ลุคหยิบเสื้อชั้นในสีขาวและกางเกงในสีขาวลายการ์ตูนให้เธอ
ณ คฤหาสน์ครอว์ฟอร์ดในตอนนั้น ปู่นอนหลับอยู่ในห้อง เสียงจากการหายใจของเขาฟังดูหนักแน่นกว่าคนวัยหนุ่ม ในขณะที่ทุกอย่างเงียบสนิทจนได้ยินเสียงหัวใจเต้น
เบียงก้าได้แต่พลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ
เธอไม่รู้ว่าจะคิดหาวิธีเกลี้ยกล่อมปู่ให้ออกจากที่นี่ในวันพรุ่งนี้ได้อย่างไร
หลังย้ายออกจากที่นี่ไปแล้ว เธอควรพาคุณปู่ไปอยู่ที่บ้านหรือที่โรงพยาบาลดีล่ะ?
ถ้าเธอจะพาเขาไปโรงพยาบาล เธอจะพาไปโรงพยาบาลไหนดี? เธอไม่อาจพาปู่ไปโรงพยาบาลเดียวกับที่พ่อกำลังรักษาตัวอยู่ได้ด้วยเหมือนกัน
ขณะที่เธอกำลังคิดไม่ตกอยู่นั้น เบียงก้าก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างจากข้างนอก
มันคือเสียงของรถยนต์ที่ขับเข้ามาในสนามหญ้าหน้าคฤหาสน์
เธอได้แต่สงสัยว่าใครกันที่กลับดึกขนาดนี้ 'ลุคกลับมาแล้วงั้นเหรอ? หรือจะเป็นหลุยส์? ’
หลังจากเวลาผ่านไปราวห้านาที ก็มีเสียงเท้าเดินขึ้นมาชั้นบน เสียงนั้นฟังดูสงบเงียบแต่ก็ทรงพลัง
ทันใด ประตูก็เปิดออก เบียงก้าที่มุดอยู่ใต้ผ้าห่มจึงรู้ว่าเป็นลุคที่กลับมา
เสียงฝีเท้านั้นใกล้เข้ามาแล้ว ถึงเบียงก้าจะอยู่ใต้ผ้าห่ม แต่เธอก็ได้กลิ่นลมหายใจของเขา
ชายคนนั้นค่อย ๆ เลิกผ้าห่มที่คลุมยันศีรษะของเธอออก ใบหน้าของเธอถูกเผยแก่สายตาของเขา
เบียงก้ากลัวว่าเขาจะรู้ว่าเธอยังไม่หลับ และกลัวยิ่งกว่าว่าเขาจะเห็นขนตาที่สั่นระริกของเธอ
แม้ตอนนี้จะมืด แต่เมื่อต้องเผชิญหน้าเขาเพียงลำพัง เธอก็อดประหม่าไม่ได้เสมอ
ลุควางถุงที่เขาถือลงที่ใต้เตียงของเธอ
ในขณะนั้นเบียงก้าพลิกตัวและเอาแขนปิดใบหน้าของตัวเอง เธออยู่ในท่านอนเดียวกับที่เธอเคยทำมาก่อน
กริยาที่เธอแสดงออกดูค่อนข้างไม่เป็นธรรมชาติ เธออยากให้เขาคิดว่าเธอเพียงแค่พลิกตัวไปมาขณะหลับเท่านั้น แต่กลับแบไต๋อย่างชัดเจนว่าเธอแค่แกล้งหลับ เธอกลัวว่าเขาจะสังเกตเห็น จึงเอาแขนปิดหน้าที่อาจข่มอารมณ์ไว้ไม่อยู่แทน
ลุคเอนตัวลงบนเตียง เขาใช้มือข้างหนึ่งยันเอาไว้เตียงเอาไว้ ในขณะที่มืออีกข้างแตะผมยุ่ง ๆ ของเธอ และกระซิบที่ข้างหูของเธอ “ผมเอาเสื้อผ้ากับชุดชั้นในมาให้ อย่าลืมเปลี่ยนไปใส่พรุ่งนี้เช้าล่ะ”
เสียงแหบพร่าอันแสนเย้ายวนของเขาดังก้องอยู่ในหูของเธอในกลางดึก ทำให้ร่างกายของเธอชาหนึบ
ในค่ำคืนเช่นนี้ อารมณ์ที่พรั่งพรูของทั้งสองฝ่ายอาจแรงกล้ากว่าเดิมได้มากนัก ลึก ๆ แล้วเบียงก้ารู้ว่าเธอไม่ควรมีความรู้สึกแบบนี้ เธอจะต้องพาปู่ออกไปพรุ่งนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
การตัดความสัมพันธ์นั้นอยู่เพียงแค่เอื้อมมือออกไป
เขาพูดเองว่าเขาจะปล่อยเธอไปก็ต่อเมื่อเธอแต่งงานแล้ว ดังนั้นเธอจะทำงานให้หนักขึ้น ระหว่างที่เธอทำงาน เธอก็จะดูแลทั้งปู่และพ่อไปพร้อม ๆ กัน แล้วค่อยหาใครสักคนมาแต่งงานด้วย
ไม่อย่างนั้น หากเธอยังต่อความยาวสาวความยืดกับเขา คงไม่พ้นว่าจะต้องเจ็บปวดกันทั้งคู่
อย่าได้คิดไปเล่นกับไฟเด็ดขาด เพราะมีแต่จะถูกมันเผาผลาญจนเหลือแต่เถ้าธุลี เบียงก้ารู้ดีว่าเธอต้องคอยระวังทั้งความรู้สึกของครอบครัวและความรู้สึกของเขา
เมื่อเบียงก้าเอาแขนปิดหน้า เธอแอบกัดริมฝีปากของตัวเอง ขณะที่ขนตาชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตา เขาโน้มตัวเข้าหาเธออีกครั้ง ลมหายใจของเขาเป่ารดใบหน้าของเธอ
เขาอยู่ในกริยานั้นเนิ่นนานราวกับรอคอยมันมาเป็นชาติ จนในที่สุด เขาก็จูบเธอ
ริมฝีปากที่ชุ่มชื่นและเย็นเยียบของชายคนนั้นอยู่บนใบหน้าของเธอราวครึ่งนาทีก่อนจะจากไป
เธอได้ยินเสียงหายใจฮึดฮัดของเขาอย่างชัดเจน
“ราตรีสวัสดิ์” ลุคพึมพำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
เบียงก้าได้ยินเสียงเขาเดินจากไป เธอได้ยินเสียงเขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นอนลงแล้วลุกขึ้นมาใหม่ โดยที่ไม่รู้ว่าเขากำลังมองหาอะไรอยู่ แต่จู่ ๆ เขาก็ยืนอยู่ข้างเตียงของเธอ
เมื่อเธอลืมตาขึ้น ราวกับเธอกำลังมองดูภาพนิ่งอยู่อย่างไรอย่างนั้น
เธอไม่รู้ว่าเขาหลับไปจริงหรือไม่ คืนนั้นเธอเหนื่อยมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่กล้าหลับใหลหรือหายใจตามปกติด้วยซ้ำ...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก