“อุบัติเหตุเหรอคะ? เกิดอะไรขึ้น?” น้ำเสียงของเบียงก้าเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว
“นายน้อย… นายน้อยบอกว่าเขาจะกระโดดลงจากชั้นสามค่ะ… เขาไม่อยากอยู่อีกต่อไปแล้ว!” สาวใช้อ้อนวอนเธอ "คุณเบียงก้า มาช่วยทีนะคะ!"
เบียงก้ากล่าว "ให้ฉันคุยกับเขาหน่อยค่ะ"
สาวใช้เอ่ยเรียกลานี่
ในตอนที่เบียงก้าเดินออกจากละแวกบ้าน พี่เลี้ยงก็พูดมาในโทรศัพท์อีกครั้ง “คุณหนูไม่ยอมคุยกับคุณค่ะ เขาบอกว่าเขาต้องเจอคุณตัวเป็น ๆ เท่านั้น”
“ไม่ต้องห่วงนะคะ เขาไม่โดดหรอกค่ะ”เบียงก้าเอ่ยปลอบพี่เลี้ยงที่กำลังตระหนัก “ฉันเคยได้ยินเรื่องเด็กนักเรียนที่กระโดดฆ่าตัวตายเพราะสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ผ่าน แล้วก็เคยได้ยินเรื่องที่ผู้ใหญ่กระโดดฆ่าตัวตายมามาก แต่ก็ไม่เคยได้ยินเรื่องที่เด็กเล็กอย่างเขาจะกระโดดลงมาก่อนเลย”
เมื่อสาวใช้ได้ยินสิ่งที่เบียงก้าพูด เธอก็ตอบกลับทันที “คุณเบียงก้าคะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะขึ้นไปหานายน้อยอีกรอบนะคะ”
เบียงก้าตอบรับ
“ถ้าเด็ก ๆ สร้างปัญหาอีก ให้โทรหาพ่อของเขา ไม่ก็คุณย่า ไม่ก็ปู่ หรือไม่ก็อาของเขานะคะ...”
เขามีญาติอีกหลายคนที่สาวใช้จะโทรหาได้
เธอเพิ่งพาปู่ออกจากคฤหาสน์ครอว์ฟอร์ดได้แท้ ๆ เพียงแค่เรื่องของเด็ก ๆ ไม่เพียงพอจะให้เธอกล้าเสี่ยงเข้าไป…
ณ คฤหาสน์ครอว์ฟอร์ด
เมื่อบลองช์ได้ยินคำพูดจากปากของสาวใช้ เขาก็พูดด้วยความโกรธขณะยืนอยู่ข้างหน้าต่าง “น้าบีไม่สนใจเหรอว่าผมจะอยู่หรือตาย?”
“ไม่ใช่ว่าเธอไม่สนใจว่าคุณหนูจะอยู่หรือตายหรอกค่ะ แค่...” สาวใช้เพิ่งตระหนักถึงความไร้สาระของเรื่องราวนี้ ใครจะไปเชื่อลงว่าเด็กจะกระโดดตึก?
นอกจากนี้ นายน้อยไม่ใช่เด็กกำพร้าที่ไร้พ่อขาดแม่เสียหน่อย ครอบครัวของเขาน่าจะเป็นผู้รับผิดชอบความปลอดภัยของเขาเองสิ
บลองช์ถอนหายใจออกด้วยความโมโห
ในขณะนั้น หลุยส์ลงไปชั้นล่างและเห็นว่าหลานชายของเขากำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ เขาเอ่ยถามอย่างไม่ใส่ใจนัก “หลานทำอะไรอยู่? ไม่ไปเรียนรึไง?”
“ผมปิดเทอมฤดูร้อนอยู่ครับ...” บลองช์เหลือบมองอาโดยปราศจากคำพูดและส่อแววเหยียดหยาม
หลุยส์กล่าวอย่างร่าเริง “ในเมื่ออยู่ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ทำไมหลานไม่ออกไปเล่นข้างนอกล่ะ ยืนริมหน้าต่างเป็นงานอดิเรกของหลานเหรอ? ดูวิวมันสนุกนักเหรอ?”
…
อีกด้านหนึ่งเบียงก้ามาถึงสถานีรถไฟใต้ดิน ก่อนที่เธอจะเข้าไปในนั้น โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้ไม่ใช่เบอร์โทรศัพท์บ้าน หากแต่เป็นเบอร์โทรศัพท์ที่เธอไม่รู้จัก
เบียงก้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรับสาย “สวัสดีค่ะ เบียงก้าพูดค่ะ”
“คุณเบียงก้าคะ! ฉันเป็นสาวใช้ที่ทำงานกับครอบครัวครอว์ฟอร์ดนะคะ! ฉันเป็นคนโทรหาคุณเมื่อกี้นี้เอง! คุณหนูกำลังจะกระโดดจากตึกจริง ๆ นะคะ! ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ฉันจะให้คุณดูด้วยตาตัวเอง!”
หลังจากได้ยินสิ่งที่พี่เลี้ยงพูด เบียงก้ายกโทรศัพท์ออกจากหู เมื่อก้มลงมองโทรศัพท์บนหน้าจอปรากฏให้เห็นว่าบลองช์กำลังนั่งอยู่ที่ขอบหน้าต่างชั้นสาม
ร่างเล็ก ๆของเขานั่งอยู่บนขอบหน้าต่างบานใหญ่
เนื่องจากขอบหน้าต่างบาง เด็กจึงไม่สามารถนั่งบนนั้นได้พอเหมาะ ร่างของเขาสั่นเทา เขาหันหลังไปทางสวนที่อยู่ชั้นล่าง
แม้ว่ามันจะเป็นสนามหญ้า แต่มันก็เป็นพื้นแข็ง
หากไม่ระวัง ลานี่อาจจะตกลงไป ถ้าเป็นอย่างนั้นแขนขาเล็ก ๆ ของเขาคงจะไม่สามารถขยับได้อีกครั้งแน่
“อย่าเข้ามาใกล้ผม ไม่งั้นผมจะโดดจริง ๆ ด้วย...” เด็กชายร้องไห้พลางตะโกนออกมา
“ได้ค่ะ ฉันจะไม่เข้าไปใกล้นายน้อยเลย ฉันจะไม่ทำอย่างนั้น” สาวใช้เอ่ยถามเบียงก้าผ่านวิดีโอคอล "ฉันควรทำยังไงดีคะ? ฉันแค่ทำตามหน้าที่เท่านั้น ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับนายน้อย แม้แต่ชีวิตฉันก็ชดใช้ให้พวกเขาไม่ได้!”
“มีผู้ใหญ่คนไหนอยู่ที่บ้านรึเปล่าคะ?” เบียงก้าขมวดคิ้วและถามเสียงดัง
สาวใช้ส่ายศีรษะ “ไม่มีเลยค่ะ พอคุณไป ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดก็ออกไปดื่มชากับเพื่อนเก่า ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมถึงติดต่อพวกเขาไม่ได้ ยิ่งกว่านั้นคือนายน้อยต้องการพบคุณคนเดียวเท่านั้นค่ะคุณเบียงก้า”
“ส่งโทรศัพท์ให้เขาทีค่ะ ฉันจะคุยกับเขาเอง” เบียงก้าประนีประนอม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก