ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 25

บทที่ 25 รนหาที่ตาย

ตอนนี้หวังเหวินข่ายยืนเชิดหน้าอยู่หน้าประตูบริษัทหัวซิน

เขารู้ว่าวันนี้คือโอกาสที่ดีในการแสดงความสามารถต่อหน้าแม่ของเซียวชูหรัน เขาจะต้องทำให้ดีที่สุด

ขอเพียงเอาแม่ของเธอให้อยู่หมัด จะยังต้องกังวลว่าเอาเธอไม่อยู่หมัดหรือไง?

ถึงตอนนั้นตัวเขาก็จะได้เซียวชูหรันสาวสวยผู้เป็นที่เลื่องลือของเมืองจินหลิงมาครอบครอง แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว!

ดังนั้นเขาจึงเอ่ยเสียงดัง “ลุงป้าน้าอาทุกคนวางใจได้ อีกเดี๋ยวเจ้าของบริษัทนี้ก็จะเอาเงินมาคืนให้กับทุกคนแล้ว!”

เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นก็ปรบมือโห่ร้องกันอย่างชอบอกชอบใจ

มีเพียงเย่เฉินคนเดียวที่มองหน้าหวังเหวินข่ายอย่างเย็นชา ไอ้คนนี้มั่นอกมั่นใจในตัวเองเกินไปแล้ว เดี๋ยวจะตายยังไม่รู้เลย

ขณะที่หวังเหวินข่ายกำลังเชิดหน้ารับการเยินยอจากทุกคน ประตูของบริษัทประกันภัยหัวซินก็ถูกเปิดออกจากด้านใน

จากนั้นผู้เป็นเจ้านายอย่างโจวหัวซินก็เดินออกมาพร้อมกับชายวัยกลางคนสวมชุดรูปแบบสมัยราชวงศ์ถัง

ถึงแม้ว่าชายวัยกลางคนผู้นั้นจะอายุค่อนข้างมากแล้วทว่ายังดูน่าเกรงกลัวอยู่ ซึ่งคนผู้นั้นก็คือท่านหงห้านั่นเอง!

ด้านหลังของท่านหงหายังมีลูกน้องรูปร่างบึกบึนอีกหลายคนเดินตามมา คนเหล่านี้ล้วนเป็นบอดี้การ์ดประจำตัวของเขา แต่ละคนนั้นฝีมือไม่ธรรมดาเลย

ตำแหน่งของท่านหงห้าในเมืองจินหลิงนั้นสูงมาก ดังนั้นถึงแม้คนจำนวนมากจะได้ยินชื่อเสียงของเขามาก่อนทว่าไม่มีโอกาสได้เจอตัวจริงรวมถึงหวังเหวินข่ายเองด้วย จึงไม่มีใครรู้ว่าเขาคือใคร

ทุกคนรู้จักเพียงแค่โจวหัวซินเจ้าของบริษัทประกันภัยหัวซินเท่านั้น

ฉับพลันบรรยากาศท่ามกลางกลุ่มคนจึงปะทุขึ้นอีกครั้ง!

“โอ้ว เหวินข่าเรียกประธานจงมาได้จริงๆด้วย! เขาช่างสุดยอดจริงๆ!”

“ใช่ ครั้งนี้ต้องยกความดีความชอบให้พี่หลัน พวกเรามีความหวังที่จะได้เงินคืนแล้ว!”

“พี่หลัน ผู้ชายที่ดีขนาดนี้ เป็นตัวเลือกลูกเขยที่ดีแน่นอน!”

เมื่อหม่าหลันได้รับการเยินยอจากเพื่อนพ้องก็เกิดความรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

วันนี้หวังเหวินข่ายช่วยเชิดหน้าชูตาให้กับเธอต่อหน้าเพื่อนพ้องได้มากจริงๆ

คิดมาถึงตรงนี้เธอก็ยิ้มหน้าบานพลางหันไปมองหน้าหวังเหวินข่ายด้วยสายตาพึงพอใจ

ตอนนี้หวังเหวินข่ายเดินออกไปด้านหน้าอย่างได้ใจราวกับตัวเองสูงส่งนักหนา

เขาไม่รู้จักโจวหัวซิน และไม่ได้รู้จักท่านหงห้าทว่าดูเหมือนว่าหัวซินจะให้ความเคารพท่านหงห้าเป็นอย่างมาก เขาจึงคิดว่าท่านหงห้าคือเจ้านาย

ดังนั้นเขาจึงหันไปเอ่ยกับท่านหงห้าอย่างถือดี “คุณคือเจ้านายของบริษัทประกันภัยหัวซินใช่ไหม?”

ท่านหงห้าเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “ผมไม่ใช่เจ้านาย ผมแค่มาทำงานให้เจ้านาย แต่คุณมีอะไรก็คุยกับผมได้”

หวังเหวินข่ายได้ยินดังนั้นก็หัวเราะพลางเอ่ยดูถูก “ก็แค่สุนัขรับใช้สินะ อย่างคุณไม่มีสิทธิ์มาคุยกับผม รีบไสหัวไปแล้วเรียกเจ้านายของคุณมา!”

เย่เฉินส่ายหน้าพลางมองหวังเหวินข่ายอย่างสมเพช

ชายคนที่สวมชุดรูปแบบสมัยราชวงศ์ถังคนตรงหน้านี้ท่าทางดูน่าเกรงกลัว แถมยังมีลูกน้องเดินตามอีก แค่ดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนที่ควรจะมีเรื่องด้วย สุดท้ายหวังเหวินข่ายกลับทำตัวกร่างใส่อีกฝ่าย เห็นได้ชัดว่ากำลังรนหาที่ตาย

หม่าหลันที่ยืนอยู่ด้านข้างก็เอ่ยเสริม “เหวินข่าย ไม่ต้องเสียเวลากับสุนัขรับใช้แบบนี้หรอก คนข้างๆนั่นต่างหากคือเจ้านายของบริษัทประกันภัยหัวซิน!”

โจวหัวซินได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึงจนอ้าปากหวอ!

หวัเหวินข่ายและหญิงแก่คนนี้ช่างใจกล้าเสียจริง!

ถึงขนาดกล้าด่าว่าท่านหงห้าคือสุนัขรับใช้แถมยังไล่ไปไกลๆ สองคนนี้คงสะกดคำว่าตายไม่เป็น!

ทั้งเมืองจินหลิงนี้ มีใครใจกล้าบ้าบิ่นขนาดที่กล้าด่าทอท่านหงห้าหรือ?!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน