ตวนมู่หงฮั่นกล่าว “พวกเราอยู่ที่นี่สบายดีทุกอย่าง เจ้าสาม เจ้าอย่าได้สร้างความลำบากให้คนของจวนจิ้งอ๋องบ่อยนักเลย”
“ไม่ได้สร้างความลำบากเสียหน่อย ท่านพ่อวางใจเถอะ” ตวนมู่สวี่ชิงกล่าวพลางยิ้ม แต่นางไม่ได้บอกเรื่องที่ตนเองมีป้ายประจำตัวของจวนจิ้งอ๋อง จะได้ไม่ต้องอธิบายยืดยาว
“ท่านพ่อ ท่านกับหมอหลวงฝูความสัมพันธ์เป็นอย่างไรหรือ?” นางถามต่อ
“หมอหลวงฝู? ฝีมือการแพทย์เขาไม่เลว เป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาทมาก” ตวนมู่หงฮั่นประเมินอย่างเรียบๆ
“พวกท่านเคยมีความขัดแย้งกันหรือไม่? หรือบาดหมางกันหรือไม่?”
ตวนมู่หงฮั่นครุ่นคิด เริ่มระลึกว่าคนทั้งสองเคยมีเรื่องโต้เถียงกันในสำนักหมอหลวงหรือไม่
สวี่เนี่ยนฉือกล่าว “พ่อเจ้าเป็นคนใจดี เข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ดีมาก เจ้าสามไฉนจู่ๆ ถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมา?”
ตวนมู่หงฮั่นก็เงยหน้ามองนาง แสดงท่าทีว่าถามเช่นกัน
“เถ้าแก่คนใหม่ของตวนมู่ถังตอนนี้ คือสกุลฝูขอรับ” ตวนมู่สวี่ชิงกล่าว
“สกุลฝู? หมอหลวงฝูเซิ่งเต๋อหรือ?” ตวนมู่ซ่านเฉิงถามละเอียด
สวี่ชิงพยักหน้าให้พี่ใหญ่ “อืม เขาสมคบคิดกับคนแซ่ซู ใช้เงินแปดพันตำลึงซื้อตวนมู่ถังไป สมุนไพรในร้านส่วนหนึ่งตกเป็นของสกุลฝู อีกส่วนหนึ่งเป็นของซูกงกง อีกทั้ง ตำแหน่งเดิมของท่านพ่อก็ถูกเขารับช่วงไปแล้วขอรับ”
ตวนมู่หรงเช่อทุบกำปั้นลงบนเสาไม้ “ไอ้ชั่ว วันนั้นขนยาจากหอเก็บสมุนไพรในจวนข้าไปจนเกลี้ยงแล้วฮุบเอาไว้ ยังจะเค้นถามข้ากับพี่ใหญ่อีก ว่าย้ายยาไปเก็บไว้ที่ไหน ช่างเป็นโจรป่าวร้องจับโจรเสียจริง”
“ดูท่าแล้ว คืนนั้นหมอหลวงฝูคงมาเพื่อล้วงความลับ ร่วมมือกับซูกงกง คนหนึ่งเล่นบทดี คนหนึ่งเล่นบทร้าย ไม่ประสงค์ดีจริงๆ ด้วย” ตวนมู่ซ่านเฉิงกล่าว
ที่แท้ รอยแผลแส้บนตัวพี่ใหญ่กับพี่รองวันนั้น ก็เป็นเพราะนางหรือ? ตวนมู่สวี่ชิงรู้สึกผิดอย่างมาก แต่นางไม่เสียใจ อนาคตคงทำได้เพียงชดเชยให้พี่ใหญ่กับพี่รองในด้านอื่นแล้ว
“เฮ้ยๆๆ เสียงเบาๆ หน่อย...” เสียงผู้คุมตะโกนดังมาจากอีกฝั่ง
ในคุกเงียบลง ผ่านไปครู่หนึ่ง ตวนมู่หงฮั่นกล่าวว่า “ช่างเถอะ ของนอกกาย ไม่มีก็คือไม่มี” อย่างน้อยตอนนี้คนทั้งครอบครัวยังอยู่ ก็ดีที่สุดแล้ว
ตวนมู่สวี่ชิงสูดหายใจลึก “ใช่ ไม่มีก็คือไม่มี ขอเพียงยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังมีความหวัง ทุกอย่างก็ยังเป็นไปได้”
ท่านอ๋องเคยเอ่ยถึงวันนั้นว่า รอให้ฮ่องเต้ฉลองวันเกิดเสร็จ ก็จะไต่สวนคดีของสกุลตวนมู่ ดังนั้นคงไม่ต้องอยู่ในคุกนี้นานเกินไปแล้ว
สุดท้ายเป็นตวนมู่หงฮั่นที่กล่าวว่า “เอาล่ะๆ น้องสามของพวกเจ้าก็มีน้ำใจ อุตส่าห์เอามาแล้ว ก็กินเถอะ พวกเราทั้งครอบครัวไม่ได้กินข้าวด้วยกันนานแล้ว”
ถึงแม้จิ้งอ๋องจะรับปากว่าจะช่วยทวงความยุติธรรมให้สกุลตวนมู่ แต่ตวนมู่หงฮั่นก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ ไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่คนทั้งครอบครัวได้นั่งกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน?
สวี่ชิงไม่รู้ความคิดในใจของบิดา ในใจนางเชื่อมั่นในตัวจิ้งอ๋องมาก ท่านอ๋องบอกว่าครอบครัวนางจะไม่เป็นอะไร ก็ย่อมต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน
เจ็ดคน ไก่ย่างสี่ตัว นางค่อยๆ แทะปีกไก่ไปปีกหนึ่ง ให้พี่ใหญ่กับพี่รองกินเยอะๆ เพียงครึ่งเดือน พวกเขาผอมลงไปอย่างเห็นได้ชัด
ทุกคนไม่คิดถึงความยากลำบากตรงหน้า วางความขุ่นเคืองในใจลง แม้จะอยู่คนละฝั่งลูกกรง มื้อนี้ทั้งครอบครัวก็กินกันอย่างมีความสุข พูดคุยเรื่องสนุกในอดีต ในคุกที่มืดมิดอับชื้น ก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นครั้งคราว
แต่ช่วงเวลาแห่งการพบปะมักสั้นเสมอ ไม่นานนัก มองผ่านช่องหน้าต่างเล็กเท่าฝ่ามือของห้องขัง ก็เห็นว่าท้องฟ้าข้างนอกเริ่มมืดลงแล้ว
แม้จะอาลัยอาวรณ์เพียงใด สวี่เนี่ยนฉือก็ยังต้องเอ่ยปาก “ชิงเอ๋อร์ ตอนนี้ค่ำแล้ว เจ้ารีบกลับไปเถอะ...”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตา ล่าหัวใจแม่ทัพ
เรื่องอื่นซื้อตอนอ่สนได้ปกติ ทำไม error อยู่เรื่องเดียว ช่วยตรวจสอบด้วยค่ะ สงสารผู้แต่งนะ ลงคอนแต่ขายไม่ได้...
เบื่อระบบ มีเหรียญแต่กดซื้อตอนไม่ได้ ค้างคามากๆ error มานานแล้วค่ะ...
กดจ่ายเหรียญ แต่ขึ้น error ค่ะ...
ทำไมกดจ่ายเหรัยญ แล้ว error...
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสได้มั้ยคะ...