พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 105

ลุคหยิบเสื้อชั้นในสีขาวและกางเกงในสีขาวลายการ์ตูนให้เธอ

ณ คฤหาสน์ครอว์ฟอร์ดในตอนนั้น ปู่นอนหลับอยู่ในห้อง เสียงจากการหายใจของเขาฟังดูหนักแน่นกว่าคนวัยหนุ่ม ในขณะที่ทุกอย่างเงียบสนิทจนได้ยินเสียงหัวใจเต้น

เบียงก้าได้แต่พลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ

เธอไม่รู้ว่าจะคิดหาวิธีเกลี้ยกล่อมปู่ให้ออกจากที่นี่ในวันพรุ่งนี้ได้อย่างไร

หลังย้ายออกจากที่นี่ไปแล้ว เธอควรพาคุณปู่ไปอยู่ที่บ้านหรือที่โรงพยาบาลดีล่ะ?

ถ้าเธอจะพาเขาไปโรงพยาบาล เธอจะพาไปโรงพยาบาลไหนดี? เธอไม่อาจพาปู่ไปโรงพยาบาลเดียวกับที่พ่อกำลังรักษาตัวอยู่ได้ด้วยเหมือนกัน

ขณะที่เธอกำลังคิดไม่ตกอยู่นั้น เบียงก้าก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างจากข้างนอก

มันคือเสียงของรถยนต์ที่ขับเข้ามาในสนามหญ้าหน้าคฤหาสน์

เธอได้แต่สงสัยว่าใครกันที่กลับดึกขนาดนี้ 'ลุคกลับมาแล้วงั้นเหรอ? หรือจะเป็นหลุยส์? ’

หลังจากเวลาผ่านไปราวห้านาที ก็มีเสียงเท้าเดินขึ้นมาชั้นบน เสียงนั้นฟังดูสงบเงียบแต่ก็ทรงพลัง

ทันใด ประตูก็เปิดออก เบียงก้าที่มุดอยู่ใต้ผ้าห่มจึงรู้ว่าเป็นลุคที่กลับมา

เสียงฝีเท้านั้นใกล้เข้ามาแล้ว ถึงเบียงก้าจะอยู่ใต้ผ้าห่ม แต่เธอก็ได้กลิ่นลมหายใจของเขา

ชายคนนั้นค่อย ๆ เลิกผ้าห่มที่คลุมยันศีรษะของเธอออก ใบหน้าของเธอถูกเผยแก่สายตาของเขา

เบียงก้ากลัวว่าเขาจะรู้ว่าเธอยังไม่หลับ และกลัวยิ่งกว่าว่าเขาจะเห็นขนตาที่สั่นระริกของเธอ

แม้ตอนนี้จะมืด แต่เมื่อต้องเผชิญหน้าเขาเพียงลำพัง เธอก็อดประหม่าไม่ได้เสมอ

ลุควางถุงที่เขาถือลงที่ใต้เตียงของเธอ

ในขณะนั้นเบียงก้าพลิกตัวและเอาแขนปิดใบหน้าของตัวเอง เธออยู่ในท่านอนเดียวกับที่เธอเคยทำมาก่อน

กริยาที่เธอแสดงออกดูค่อนข้างไม่เป็นธรรมชาติ เธออยากให้เขาคิดว่าเธอเพียงแค่พลิกตัวไปมาขณะหลับเท่านั้น แต่กลับแบไต๋อย่างชัดเจนว่าเธอแค่แกล้งหลับ เธอกลัวว่าเขาจะสังเกตเห็น จึงเอาแขนปิดหน้าที่อาจข่มอารมณ์ไว้ไม่อยู่แทน

ลุคเอนตัวลงบนเตียง เขาใช้มือข้างหนึ่งยันเอาไว้เตียงเอาไว้ ในขณะที่มืออีกข้างแตะผมยุ่ง ๆ ของเธอ และกระซิบที่ข้างหูของเธอ “ผมเอาเสื้อผ้ากับชุดชั้นในมาให้ อย่าลืมเปลี่ยนไปใส่พรุ่งนี้เช้าล่ะ”

เสียงแหบพร่าอันแสนเย้ายวนของเขาดังก้องอยู่ในหูของเธอในกลางดึก ทำให้ร่างกายของเธอชาหนึบ

ในค่ำคืนเช่นนี้ อารมณ์ที่พรั่งพรูของทั้งสองฝ่ายอาจแรงกล้ากว่าเดิมได้มากนัก ลึก ๆ แล้วเบียงก้ารู้ว่าเธอไม่ควรมีความรู้สึกแบบนี้ เธอจะต้องพาปู่ออกไปพรุ่งนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

การตัดความสัมพันธ์นั้นอยู่เพียงแค่เอื้อมมือออกไป

เขาพูดเองว่าเขาจะปล่อยเธอไปก็ต่อเมื่อเธอแต่งงานแล้ว ดังนั้นเธอจะทำงานให้หนักขึ้น ระหว่างที่เธอทำงาน เธอก็จะดูแลทั้งปู่และพ่อไปพร้อม ๆ กัน แล้วค่อยหาใครสักคนมาแต่งงานด้วย

ไม่อย่างนั้น หากเธอยังต่อความยาวสาวความยืดกับเขา คงไม่พ้นว่าจะต้องเจ็บปวดกันทั้งคู่

อย่าได้คิดไปเล่นกับไฟเด็ดขาด เพราะมีแต่จะถูกมันเผาผลาญจนเหลือแต่เถ้าธุลี เบียงก้ารู้ดีว่าเธอต้องคอยระวังทั้งความรู้สึกของครอบครัวและความรู้สึกของเขา

เมื่อเบียงก้าเอาแขนปิดหน้า เธอแอบกัดริมฝีปากของตัวเอง ขณะที่ขนตาชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตา เขาโน้มตัวเข้าหาเธออีกครั้ง ลมหายใจของเขาเป่ารดใบหน้าของเธอ

เขาอยู่ในกริยานั้นเนิ่นนานราวกับรอคอยมันมาเป็นชาติ จนในที่สุด เขาก็จูบเธอ

ริมฝีปากที่ชุ่มชื่นและเย็นเยียบของชายคนนั้นอยู่บนใบหน้าของเธอราวครึ่งนาทีก่อนจะจากไป

เธอได้ยินเสียงหายใจฮึดฮัดของเขาอย่างชัดเจน

“ราตรีสวัสดิ์” ลุคพึมพำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

เบียงก้าได้ยินเสียงเขาเดินจากไป เธอได้ยินเสียงเขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นอนลงแล้วลุกขึ้นมาใหม่ โดยที่ไม่รู้ว่าเขากำลังมองหาอะไรอยู่ แต่จู่ ๆ เขาก็ยืนอยู่ข้างเตียงของเธอ

เมื่อเธอลืมตาขึ้น ราวกับเธอกำลังมองดูภาพนิ่งอยู่อย่างไรอย่างนั้น

เธอไม่รู้ว่าเขาหลับไปจริงหรือไม่ คืนนั้นเธอเหนื่อยมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่กล้าหลับใหลหรือหายใจตามปกติด้วยซ้ำ...

เมื่อเวลาผ่านไปค่อนคืน ในที่สุด เธอก็ผล็อยหลับไปด้วยความเพลีย

เบียงก้าตื่นนอนเวลาประมาณเจ็ดโมงเช้า

เมื่อลุกจากเตียง เธอก็เห็นว่าลุคไม่ได้อยู่บนเตียงของเขา ก่อนจะได้ยินเสียงของปู่ที่ค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเตียง “ลุคออกไปวิ่งตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ”

เบียงก้าพยักหน้าและลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตา

หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอก็เดินไปที่เตียงของปู่พร้อมน้ำหนึ่งแก้ว เธอก็รวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยออกไป "ปู่คะ เป็นอย่างไรบ้าง? วันนี้เราจะกลับบ้านหรือไปโรงพยาบาลกันดีคะ? "

เมื่อพูดจบ เธอพยายามยิ้มอย่างดีที่สุดเพื่อไม่ให้ปู่คิดอะไรไปไกล

ปู่เหลือบมองเธอ “ทำไมจู่ ๆ หลานถึงพูดแบบนั้นล่ะ? รอยยิ้มก็หลานก็ดูไม่จริงเอาเสียเลยด้วย”

เบียงก้ารู้สึกอายเล็กน้อยจากการถูกปู่จับได้

เบียงก้านั่งข้างปู่ที่สุขภาพร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงของเธอ แล้วอธิบายอย่างใจดี “หนูกับลุคยังไม่ได้แต่งงานกัน หนูว่ามันคงไม่เหมาะที่เราจะอยู่ที่นี่นานเกินไป ถ้าแค่วันสองวันคงไม่เป็นไร แต่ถ้าเราอยู่นานกว่านี้ คนอื่นจะคิดกับเรายังไงล่ะคะ? ”

ในตอนที่เบียงก้าพูดอย่างนั้น ลึกลงไปแล้ว เธอกังวลมากว่าปู่จะรู้สึกไม่สบายใจ เธอกลัวว่าปู่ครอว์ฟอร์ดจะโกรธถ้าเขารู้ว่าเธอพูดเรื่องนี้ เขาอาจจะโกรธที่รู้ว่าทั้งสองคนรู้สึกเหมือนเป็นคนนอก

แต่ถึงอย่างนั้น ในความเป็นจริงแล้ว มันคงดีหากผู้หญิงส่วนใหญ่จะคิดแบบนั้น

เมื่อปู่เห็นว่าหลานสาวจริงจังขนาดนี้ ก็ดูเหมือนเขาจะไม่มีสิทธิจะโต้แย้งอะไร ครั้นเมื่อพิจารณาดูแล้ว ชายแก่ยอมรับเหตุผลเหล่านั้นแล้วพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย “วันนี้ปู่จะกลับบ้านกับหลาน ส่วนโรงพยาบาล...เราไม่ต้องไปก็ได้”

“ตกลงค่ะ ปู่ว่ายังไงหนูว่าตามค่ะ” เบียงก้ายิ้มทันที

“น้าบี ผมซื้อแพนเค้กมาให้ครับ!” บลองช์สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขาสั้นสีเหลืองสดใส และรองเท้าผ้าใบอาดิดาสสีขาวคู่ขณะที่เขาวิ่งเข้ามาหา

ในขณะเดียวกัน ก็มีชายคนหนึ่งเดินตามหลังเด็กชายตัวน้อยมาด้วย

ลุคเหลือบมองคู่ปู่หลาน เขาสังเกตเห็นว่าใบหน้าของคนเป็นหลานนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่สดใสและอบอุ่นมาก หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ มุมปากขยับขึ้นยิ้มตามสัญชาตญาณ

เมื่อเธอหันมามอง เขาก็ซ่อนรอยยิ้มลับ ๆ ของตัวเองทันที

ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นแข็งทื่อราวกับภูเขาน้ำแข็งอย่างเคย เขาเดินไปอาบน้ำในห้องน้ำ

“น้าบี รีบกินตอนที่ยังร้อนอยู่สิครับ” เด็กชายตัวน้อยถือแพนเค้กไว้ในมือ ขณะมองเบียงก้าอย่างตื่นเต้น

หลังจากที่เบียงก้าเจรจากับปู่ได้สำเร็จ เธอก็อารมณ์ดี มือของเธอเอื้อมไปหยิบแพนเค้กรูปกระต่ายน้อยขึ้นมาชิ้นหนึ่งแล้วเอ่ยถาม "ลานี่กินข้าวยังจ้ะ? "

“กินแล้วครับ” บลองช์พยักหน้าแล้วตอบ เขามีดวงตาโตสีดำเป็นประกายราวกับองุ่นดำ “คุณพ่อบอกว่ารถขายอาหารไม่ค่อยสะอาด เรนนี่กับผมไม่เคยลองกินอะไรแบบนี้มาก่อนเลยสักครั้ง แต่วันนี้พ่อซื้อมาให้เราลองกิน แถมเขายังให้ผมเอากลับมาฝากน้าบีด้วย”

เมื่อเบียงก้ากัดแพนเค้กเข้าไปคำหนึ่ง เธอก็รู้สึกประทับใจไม่น้อย เขาให้เด็ก ๆ นำสิ่งนี้มาให้เธออย่างนั้นเหรอ?

ลุคกำลังอาบน้ำ โดยมีน้ำไหลผ่านร่างกายที่แข็งแรงของเขาก่อนมันจะตกลงสู่พื้น

เช้าวันนั้น ณ ร้านขายแพนเค้ก เด็กผู้ชายคนหนึ่งทำให้แฟนสาวของเขาโกรธ ดังนั้นเมื่อพวกเขากำลังวิ่งตอนเช้า เพื่อเป็นการงอนง้อ ชายหนุ่มจึงยอมซื้อแพนเค้กรูปกระต่ายให้เธอ

เด็กสาวคนนั้นถึงยิ้มออกและเตือนแฟนหนุ่มอย่างโกรธเคืองว่าเขาจะต้องไม่ทำให้เธอโกรธอีกต่อไป

'เบียงก้าชอบแพนเค้กรูปกระต่ายด้วยรึเปล่านะ?'

เมื่อออกมาจากห้องอาบน้ำ เขาเห็นแต่ลูกชายที่มึนงง คุณปู่กับเบียงก้าไม่อยู่แล้ว

"พวกเขาไปไหนกันแล้วล่ะ?" เขาถามลูกชายที่ยืนอยู่ด้วยความไม่เข้าใจ

เด็กชายตัวน้อยทำหน้าบึ้ง นิ้วของเขาชี้ออกไป “พวกเขาไปแล้วครับ”

ลุครีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงไปด้านล่าง ใบหน้าของเขาดูเคร่งขรึม ร่างกายเย็นชาและน่ากลัวอย่างที่สุด เมื่อลงมาถึงชั้นล่าง ลุคคว้าแขนของเบียงก้าไว้ แล้วสั่งคนที่กำลังพยุงชายอาวุโสขึ้นแท็กซี่ว่า “พาเขาไปที่รถของฉัน”

สาวใช้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตามคำสั่งนั้น

เบียงก้าระงับอารมณ์ เธอต้องทนกับความเจ็บปวดบนข้อมือ และกระซิบกับเขา “อย่าทำแบบนี้สิคะ ทุกคนกำลังมองเราอยู่ แล้วอีกอย่างฉันขอให้เพื่อนร่วมรุ่นแนะนำผู้ชายให้แล้วด้วย ฉันจะไปเจอเขาบ่ายนี้ วันนี้ฉันลางานไปแล้ว จะไม่เข้าออฟฟิศด้วย”

หลังจากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นมองเขา ก็เห็นความโกรธปรากฏขึ้นในดวงตาคู่นั้น เบียงก้าเลือกที่จะราดน้ำมันลงกองไฟอีกครั้ง “ถ้าเราเข้ากันได้ดี ฉันคิดว่าฉันอาจจะแต่งงานกับเขาเร็ว ๆ นี้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก