เมื่อลุคเดินเข้ามา เบียงก้าเงยหน้าขึ้นมองเขา
เมื่อเห็นว่าเบียงก้ากำลังจัดที่นอนของเธออยู่นั้น สายตาของชายคนนั้นก็จ้องเธอ เขาโยนยาทานั้นลงบนที่นอนโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เบียงก้าหยุดจัดเตียงอย่างไม่ได้ตั้งใจ สายตาของเธอเลื่อนลงไปเห็นบรรจุภัณฑ์ชิ้นหนึ่งบนผ้าห่ม ฉลากของบรรจุภัณฑ์นั้นเขียนว่า ‘สำหรับบรรเทาอาการยุงกัดในเด็กแรกเกิดและเด็กเล็ก’
ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดยกแว่นอ่านหนังสือขึ้นและมองไปที่หลานชาย เขาเงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยถามลุค “หลานรู้ได้ยังไงว่าบีถูกยุงกัด?”
ลุคไม่ได้ตอบอะไร
“รีบทายาเถอะ เผื่อหลานจะแพ้ยุง…” เมื่อพ่อเฒ่าเรย์นพูดเช่นนั้นจบ เราก็เริ่มเล่าเหตุการณ์หนึ่งให้ทุกคนได้ฟัง “ตอนที่หลานสาวผู้น่าสงสารของฉันยังเป็นเด็ก ไม่มีใครไยดีเธอเลยสักคน เธอถูกยุงป่ากัดเข้าที่เปลือกตาข้างหนึ่ง ตาของเธอบวมขึ้นจากการติดเชื้อและอักเสบ ถ้าลูกชายของฉันไม่กลับมาที่บ้านแล้วพาเธอไปฉีดยาเพื่อลดการอักเสบ ฉันกลัวว่าตอนนี้เธออาจจะกลายเป็นคนตาบอดไปแล้ว”
“มันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นหรอกค่ะ ปู่” เบียงก้าเอ่ยขัด เพราะไม่อยากให้ปู่เล่าเรื่องส่วนตัวของเธอให้คนนอกฟัง
ลุคยืนอยู่แถวขอบเตียง เขาหันหลังให้กับชายอาวุโสทั้งสองคนรวมไปถึงเบียงก้าด้วย
ห้องนอนนี้กว้างประมาณ 70 ตารางเมตร เตียงของเขาถูกวางอยู่ที่มุมด้านในสุด ในขณะที่เตียงชั่วคราวของพ่อเฒ่าเรย์นนั้นถูกวางลงนอกพื้นที่ถูกยกที่ซึ่งเคยเป็นที่วางของโซฟาสีเข้มตัวหนึ่งมาก่อน
เตียงที่เบียงก้ากำลังจัดอยู่นั้นเป็นเตียงเดี่ยวแบบพับได้
เนื่องจากเธอต้องอยู่ดูแลปู่อย่างไม่มีทางเลือกอื่น เธอจึงจำเป็นต้องนอนบนเตียงที่พับได้
หลังจากทำเตียงพับเสร็จ เบียงก้าจึงได้พบว่าเธอไม่มีอะไรเลย นอกจากผ้าห่มที่ทั้งบางและกระด้าง
เนื่องจากที่นี่ไม่ใช่บ้านของเธอ เบียงก้าจึงไม่กล้าเคลื่อนย้ายของอะไรมากนัก
ถึงแม้ผ้าห่มบาง ๆ นี่จะห่มไม่สบายนัก แต่ก็แค่คืนนี้เท่านั้นล่ะ พรุ่งนี้ปู่ของเธออาจจะดีขึ้นแล้วพวกเขาก็จะออกจากที่นี่ไปได้ในที่สุด
“ลุค ทำไมหลานแย่แบบนี้ห๊ะ? ไปเอาผ้าห่มดี ๆ ในตู้มาให้เบียงก้าสิ หลานได้ยินรึเปล่า?” ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดเอ่ยปากอย่างไม่พอใจ
เบียงก้าเงยหน้ามองแล้วกล่าว “ไม่เป็นไรค่ะคุณปู่ครอว์ฟอร์ด หนูไม่เป็นไร”
กล่าวกันตามตรง ผ้าห่มผืนบางนั่นเป็นผืนเดียวกับที่ตกลงมาจากเตียงของเขา ทั้งยังเป็นผืนที่เธอให้ลุคเอาไว้คลุมเจ้าสิ่งนั้นของเขาอีกด้วย...
หลังจากที่เบียงก้าเอ่ยปฏิเสธ เธอก็เห็นลุคเดินมาที่ตู้ด้วยขาที่ยาวเหยียดของเขา
ตอนที่ต้องหยิบผ้าเช็ดตัวผืนบางออกมา เบียงก้าต้องปีนเก้าอี้ขึ้นไปหยิบมันออกมา แต่ลุคไม่แม้แต่จะต้องเขย่งปลายเท้าก่อนจะคว้ามาด้วยมือเพียงข้างเดียว
ในไม่ช้า ผ้าห่มผืนใหม่ก็ถูกวางอยู่บนเตียงเดี่ยวแบบพับได้เสียแล้ว
“เรื่องผ้าห่มน่ะช่างมันก่อนเถอะ หนูควรจะทายาเสียก่อนนะ” ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดมองไปที่คู่หนุ่มสาว และรู้สึกได้ในทันทีว่าระหว่างพวกเขานั่นค่อนข้างจะน่าอึดอัดเล็กน้อย
เบียงก้าไม่อยากเผชิญหน้ากับลุคเลย เธอจึงหยิบยาทาแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
ในตอนที่เธอเดินผ่านลุคไป เบียงก้าก้มศีรษะลงแล้วกระซิบขอบคุณเขา
เมื่อเบียงก้าเข้าไปในห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว ปู่ทั้งสองจ้องไปที่ชายขายาวผู้ร่างกายอันสูงชะลูด
ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดเดินไปด้านหลังด้วยความกังวลใจ เขาเงยหน้ามองหลานชายแล้วเอ่ยปากดุ “สีหน้าเย็นชาของหลานนี่มันอะไรกัน? แล้วปากแบบนี้น่ะเหรอที่ใช้พูดกับว่าที่เจ้าสาวของตัวเองน่ะ? ดูจากนิสัยของหลานแล้ว หลานดูท่าจะต้องโสดไปจนตายนั่นแหละ!”
“คุณครอว์ฟอร์ดครับ ปล่อยลุคไปเถอะนะ บีเองก็ไม่ใช่ว่าจะทำถูกหรอก เด็กนั่นไม่รู้จักลดราวาศอกเอาเสียบ้างเลย”
พ่อเฒ่าเรย์นรู้ได้ในทันทีว่าลุคไม่ได้เป็นคนก่อปัญหาแต่เพียงผู้เดียวแน่
ตั้งแต่แรกแล้ว หลานสาวของเขาทำเป็นฝ่ายที่ปฏิบัติกับลุคอย่างห่างเหินราวกับเขาเป็นคนแปลกหน้า
“ไปช่วยหนูบีทายาสิ ไปดูสิว่าเธอถูกยุงกัดมาขนาดไหน” ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดเสียงอ่อนลงกว่าเดิม แต่ศีรษะกำลังอัดแน่นไปด้วยความโกรธ
...
ในตอนที่ประตูถูกผลักจนเปิดออก เบียงก้ากำลังทายาที่ด้านหลังของหัวไหล่อยู่พอดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก