พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 103

เมื่อลุคเดินเข้ามา เบียงก้าเงยหน้าขึ้นมองเขา

เมื่อเห็นว่าเบียงก้ากำลังจัดที่นอนของเธออยู่นั้น สายตาของชายคนนั้นก็จ้องเธอ เขาโยนยาทานั้นลงบนที่นอนโดยไม่พูดอะไรสักคำ

เบียงก้าหยุดจัดเตียงอย่างไม่ได้ตั้งใจ สายตาของเธอเลื่อนลงไปเห็นบรรจุภัณฑ์ชิ้นหนึ่งบนผ้าห่ม ฉลากของบรรจุภัณฑ์นั้นเขียนว่า ‘สำหรับบรรเทาอาการยุงกัดในเด็กแรกเกิดและเด็กเล็ก’

ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดยกแว่นอ่านหนังสือขึ้นและมองไปที่หลานชาย เขาเงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยถามลุค “หลานรู้ได้ยังไงว่าบีถูกยุงกัด?”

ลุคไม่ได้ตอบอะไร

“รีบทายาเถอะ เผื่อหลานจะแพ้ยุง…” เมื่อพ่อเฒ่าเรย์นพูดเช่นนั้นจบ เราก็เริ่มเล่าเหตุการณ์หนึ่งให้ทุกคนได้ฟัง “ตอนที่หลานสาวผู้น่าสงสารของฉันยังเป็นเด็ก ไม่มีใครไยดีเธอเลยสักคน เธอถูกยุงป่ากัดเข้าที่เปลือกตาข้างหนึ่ง ตาของเธอบวมขึ้นจากการติดเชื้อและอักเสบ ถ้าลูกชายของฉันไม่กลับมาที่บ้านแล้วพาเธอไปฉีดยาเพื่อลดการอักเสบ ฉันกลัวว่าตอนนี้เธออาจจะกลายเป็นคนตาบอดไปแล้ว”

“มันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นหรอกค่ะ ปู่” เบียงก้าเอ่ยขัด เพราะไม่อยากให้ปู่เล่าเรื่องส่วนตัวของเธอให้คนนอกฟัง

ลุคยืนอยู่แถวขอบเตียง เขาหันหลังให้กับชายอาวุโสทั้งสองคนรวมไปถึงเบียงก้าด้วย

ห้องนอนนี้กว้างประมาณ 70 ตารางเมตร เตียงของเขาถูกวางอยู่ที่มุมด้านในสุด ในขณะที่เตียงชั่วคราวของพ่อเฒ่าเรย์นนั้นถูกวางลงนอกพื้นที่ถูกยกที่ซึ่งเคยเป็นที่วางของโซฟาสีเข้มตัวหนึ่งมาก่อน

เตียงที่เบียงก้ากำลังจัดอยู่นั้นเป็นเตียงเดี่ยวแบบพับได้

เนื่องจากเธอต้องอยู่ดูแลปู่อย่างไม่มีทางเลือกอื่น เธอจึงจำเป็นต้องนอนบนเตียงที่พับได้

หลังจากทำเตียงพับเสร็จ เบียงก้าจึงได้พบว่าเธอไม่มีอะไรเลย นอกจากผ้าห่มที่ทั้งบางและกระด้าง

เนื่องจากที่นี่ไม่ใช่บ้านของเธอ เบียงก้าจึงไม่กล้าเคลื่อนย้ายของอะไรมากนัก

ถึงแม้ผ้าห่มบาง ๆ นี่จะห่มไม่สบายนัก แต่ก็แค่คืนนี้เท่านั้นล่ะ พรุ่งนี้ปู่ของเธออาจจะดีขึ้นแล้วพวกเขาก็จะออกจากที่นี่ไปได้ในที่สุด

“ลุค ทำไมหลานแย่แบบนี้ห๊ะ? ไปเอาผ้าห่มดี ๆ ในตู้มาให้เบียงก้าสิ หลานได้ยินรึเปล่า?” ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดเอ่ยปากอย่างไม่พอใจ

เบียงก้าเงยหน้ามองแล้วกล่าว “ไม่เป็นไรค่ะคุณปู่ครอว์ฟอร์ด หนูไม่เป็นไร”

กล่าวกันตามตรง ผ้าห่มผืนบางนั่นเป็นผืนเดียวกับที่ตกลงมาจากเตียงของเขา ทั้งยังเป็นผืนที่เธอให้ลุคเอาไว้คลุมเจ้าสิ่งนั้นของเขาอีกด้วย...

หลังจากที่เบียงก้าเอ่ยปฏิเสธ เธอก็เห็นลุคเดินมาที่ตู้ด้วยขาที่ยาวเหยียดของเขา

ตอนที่ต้องหยิบผ้าเช็ดตัวผืนบางออกมา เบียงก้าต้องปีนเก้าอี้ขึ้นไปหยิบมันออกมา แต่ลุคไม่แม้แต่จะต้องเขย่งปลายเท้าก่อนจะคว้ามาด้วยมือเพียงข้างเดียว

ในไม่ช้า ผ้าห่มผืนใหม่ก็ถูกวางอยู่บนเตียงเดี่ยวแบบพับได้เสียแล้ว

“เรื่องผ้าห่มน่ะช่างมันก่อนเถอะ หนูควรจะทายาเสียก่อนนะ” ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดมองไปที่คู่หนุ่มสาว และรู้สึกได้ในทันทีว่าระหว่างพวกเขานั่นค่อนข้างจะน่าอึดอัดเล็กน้อย

เบียงก้าไม่อยากเผชิญหน้ากับลุคเลย เธอจึงหยิบยาทาแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

ในตอนที่เธอเดินผ่านลุคไป เบียงก้าก้มศีรษะลงแล้วกระซิบขอบคุณเขา

เมื่อเบียงก้าเข้าไปในห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว ปู่ทั้งสองจ้องไปที่ชายขายาวผู้ร่างกายอันสูงชะลูด

ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดเดินไปด้านหลังด้วยความกังวลใจ เขาเงยหน้ามองหลานชายแล้วเอ่ยปากดุ “สีหน้าเย็นชาของหลานนี่มันอะไรกัน? แล้วปากแบบนี้น่ะเหรอที่ใช้พูดกับว่าที่เจ้าสาวของตัวเองน่ะ? ดูจากนิสัยของหลานแล้ว หลานดูท่าจะต้องโสดไปจนตายนั่นแหละ!”

“คุณครอว์ฟอร์ดครับ ปล่อยลุคไปเถอะนะ บีเองก็ไม่ใช่ว่าจะทำถูกหรอก เด็กนั่นไม่รู้จักลดราวาศอกเอาเสียบ้างเลย”

พ่อเฒ่าเรย์นรู้ได้ในทันทีว่าลุคไม่ได้เป็นคนก่อปัญหาแต่เพียงผู้เดียวแน่

ตั้งแต่แรกแล้ว หลานสาวของเขาทำเป็นฝ่ายที่ปฏิบัติกับลุคอย่างห่างเหินราวกับเขาเป็นคนแปลกหน้า

“ไปช่วยหนูบีทายาสิ ไปดูสิว่าเธอถูกยุงกัดมาขนาดไหน” ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดเสียงอ่อนลงกว่าเดิม แต่ศีรษะกำลังอัดแน่นไปด้วยความโกรธ

...

ในตอนที่ประตูถูกผลักจนเปิดออก เบียงก้ากำลังทายาที่ด้านหลังของหัวไหล่อยู่พอดี

ลุคหมุนลูกบิดประตูด้วยมือข้างเดียวแล้วเดินเข้าไป เมื่อเขาเห็นสายตาประหลาดใจของเธอ เขาก็เดินเข้ามาแล้วปิดประตูบานด้านหลังของตัวเองทันที

เบียงก้ารีบคว้าเอาเสื้อของตัวเองขึ้นมาปิดหัวไหล่ไว้ทันที เธอดูอายไม่น้อยเมื่อมองไปที่เขาอย่างหวาด ๆ “ถ้าคุณจะใช้ห้องน้ำ ฉันจะออกไปให้ค่ะ”

เมื่อเธอทำท่าจะออกไปจากห้องน้ำ ลุคก็คว้าแขนเธอเอาไว้อย่างนุ่มนวล

เมื่อเปรียบกับร่างอันแข็งแกร่งของผู้ชาย ร่างของเบียงก้านั้นเล็กและนุ่มนิ่มไม่น้อย เธอไม่รู้เหตุผลที่เขารั้งเธอไว้ แต่กระนั้น เธอก็อยู่ในอานัสของเขากับอ่างหินอ่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แม้ว่าห้องน้ำนี้จะเก็บเสียง แต่ปู่ทั้งสองก็อยู่ข้างนอกนี้เอง เธอจึงไม่กล้าส่งเสียงอะไรออกไป สีหน้าของเธอดูโกรธเคืองไม่น้อย “นี่คุณจะทำอะไร?”

ลุคไม่ยอมปริปาก ในทางกลับกัน เขาหยิบยาทาแก้ยุงกัดมาบีบใส่ปลายนิ้วเล็กน้อย แล้วมองหาจุดที่ยุงกัดบนร่างกายของเธอ

“ฉันทำเองได้ค่ะ” เบียงก้าพยายามแย่งยาทามาจากมือของลุค

ถ้าเขาพาเพื่อจะทาครีมให้เธอแล้วล่ะก็ เธอก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเขา

ลุคไม่ยอมให้เบียงก้าแย่งยาทาไปจากตัวเอง เขาจ้องลงลึกไปในดวงตาของเธอเป็นเวลานาน และเพราะเธอกลัวสายตาของเขาจึงยอมอ่อนข้อให้ในที่สุด ลุคเริ่มขยับตัวและทาครีมลงบนคอขาวกระจ่างของเธอ

เบียงก้ามีผิวขาวกระจ่างอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะอย่างนั้นผิวของเธอจึงขาวราวกับหิมะ รอยแดงจากการโดนยุงกัดจึงปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน

ความเย็นของครีมสัมผัสลงบนผิวที่แดงและคันของเบียงก้า เธอก้มศีรษะลงแล้วหายใจเข้าลึก ๆ อย่างพยายามไม่ให้หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ

เมื่อทาที่จุดหนึ่ง ลุคก็ตระหนักได้ว่ายังมีรอยแดงอีกสองจุดบนไหล่ของเธอ เขาเคยได้สัมผัสกับร่างกายทุกส่วนของเธอมาก่อนแล้ว เขาจึงไม่ลังเลที่จะถอดเสื้อจากหัวไหล่ของเธอ

เบียงก้าขัดขืน

“หยุดดิ้นเสียที หรือคุณอยากให้ผมมัดคุณล่ะ?” ลุคมองไปยังดวงตาอันบริสุทธิ์ของเบียงก้าด้วยแววตาเย็นชา

เบียงก้ามองไปที่ประตูห้องน้ำแล้วกระซิบ “ถ้าคุณปู่ขอให้คุณมาช่วยฉันทายา คุณก็แค่แกล้งทำไปก็ได้ เพราะฉันทำเองได้อยู่แล้ว

เธอยังพยายามแย่งยาทาหลอดนั้นจากมือของลุคอีกครั้ง

“ไปทำอีท่าไหนถึงโดนยุงกัดทะลุเสื้อผ้าได้ล่ะ?” สายตาของลุคจับจ้องไปที่ผิวของเบียงก้า หลังจากที่ได้พบเธอในรอบห้าปี เขาเคยคิดว่าตัวเองเป็นคนเดียวที่ได้จุมพิตลงบนผิวของเธอจนแดงเช่นนี้

แต่ก็เพิ่งได้รู้ว่ายุงเองก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน

หันใดนั้น เขาก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมา

ในตอนที่เบียงก้าได้ฟังสิ่งที่เขาพูด เธอก็รู้สึกว่าตรงที่โดนยุงกัดนั้นคันน้อยลงแล้ว ตอนนี้มันเย็นสบาย เธอได้แต่ถอนหายใจ “คุณไม่เคยโดนยุงกัดเหรอคะ? ยุงน่ะสามารถกัดทะลุเสื้อผ้าได้เสมอนั่นแหละค่ะ”

“ผมไม่เคยโดนยุงกัด” ลุคตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง

เบียงก้าได้แต่ตะลึง

บางทีอาจจะเป็นเพราะเขาเลือดเย็นจนยุงยังขยาดก็เป็นได้

หลังจากที่เขาทายาลงบนผิวของเธอจนทั่ว เธอก็รีบดึงเสื้อผ้าของตัวเองกลับมาดังเดิม เว้นก็แต่คอและแขน เธอไม่กล้าเปิดเผยส่วนอื่น ๆของร่างกายให้เขาเห็นได้

“นี่คุณโดนยุงกัดที่ขาด้วยงั้นเหรอ?” ลุคถาม เขามองขาของเธอ

เธอไม่มีเวลาเปลี่ยนกระโปรงบอดี้คอนเลย

ตอนที่เขามองเรียวขาของเธอ เธอก็ได้แต่ย่อตัวลงด้วยความอาย

“ฉันไม่เป็นไรค่ะ ฉันจัดการเรื่องขาของตัวเองได้” เบียงก้ายังไม่ล้มเลิกความพยายามในการฉวยเอายาทามาจากเขา

ลุคยืนกรานว่าจะไม่ยอมให้เธอทายาเอง

เบียงก้าเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอสบประสานเข้ากับนัยน์ตาดำขลับของลุค

จริงอยู่ที่เขาช่วยเธอทาครีมที่หลังและคอของเธอเพราะมันยากที่เธอจะเอื้อมไปทาและมองให้เห็นได้ชัด ๆ แต่ถึงอย่างนั้นที่ขาไม่ได้มีปัญหาแบบนั้น เธอเอื้อมมือลงไปทายาได้ไม่ยาก และไม่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากเขาด้วยซ้ำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก