เฉียวจงกั๋วกำลังจะหาเหตุผลที่เหมาะสมในการปฏิเสธ แต่ก็กลัวว่าจะทำร้ายจิตใจฮูหยินเฉียว เพราะยังไงนั่นก็เป็นถึงหลานสาวแท้ ๆ ของนาง
แต่ทว่าฮูหยินเฉียวก็ได้พูดขึ้นมาก่อนว่า “เฮ้อ ท่านพี่ ข้าคิด ๆ ดูแล้ว ข้าว่าช่างมันเถอะ ความสัมพันธ์เช่นนี้ดูใกล้กันเกินไป นอกจากนี้เจ้าใหญ่ก็มีความคิดเป็นของตัวเองสูงมาก เรื่องนี้ให้เขาเป็นคนเลือกเองจะดีกว่า”
เฉียวเจียวเจียวได้ยินเช่นนี้ก็พยักหน้าทันที
[ใช่แล้ว ๆ ๆ ท่านแม่เป็นคนที่มีเหตุผลมากจริงๆ อีกทั้งยังเคารพความคิดของบุตรและธิดาอีกด้วย ท่านเป็นแม่ที่ดีที่สุดในโลกอย่างแท้จริง!]
คำยกยอเช่นนี้ทำเอาฮูหยินเฉียวรู้สึกดีอย่างมาก
ในตอนนั้นนั่นเองที่อยู่ ๆ ความคิดของเฉียวเจียวเจียวก็กลับมาที่ป้าสะใภ้คนที่จะมาเยี่ยมในวันพรุ่งนี้อีกครั้ง
ชื่อเดิมของฮูหยินเฉียวมีนามว่าจั่วเหอจิ้ง เป็นบุตรีทายาทสายตรงของจวนเหยี่ยนกั๋วกง ลำดับก่อนหน้านางยังมีพี่ชายนามว่าจั่วเหออิงอีกหนึ่งคนซึ่งก็อยู่ในวัยกลางคนแล้ว
ท่านตาเหยี่ยนกั๋วกงปัจจุบันอายุราวหกสิบสามน่าจะได้ ในปีนั้นท่านได้ติดตามฮ่องเต้องค์ก่อนไปทำสงครามทางตะวันออก แม้ว่าจะป่วยได้โรคภัยไข้เจ็บมาเล็กน้อย แต่ร่างกายก็ยังแข็งแรงดีอยู่
บางทีอาจเป็นเพราะท่านยุ่งอยู่แต่ในสนามรบ จึงละเลยในการสั่งสอนลูกชายไป ท่านลุงจั่วเหออิงจึงใช้ชีวิตสุรุ่ยสุร่ายเป็นลูกผู้ดีมากเงินอยู่หลายปี เทียบกับท่านตาแล้วห่างไกลกันมาก
ส่วนป้าสะใภ้เป็นคุณหนูผู้ดีของอดีตรองตุลาการศาลต้าหลี่ แต่ฐานะเมื่อเทียบกับกั๋วกงซื่อจื่อแล้วยังดูห่างชั้นกันมากโข
แต่ด้วยความที่ป้าสะใภ้เกิดมาสวยงามไร้ที่ติ ในปีนั้นท่านลุงมองปราดเดียวก็ถูกใจอดใจไม่ไหว อยากจะแต่งงานกับนางให้ได้
แต่นิสัยของป้าสะใภ้คนนี้ที่จริงแล้วไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
[เฮ้อ ท่านแม่สนิทกับป้าสะใภ้มาก หลังจากป้าสะใภ้แต่งงานเข้าจวนกั๋วกง ท่านแม่ก็ช่วยเหลือป้าสะใภ้เอาไว้หลายเรื่อง]
[ท่านลุงเป็นคนไม่เอาการเอางาน ป้าสะใภ้รับไม่ได้อย่างมากกับเรื่องนี้ แต่ดีที่ได้ท่านแม่เป็นคนช่วยไกล่เกลี่ยปลอบใจ และยังมอบเครื่องประดับที่ทำจากหยกงาม ๆ ให้นางไปไม่น้อย]
[แต่ท่านแม่ที่จิตใจดีมีเมตตาของข้าไหนเลยจะรู้ว่า ป้าสะใภ้คนนี้เป็นคนหน้าไหว้หลังหลอกคนหนึ่ง!]
ฮูหยินเฉียวได้ยินเช่นนี้ ใจก็หายวาบทันที
[ที่จริงแล้วป้าสะใภ้อิจฉาท่านแม่มาโดยตลอด! ก่อนหน้านี้อิจฉาที่ท่านแม่เกิดมาในตระกูลดี ๆ และมีหน้าตาที่งดงาม ต่อมาก็อิจฉาที่ท่านแม่ได้แต่งงานดีและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขหลังจากแต่งงานไปแล้ว]
[ดังนั้นเมื่อท่านแม่คิดว่าป้าสะใภ้เป็นเพื่อนที่รู้ใจ จึงเอาความน้อยใจที่สาวใช้ปีนขึ้นเตียงท่านพ่อไปร้องไห้กับนาง ป้าสะใภ้รู้ทั้งรู้ว่าท่านพ่อไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ยังยุยงให้ท่านแม่กับท่านพ่อทำสงครามเย็นกัน]
[นางยังยกเอาท่านลุงมาเป็นตัวอย่างด้วย และบอกว่าผู้ชายมักจะพูดจาไม่น่าเชื่อถือ ทำให้ท่านแม่เกิดความคับข้องใจและเกิดความสงสัย]
[ทุกครั้งที่นางมาก็จะมายุยงใส่สีตีไข่ให้ท่านแม่ฟัง และเมื่อเห็นว่าท่านแม่ป่วยใจหนักขึ้นทุกวัน นางกลับดีใจที่ได้เห็นคนอื่นทุกข์ทรมาน]
[แต่สิ่งที่น่าแค้นใจมากที่สุดก็คือ หลังจากที่ท่านแม่จากไปเพราะตรอมใจตาย ท่านตาก็รับไม่ได้จนผมขาวทั้งหัวในคืนเดียว และไม่มีกะจิตกะใจที่จะดูแลจวนกั๋วกงอีกต่อไป]
[ส่วนป้าสะใภ้ก็ถูกจิ้งอ๋องปั่นหัวและหลอกล่อให้เชื่ออย่างง่ายดาย นางกับท่านลุงฉวยโอกาสนี้ลงมือกับตระกูลเฉียว!]
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาฝ่าลิขิตสวรรค์
รออัพเดทอยู่น๊า...