พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 104

“นั่งลงสิ” ลุคเอ่ยปากสั่งด้วยใบหน้าบึ้งบูด

เบียงก้าส่ายศีรษะทั้งยังขัดคำสั่งของเขา

เธอคิดว่าในเมื่อเลิกกันไปแล้ว พวกเขาก็ไม่ควรต้องยุ่งเกี่ยวต่อกันอีก ถ้าพรุ่งนี้ร่างกายของปู่ดีขึ้น ทั้งเบียงก้าและปู่ของเธอก็จะออกไปจากที่นี่ และยังเหลือเวลากว่าสิบชั่วโมงจนกว่าพรุ่งนี้จะมาถึง

การรอให้เวลาผ่านไปแค่สิบชั่วโมงนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย ทั้งคุณปู่และหลานสาวของเขาเพียงแค่นอนอยู่บนเตียงของตนก็เท่านั้น เวลาสิบชั่วโมงก็เพียงพอแล้วสำหรับการนอนเพียงตื่นเดียว

“นั่งลง!” ลุคกดเสียงต่ำแล้วดึงให้เธอนั่งลง

เขาคงหวังว่าเธอจะไม่ส่งเสียงร้องหรือขัดขืนอะไรเพราะปู่ทั้งสองยังอยู่ข้างนอกนั่น เขาดึงร่างของเธอลงและบังคับให้เธอนั่งอยู่บนฝารองชักโครก

หลังจากนั้น เธอจึงพบว่าเธอไม่สามารถที่จะลุกขึ้นได้เพราะมือใหญ่โตของลุคจับเข้าที่ข้อเท้าของเธออยู่

“เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนะคะ คุณเองก็ยอมรับด้วยตัวเองแล้วนิ เพราะฉะนั้น ทำแบบนี้คงไม่เหมาะ” เบียงก้าไม่กล้าขัดขืน จึงทำเพียงแค่ใช้เหตุผลโน้มน้าวเขาเท่านั้น

ถึงอย่างนั้น ลุคก็ยังใช้นิ้วทายาที่บริเวณน่องของเธออย่างไม่ยี่หระ

เบียงก้าขัดฟันและส่งเสียงขู่ เธอได้แต่ก้มหน้าลงซุกกับหน้าขาตามสัญชาตญาณ

ยานี้มันเย็น เมื่อเทียบสัมผัสของเขาที่ขากับคอของเธอแล้ว เบียงก้ารู้สึกว่ามันต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะตอนนี้มันค่อนข้างน่าอึดอัด

ลุคได้ยินเสียงที่เธอส่งออกมา เขาจึงเงยหน้าขึ้นมา

เบียงรู้ว่าปฏิกิริยาของเธอนั้นดูล่อแหลมเกินไป แต่ความรู้สึกเย็นวาบนั้นทำให้ร่างกายของเธอสั่นสะท้านเพราะความอ่อนไหว เธอสะท้านไปทั้งร่าง...

เบียงก้าไม่กล้าขยับตัวไปมากกว่านี้ ในห้องน้ำมีไฟสลัว และมีเพียงไฟจากกระจกในห้องน้ำนี้เท่านั้น ใบหน้าของลุคดูงงงวยอย่างอธิบายไม่ถูก

นิ้วมือของลุคนั้นทั้งสง่าและขาวสะอาด แต่ละนิ้วนั้นดูแข็งแกร่งและสวยงาม

เบียงก้ายังจำได้ว่าคืนนั้นในห้องสวีทของโรงแรม เขาเคยใช้นิ้วเหล่านี้ช่วยเธอ...

คืนนั้น เขาทำเรื่องเช่นนั้นกับเธอ

เมื่อเธอนึกไปถึงค่ำคืนนั้น เธอได้แต่ขมวดคิ้วอย่างตำหนิตัวเอง สมองของเธอไม่ได้คิดอย่างมีเหตุผล เธอส่ายศีรษะและกัดลิ้นเพื่อบังคับให้ตัวเองคืนสติ ไม่ยอมให้ปิศาจในหัวใจมาล่อลวง

เบียงก้าสูดหายใจเข้าเต็มปอด แล้วพูดกับตัวเองในใจ ‘เบียงก้า เธอต้องจำไว้สิว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาน่ะเป็นอย่างไร!’

ลุคใช้นิ้วมือทายาลงบนน่องขาของเธอราว ๆ สิบครั้งเพื่อให้ตัวยาซึมเข้าผิว จากนั้นเขาก็บีบยาออกมาอีกแล้วมองหาจุดที่ต้องทายาจุดต่อไปบนร่างกายของเธอ

กระโปรงบอดี้คอนที่เธอใส่อยู่ในระดับสายตาเขา

เขามองไปที่หว่างขาของเธอ ซึ่งไม่ค่อยชัดเจนนัก

มีจุดที่ถูกยุงกัดบนผิวซีดขาวของเธอภายใต้เงานั้น

เป็นรอยที่เห็นได้อย่างชัดเจน

“กางขาออกสิ” ลุคกล่าวด้วยเสียงอันแหบแห้ง สายตายังมองไปที่ส่วนนั้น

“อะไรนะคะ?”

เบียงก้ารีบถีบตัวออกเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด เธอจ้องมองเขาด้วยนัยน์ตาที่เบิกกว้างและหวาดกลัว เธอกำลังตื่นกลัว

ลุคเงยหน้าขึ้นมองเธอ แล้วถึงเห็นความกลัวและความอายในดวงตาที่ใสดุจคริสตัลของเบียงก้า

“ตรงนั้นก็โดนยุงกัดเหมือนกัน” ลุคกล่าว เขาพูดขณะถกกระโปรงของเธอขึ้น เขาถึงมันขึ้นไปถึงโคนขาของเธอ

เรียวขาขาวซีดเกือบทั้งหมดปรากฏแก่สายตาของเขา

“มันสูงเกินไปค่ะ” เบียงก้าต้องการดึงกระโปรงลงมาปิดขาเธอ

แต่มือของเขากลับไม่ยอมคลายออกจากกระโปรงของเธอเลย

ลุคอยู่ใกล้กับใบหน้าของเธอ ความร้อนผ่าวจากลมหายใจของเขาเป่ารดลงบนพวงแก้มของเบียงก้า “ถ้าไม่ยอม กระโปรงคุณขาดแน่”

เบียงก้าหายใจติดขัด

เธอมองไปที่ชายผู้เต็มไปด้วยความบูดบึ้ง

‘ทำไมเขาถึงได้ก้าวร้าวขนาดนี้?’

“แม่ของคุณรู้แล้วว่าเราเลิกกัน มีแค่ปู่ทั้งสองเท่านั้นที่ยังไม่รู้เรื่องนี้ แถมคุณยังมีใครอีกคนที่อยากจะแต่งงานด้วยอีก คุณไม่รู้สึกผิดกับเธอเหรอคะ? ที่แอบมาทำอะไรกับฉันลับหลังแบบนี้?

ลุคฟังสิ่งที่เธอพูดแล้วก้มลงมองจุดที่ถูกยุงกัดบริเวณขาของเธอ เขานวดยาทาสีใสไปมาบริเวณนั้น

หลังจากเบียงก้าพูดจบ เธอก้มศีรษะลงมาเห็นว่ามือของเขาจับอยู่ที่ตรงนั้น ทุกรูขุมขนบนในหน้าของเธอก็เริ่มมีอาการ

เธอหุบขาของตัวเองจนแน่น

ดวงตาของชายหนุ่มลุกเป็นไฟ ริมฝีปากบางถูกเม้มจนแน่น ในขณะที่ลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลงไปมา

“ฉันขอตัวค่ะ” เบียงก้าไม่กล้าอยู่ต่ออีกเพราะกลัวว่าจะมีสิ่งผิดพลาดอันใหญ่หลวงเกิดขึ้น เธออาจจะถูกตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงบาปหนาก็เป็นได้

ถึงอย่างนั้นเมื่อเธอพยายามจะลุกขึ้น เธอขยับตัวเร็วเกินไป และมืออันใหญ่โตของเขาก็จับเข้าที่ระหว่างขาของเธอ

ลุคยืดตัวขึ้น มือทั้งสองข้างจับเข้าที่หัวไหล่ของเธอ เขากดแรงลงที่ร่างกายของเธอ ก่อนจะบังคับจูบเธออย่างหนักหน่วง

“อื้อ…”

เธอออกแรงผลักไปที่หน้าอกและแขนอันแข็งแกร่งของเขา

ลุคก้มหน้าลง ริมฝีปากของเขาไล่จุมพิตริมฝีปากที่หลบเลี่ยงไปมาของเธอตอนที่ถูกงับเข้า เขาทั้งจูบและโลมเลียเธอ ไหนจะใช้แผ่นเนื้อชุ่มชื้นไล่เกี่ยวพันกับแผ่นกล้ามเนื้อนุ่มนิ่มในปากของเบียงก้า

อุณหภูมิของร่างกายระหว่างคนทั้งสองเพิ่มสูงขึ้น

ทั้งความรู้สึกและร่างกายของเธอปฏิเสธ แต่จิตวิญญาณกับโหยหาแล้วเพลิดเพลินไปกับมันเสียอย่างนั้น

“อย่าค่ะ…”

ลุคยิ่งเร้าอารมณ์กว่าเดิม เขายกเธอขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอด และทำทุกอย่างตามที่ใจต้องการ...

เบียงก้าเริ่มส่งเสียงครวญครางออกมาแล้วกัดเข้าที่ริมฝีปากของเขา เธอติดอยู่ในอ้อมแขนของเขา “ปล่อยฉันค่ะ… ไม่งั้น....อื้ม… ฉันจะตะโกน…”

เธอเริ่มดิ้นจนเหงื่อผุดเล็กน้อย ผมหางม้าสีดำสนิทที่เธอมัดไว้เริ่มยุ่งเหยิง ผมบางช่อแปะติดเข้ากับคอของเธอ เธอเหนื่อยจนพูดไม่ออก แต่ก็ดูเย้ายวนเกินห้ามใจ

ลุคหยุดจูบแล้วก้มลงมองไปในดวงตาแดงก่ำของเธอ เขาจับเอวเธอด้วยมือข้างหนึ่งแล้วลูบที่หน้าเล็กของเธอด้วยมืออีกข้าง เขาหอบหายใจอย่างหนักและไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา

“มีเหตุผลหน่อยสิคะ เราทำแบบนี้กันไม่ได้” เบียงก้าหอบหายใจ ทั้งยังพยายามจะสงบสติอารมณ์ของตัวเองกับชายหนุ่มตรงหน้า

นัยน์ตาของลุคนั้นทั้งล้ำลึกและน่ากลัว แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ นัยน์ตาล้ำลึกที่ดูน่ากลัวนั้นกลับแฝงไปด้วยความอ่อนโยนที่มองไม่เห็นในครั้งอดีต หญิงสาววัย 24 ปีคนนี้มีทั้งวุฒิภาวะและมีการศึกษา หากแต่เธอก็ยังดูบริสุทธิ์เอาการ

เมื่อเขาทั้งสองใกล้ชิดกัน เขาก็รู้สึกราวกับถูกกระตุ้นมากขึ้น

“ผมจะไม่มีวันยอมแพ้หรอก จนกว่าคุณจะแต่งงานกับคนอื่น” ชายหนุ่มกล่าวอย่างแข็งกร้าวว่าการเลิกราในครั้งนี้จะถือเป็นบทเรียนของการถูกปฏิเสธครั้งแรกในชีวิตเขาเท่านั้น

หลังจากนั้น เขาจึงยอมปล่อยเธอแล้วหันไปที่ซิงค์ ลุคเปิดน้ำล้างหน้าตัวเอง

เบียงก้ายืนอยู่ด้านหลังของเขาอย่างทำตัวไม่ถูก

หลังจากที่ลุคล้างหน้าจนเสร็จ เขาสูดหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง แล้วเช็ดหน้าจนแห้งด้วยผ้าขนหนู เขามองเบียงก้าผ่านกระจกด้วยใบหน้าและนัยน์ตาเร้าอารมณ์

เธอก้มศีรษะลงราวกับเด็กที่ถูกจับได้ว่าทำผิด และรับผลที่ตามมาไม่ได้

ลุคออกจากห้องน้ำไปก่อน ในขณะที่เบียงก้าต้องสงบสติตัวเองอยู่ในนั้นนานแสนนาน เธอคงไม่ยอมออกมาถ้าหากปู่ไม่ตะโกนเรียก...

ในตอนที่เธอออกมา เธอก็ไม่เห็นลุคอยู่ในห้องนี้แล้ว

ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดเองก็กลับไปที่ห้องของตัวเองเพื่อพักผ่อนแล้ว พ่อเฒ่าเรย์นเห็นหลานสาวกำลังสอดส่ายสายตามองหาใครบางคนอยู่ก็เอ่ยขึ้น “พอลุคออกมา เขาก็ไปข้างนอกแล้วล่ะ เขาน่าจะไปไหนสักที่!”

เบียงก้าถอนหายใจ เธอสงสัยว่าเขาอาจจะออกไปนอนข้างนอกสักคืนสองคืน เพราะเธอรู้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่ร่วมกับเขา

อย่างห้องสวีทของโรงแรมที่เขาเคยไปบ่อย ๆนั่นไง

เบียงก้าเอนหลังลงบนเตียงพับได้อย่างไม่คิดอะไร โดยไม่ได้ล่วงรู้เลยว่า ลุคไปที่บ้านเช่าของเธอและปลดล็อกด้วยกุญแจที่นีน่าให้เขาไว้ครั้งก่อน

ในตอนที่คนทั้งคู่แนบชิดกันอยู่ในห้องน้ำ ยาที่อยู่บนนิ้วของลุคก็พลาดไปแปะบนกระโปรงของเธอ

ไม่ว่าจะอยู่ที่คฤหาสน์ครอว์ฟอร์ด หรือที่ทำงาน เธอก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่วันยังค่ำ

ลุคเข้ามาในห้องของเธอ แล้วเปิดประตูตู้เสื้อผ้าออก ขณะรื้อกองเสื้อผ้าของเธอจนกระจัดกระจาย สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นชุดชั้นในและยกทรงของเธอเข้า....

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก