เขาปั้นยิ้มใส่และปากก็พูดอย่างสุภาพว่า “ฮูหยินเมิ่งชมเกินไปแล้ว ลูกชายคนโตของข้าซื่อบื้อเกินไปทำเอาพวกข้าร้อนใจไม่น้อย ทว่าในที่สุดตอนนี้ก็มีสัญญาณว่าจะมีข่าวดีกับเค้าบ้างแล้ว”
“หากตอนนั้นมีข่าวมงคลอะไร จะต้องแจ้งให้ทราบอย่างแน่นอน และจะเชิญพวกท่านมาร่วมยินดีด้วย”
พรุ่งนี้เขาต้องไปพบเจ้าก้อนหินเหม็นอย่างหันหมิงเจ๋อคนนั้นสักหน่อย ต้องไปสืบหาความเสียแล้ว!
เฉียวเทียนจิง : ?
มีสัญญาณอะไรงั้นหรือ? ตั้งแต่เมื่อไรล่ะ? ทำไมเขาไม่เห็นรู้เรื่องเลย?
คือ...คุณหนูตระกูลหันงั้นหรือ?
เฉียวเจียวเจียวก็สับสนเช่นกัน
[ตอนนี้ท่านพ่อท่านแม่ตัดสินใจเลือกแม่นางตระกูลหันแล้วงั้นหรือ? แต่เท่าที่ข้าจำได้ต้องเป็นช่วงงานเทศกาลโคมไฟที่พี่ใหญ่บังเอิญไปช่วยหญิงงามเข้าพอดี และทั้งสองคนก็สร้างความสัมพันธ์ให้รู้จักกันมากขึ้น ไม่ใช่หรือ?]
เฉียวจงกั๋วรู้สึกว่าการเตือนให้รู้ในครั้งนี้สำคัญมาก
ดูเหมือนว่าพอถึงงานวันเทศกาลโคมไฟ จะต้องปล่อยให้เจ้าใหญ่ออกไปเดินเที่ยวข้างนอกทั้งวันเสียแล้ว หากช่วยคนไม่ได้ไม่อนุญาตให้กลับบ้านเด็ดขาด!
ทางด้านเฉียวเทียนจิงก็คิดว่า : จะต้องไปเดินเตร่ในงานเทศกาลโคมไฟตั้งแต่ช่วงฟ้าสว่างจนถึงฟ้ามืดให้จงได้...
คำพูดที่กล่าวมาของเฉียวจงกั๋วแฝงความหมายชัดเจนมากแล้ว จนฮูหยินเมิ่งรู้สึกว่าจวนเฉียวไม่สามารถอยู่ต่อได้อีก
ขายขี้หน้าชะมัดเลย!
คนเค้าปฏิเสธชัดเจนขนาดนี้แล้ว ยังจะรอให้เค้าโยนออกมาหรือยังไง?
ฮูหยินเมิ่งส่งสายตาให้นายท่านเมิ่งอยู่บ่อยครั้ง
นายท่านเมิ่งก็เข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดนั้นเช่นกัน แต่ไม่ใช่ว่ายังมีเฉียวตี้อี้อีกคนหนึ่งหรอกหรือ?
เขาเป็นคนหน้าด้านเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะในแวดวงของขุนนางมีเรื่องมากมายที่ต้องแบกหน้าด้านๆ ไปทำ การปฏิเสธที่ไม่ได้พูดอย่างชัดเจนเช่นนี้ถือว่าไม่เป็นอะไร?
ฮูหยินเมิ่งจะถูกพ่อลูกคู่นี้ทำให้อับอายขายขี้หน้าตายอยู่แล้ว
เมื่อครู่นี้ยังหมายตาลูกชายคนโตของเขา หลังจากที่ถูกเขาปฏิเสธก็ยังจะพูดถึงลูกชายคนเล็กต่ออีก ในใต้หล้านี้มีใครทำเรื่องแบบนี้กันบ้าง!
เฉียวเจียวเจียวมองภาพของสองสามีภรรยาตระกูลเมิ่งสบตากันไปมาด้วยความสนุกสนาน
[โอโฮ! ยังอยากได้พี่รองของข้างั้นรึ! พี่รองของข้าก็เป็นคนมีเจ้าของแล้วเช่นกัน พี่สะใภ้รองเป็นหญิงสาวแปลก ๆ ข้าจำได้ว่านางก็คือ...อืมง่วงนอนจังเลย!]
เฉียวเจียวเจียวหาวยาว ๆ และกลืนคำพูดที่จะพูดต่อกลับไป
เฉียวตี้อี้ : ?
ทำไมพอพูดถึงภรรยาของเขาก็ไม่พูดต่อเสียแล้วล่ะ!
น้องสาว! รีบบอกพี่รองเร็วเข้าว่าแม่นางคนนั้นเป็นใคร!
อย่างไรก็ตามเฉียวเจียวเจียวก็ได้อดทนมาถึงขีดจำกัดของร่างกายของนางแล้ว นางยังรู้สึกถึงอะไรร้อน ๆ ที่พ่นออกมาจากส่วนล่างของร่างกายที่ไม่สามารถควบคุมได้
น่าอายชะมัด...นางฉี่เสียแล้ว!
เฉียวจงกั๋วรู้สึกว่ามีอะไรร้อนรดฝ่ามือ จึงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวอย่างขำๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาฝ่าลิขิตสวรรค์
รออัพเดทอยู่น๊า...