็ยังคงดุดันราวพายุโหม การเคลื่อนไหวทุกท่วงท่ารวดเร็วทรงพลัง ไม่กี่กระบวนท่าก็จัดการนักฆ่าคนที่สองได้สำเร็จ นักฆ่าที่เหลือเห็นท่าไม่ดี รีบหันหลังแล้วทะยานหนีไปทันที

คนผู้นั้นรุกไล่ตามหมายจะจัดการให้สิ้นซาก ทว่าขณะที่เพิ่งรวบรวมพลังเตรียมทะยานขึ้นกลางอากาศ กลับเสียหลักตกลงมา ร่างทรุดลงกับพื้นในท่าคุกเข่าข้างเดียว มือข้างหนึ่งกุมหน้าอกแน่น ก่อนพ่นเลือดสดๆ ออกมาเต็มปาก

ด้วยสัญชาตญาณของผู้ที่เคยเป็นหมอ และเพราะอีกฝ่ายเพิ่งช่วยนางไว้ ตวนมู่สวี่ชิงจึงรีบวิ่งออกไป คุกเข่าลงข้างเขาแล้วพยุงร่างที่กำลังทรุดตัวลง “ระวังหน่อย ท่านยังไหวอยู่หรือไม่...”

คนผู้นั้นเงยหน้าขึ้น ดวงตาคมกริบเต็มไปด้วยไอสังหาร ตวนมู่สวี่ชิงรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบรัด ไม่รู้ว่าเพราะถูกสายตาเยียบเย็นนั้นข่มขวัญ หรือเพราะตกตะลึงในความหล่อเหลาของอีกฝ่ายกันแน่

ตอนที่ 3 ถูกลอบโจมตี ปกป้องเขาไว้ด้านหลัง 1

ตอนที่ 3 ถูกลอบโจมตี ปกป้องเขาไว้ด้านหลัง 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตา ล่าหัวใจแม่ทัพ