“น้องสาวเอ๊ย พี่สะใภ้ไม่ใช่จะว่าเจ้า สตรีอย่างเราน่ะหลังจากคลอดลูกแล้วก็ไม่ควรที่จะละเลยสามี”
“บุรุษทุกคนชอบได้ใหม่และเบื่อของเก่าที่สุด และที่พวกเขาทนไม่ได้ที่สุดก็คือการถูกละเลย ถ้าเจ้าไม่จับตาดูให้ดีระวังเขาจะไปแอบหากินข้างนอกเอาได้นะ”
ในเวลานี้เฉียวเจียวเจียวอดใจไม่ไหวที่จะกลอกตาขาวหนึ่งที
[มาแล้ว ๆ ตัวเองใช้ชีวิตไม่มีความสุข ก็จะมายุยงคนอื่นด้วย! ท่านพ่อท่านแม่ของข้ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก! เมื่อคืนพวกเขายังนอนด้วยกันด้วยนะ!]
หลังจากเมื่อคืนฮูหยินเฉียวได้ยินคำเตือนของเฉียวเจียวเจียวแล้ว ก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากความเจ็บปวดนั้น จึงไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่ฮูหยินจั่วพูดอีก
ทันใดนั้นนางก็ก้มศีรษะลงมา และพูดอย่างอาย ๆ ว่า
“พี่สะใภ้ ท่านพี่เขาไม่มีทางเป็นแบบนั้นได้หรอก เมื่อคืนเขายังพักอยู่ที่นี่ด้วยกันอยู่เลย”
ฮูหยินจั่วได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาทันควัน และก็ตกตะลึงจนใบหน้าไม่ทันที่จะซ่อนความรู้สึกทัน
“เจ้าบอกว่า เมื่อคืนน้องเขยเขาพักอยู่ที่นี่ด้วยงั้นหรือ?”
ฮูหยินจั่วไม่มั่นใจ จึงถามซ้ำขึ้นมาอีกครั้ง
นางรู้สึกตกใจมากจริง ๆ
เพราะสตรีที่เพิ่งคลอดลูกจะมีกลิ่นน้ำคาวปลาหลังจากคลอดอยู่ยังไม่จางไป บุรุษทั่วไปคงจะรู้สึกว่ามันสกปรกไป แทบอยากจะหลบเลี่ยงให้ห่าง ๆ แต่น้องเขยกลับยอมพักอยู่ที่นี่ด้วยงั้นหรือ?
ทันใดนั้นฮูหยินจั่วก็นึกถึงสายตาที่รังเกียจของสามีหลังจากที่ตัวเองเพิ่งคลอดบุตรออกมา และทันใดนั้นก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่ทรวงอก
นางคิดยังไงก็คิดไม่ตกทำไมจั่วเหอจิ้งถึงมีชีวิตที่ดีถึงขนาดนี้!
ฮูหยินเฉียวสังเกตเห็นสีหน้าของฮูหยินจั่วที่อิจฉาริษยาอย่างเปิดเผย ในใจก็รู้สึกทั้งเศร้าโศกและก็ดีใจ
ที่นางเศร้าใจก็เพราะตัวเองทำไมถึงไม่รู้จักมองคนให้ออก เกือบจะทำร้ายตระกูลเฉียวทั้งตระกูลเสียแล้ว
ที่ดีใจก็เพราะตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ตัวเองไม่จำเป็นต้องไปมาหาสู่กับงูอสรพิษเช่นนี้อีก และไม่จำเป็นต้องคอยระมัดระวังเก็บซ่อนเรื่องที่สามีรักตัวเองอีกต่อไปเพราะต้องการรักษาน้ำใจของพี่สะใภ้
“ใช่เจ้าค่ะ เมื่อวานเขายังทำการคัดกรองคนในจวนใหม่ และยังบอกว่าจะไม่มีทางรับอนุตลอดทั้งชีวิตนี้ และจะไม่รับสาวใช้ข้างห้องอีกด้วย ดังนั้นพี่สะใภ้จึงไม่ต้องเป็นกังวลแทนข้าหรอกเจ้าค่ะ”
หลังจากที่ฮูหยินเฉียวพูดจบ ที่มือของฮูหยินจั่วก็มีเสียงเหมือนอะไรหักดังเปราะดังขึ้น คาดไม่ถึงว่าความอิจฉาตาร้อนจะทำให้ปลอกที่หุ้มเล็บถึงกับหักไปเลย
เฉียวเจียวเจียวชำเลืองมองไปดูเล็กน้อย [โย่ ๆ ๆ อดกลั้นไม่อยู่เสียแล้ว เผยร่างเดิมออกมาแล้ว!]
ฮูหยินเฉียวได้ยินเช่นนี้ก็อดที่จะยิ้มที่มุมปากไม่ได้ และก็เก็บซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ได้อย่างแนบเนียนจนไม่มีใครสังเกตเห็น
ถ้านางไม่ได้ถูกคนสนิทในครอบครัวปิดหูปิดตา คำพูดแค่นี้ของฮูหยินก็คงไม่มีน้ำหนักพอสำหรับนาง
ฮูหยินจั่วตระหนักได้ว่าตัวเองลืมตัวเสียมารยาทแล้ว ก็รีบเก็บอารมณ์ทางสีหน้าและพูดจาตีสนิทว่า
“ถ้าเช่นนั้นน้องสาวก็ต้องยับยั้งชั่งใจให้ดี บุรุษไม่รู้จักกาลเทศะมากที่สุด อย่าได้ทำอะไรที่ทำร้ายตัวเองเด็ดขาดเชียวนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาฝ่าลิขิตสวรรค์
รออัพเดทอยู่น๊า...