พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 116

เบียงก้าไปรับประทานอาหารกลางวันกับซูที่โรงอาหารของพนักงาน

อีวอนน์มาถึงที่ทำงานหลังจากที่พวกเธอรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“ต้องขอโทษด้วยค่ะ พอดีว่าเมื่อวานนี้ฉันได้ซื้อเน็กไทเอาไว้ให้แฟน เมื่อเช้านี้ฉันก็เลยไปส่งของขวัญให้กับเขามา แต่ฉันดันเจอรถติดระหว่างทางมาบริษัทน่ะค่ะ” อีวอนน์กล่าวกับเพื่อนร่วมงานในขณะที่เธอนั่งลงด้วยใบหน้าที่พึงพอใจ

เบียงก้าเงยหน้าขึ้นมองอีวอนน์

ซูส่งข้อความถึงเบียงก้าและถามว่า 'เรื่องราวของอีวอนน์เป็นมายังไง?’

เบียงก้าไม่ต้องการปิดบังซูเกี่ยวกับเรื่องของอีวอนน์ เธอจึงพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า 'คุณแม่ของลุค ครอว์ฟอร์ดชอบเธอและปฏิบัติต่อเธอราวกับว่าเธอเป็นลูกสะใภ้ในอนาคต แต่ฉันเองก็ไม่แน่ใจเกี่ยวกับภูมิหลังของครอบครัวเธอด้วย’

เมื่อซูได้อ่านคำตอบของเบียงก้า เธอก็เงยหน้าขึ้นมองเบียงก้าด้วยความประหลาดใจ

หลังจากที่ส่งข้อความถึงซูแล้ว เบียงก้าก็ทำงานต่อ

หลังจากนั้น ซูก็มองไปที่อีวอนน์และได้เห็นว่า เธอกำลังนั่งเล่นเล็บของเธอหลังจากที่เธอวางกระเป๋าลงแล้ว ซูครุ่นคิดกับตัวเองว่า 'เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่ดูโง่มาก แล้วคนอย่างคุณครอว์ฟอร์ด

จะสนใจเธอได้อย่างไร?’

ซูมั่นใจว่า ตราบใดที่คุณครอว์ฟอร์ดยังคงมีวิสัยทัศน์ที่ดี เขาจะไม่แต่งงานกับผู้หญิงร่ำรวยแต่โง่อย่างอีวอนน์แน่นอน

ในที่สุด ก็ถึงเวลาเลิกงาน

เป็นเวลาห้าโมงเย็น พนักงานเริ่มเดินออกจากแผนก และเดินตามหัวหน้าแผนกไปทีละคน

ซูพาเบียงก้าไปที่รถของเธอ

ในขณะที่พวกเธอกำลังคาดเข็มขัดนิรภัย ซูก็เหลือบมองออกไปภายนอกหน้าต่าง “ฉันคิดว่าถ้าเราไม่รีบไปตอนนี้ อีวอนน์จะต้องเดินเข้ามาคุยกับเราแน่ ไม่ใช่กับฉันนะ แต่กับเธอต่างหาก”

เบียงก้ามองออกไปนอกหน้าต่าง

มันเป็นความจริงที่อีวอนน์กำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเธอ แต่เมื่อเธอเห็นเบียงก้าเข้าไปในรถของซู เธอก็ขมวดคิ้วและหันหลังกลับไปที่รถของเธอ

“เธอควรระวังและอย่าปล่อยให้ผู้หญิงรวยและมีอำนาจแบบนั้นรังแกเอาได้นะ” ซูบอกกับเบียงก้าด้วยความเป็นห่วง

เบียงก้าพยักหน้า

หลังจากที่ซูขับรถออกมาได้ไม่นาน โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น

“ว่ายังไงคะ?” ซูรับสายด้วยหูฟังบลูทูธ

“ซู เบียงก้าไปกับคุณเหรอ? คุณจอดรถก่อน เพราะสถานที่ที่เราจองเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ถูกยกเลิก เพราะคุณกิเดียนได้จองสถานที่หรูหรากว่านี้เอาไว้ให้พวกเรา ฉันจะส่งที่อยู่ใหม่ไปให้คุณนะ”

หลังจากที่หัวหน้าแผนกพูดเสร็จ ก็วางสายไป

หลังจากนั้นไม่นาน ซูก็ได้รับข้อความจากหัวหน้าแผนก

เมื่อซูเปิดดูข้อความ เธอก็ได้เห็นที่อยู่ของสถานที่ใหม่ที่หัวหน้าแผนกส่งมา พร้อมกับข้อความที่ดูอารมณ์ดี “เพื่อนร่วมงานที่สวยและรวยของเราช่างเป็นคนใจกว้างจริง ๆ มันน่าตื่นเต้นมาก! เพราะปาร์ตี้ของเราในคืนนี้ จะจัดขึ้นที่คลับส่วนตัวระดับไฮเอนด์สุดเอกซ์คลูซีฟของเมืองเลย”

ซูกลับรถที่สี่แยก

ซูเลิกคิ้วและพูดกับเบียงก้าว่า “พอไปถึงที่นั่นแล้ว สั่งเมนูที่แพงที่สุดตกลงไหม? เธอต้องทำตัวให้สนุกในเวลาที่ยอดเยี่ยมแบบนี้นะ เพราะหลังจากที่ฉันทำงานในบริษัทมาเจ็ดปี บอกได้เลยว่ามีแค่โอกาสแบบนี้เท่านั้นแหละที่โชคจะเข้าข้างคนอยางฉัน”

ซูจอดรถตอนที่มาถึงคลับส่วนตัว

แต่ละแผนกจะได้นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวของแผนกตัวเอง ดังนั้นแผนกอื่น ๆ จึงได้นั่งแยกห้องออกไป

ซูและเบียงก้าเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวของแผนก

อีวอนน์มาถึงที่ห้องส่วนตัวก่อนพวกเธอ เธอกำลังนั่งสนทนากับเพื่อนร่วมงานหญิงหลายคนในแผนก

“พวกคุณดูบริสุทธิ์และใจดีจริง ๆ ในตอนที่ฉันไปเรียนที่ต่างประเทศ ฉันได้พบกับนักขุดทองมากมาย และเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกนั้นรู้ว่าจะมีปาร์ตี้ของเด็ก ๆ ที่ร่ำรวยและมีฐานะ ก็จงใจแต่งตัวเพื่อไปยั่วเด็กหนุ่มพวกนั้น พวกเธอมักจะสวมเสื้อผ้าราคาถูก แถมกระเป๋าก็ยังเป็นของปลอมอีก” อีวอนน์จิบน้ำก่อนที่เธอจะพูดต่อ “แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งเรื่องของพวกนั้นเลย”

เพื่อนร่วมงานหญิงพูดกับเธอว่า “คุณวอนน์ คุณช่างเป็นคนที่มีจิตใจดี ถ้าเป็นฉันนะ ฉันจะเปิดโปงพวกเธอเพื่อให้พวกเธอรู้สึกอับอายกับการกระทำของตัวเองแล้วแหละ”

อีวอนน์ยิ้มอย่างนุ่มนวลและพูดอย่างกระตือรือร้นว่า “ยังมีผู้หญิงอีกประเภทหนึ่ง และฉันก็คิดว่าผู้หญิงประเภทนี้รับมือได้ยากที่สุด เพราะเธอเป็นนักขุดทองที่เก่งที่สุด ที่แสร้งทำตัวเป็นผู้หญิงบ้าน ๆ ที่ชอบสวมกางเกงยีนส์และเสื้อยืดตอนไปเดินเที่ยวในย่านไฮคลาส ชอบทำตัวน่าสงสารและมักจะไม่แต่งหน้าเพราะต้องการแสดงให้เห็นว่า เธอมีความเป็นธรรมชาติมากแค่ไหน แต่ว่าก็ว่าเธอก็มักจะหลอกล่อเศรษฐีที่ไร้รสนิยมพวกนั้นได้อยู่เสมอ”

"จริงเหรอ?” ใครบางคนอุทานขึ้นมา

“ใช่แล้วล่ะ เธอมักจะเสแสร้งทำตัวเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนตลอดแหละ" ในขณะที่อีวอนน์พูด เธอก็เหลือบมองไปที่เบียงก้า

ซูที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ได้ยินสิ่งที่อีวอนน์พูด และได้เห็นสายตาของเธอที่จับจองไปทางเบียงก้า

ซูเห็นได้ชัดเจนว่าเธอกำลังหมายถึงเบียงก้า

“แต่ถ้าผู้หญิงบ้าน ๆ คนนั้นเข้าตาเศรษฐีขึ้นมา นั่นหมายความว่า เธอจะต้องเป็นผู้หญิงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเลยแหละ” ซูเดินออกมาและนั่งลงข้าง ๆ อีวอนน์อย่างกล้าหาญ

อีวอนน์พูดเยาะเย้ย “เอกลักษณ์เหรอ? คนสองคนที่มีภูมิหลังต่างกันโดยสิ้นเชิงทั้งในด้านการศึกษาและความมั่งคั่ง และสิ่งเดียวที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้หญิงคนนั้นก็คงจะมีเพียงแค่ใบหน้าสวย ๆ ของเธอเท่านั้นแหละ”

ซูไม่ยอมหยุดจนกว่าจะสามารถทำให้อีวอนน์โกรธได้ “จริง ๆ แล้วผู้หญิงในสมัยนี้ดูดีและน่าทึ่งมาก โดยเฉพาะผู้หญิงในลักษณะที่คุณพูดถึง ผู้หญิงที่ไม่แต่งหน้าแต่เธอกลับดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ฉันคิดว่าผู้หญิงประเภทนั้นหายากและเจ๋งพอตัวเลยด้วย”

ใบหน้าของอีวอนน์มืดมนลงด้วยความโกรธ!

เธอกัดฟันและปิดปากแน่น!

...

หัวหน้าแผนกของพวกเธอเป็นผู้หญิง

หลังจากได้ฟังการสนทนาของพวกเธออยู่ครู่หนึ่ง เธอก็จับใจความได้ว่ามันเป็นแค่เรื่องซุบซิบนินทา

หัวหน้าแผนกของพวกเธอตัดสินใจเพิกเฉยต่อสถานการณ์ตรงหน้า ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอจึงคิดว่า พวกเธอไม่ควรไปยั่วยุขาใหญ่อย่างอีวอนน์ ดังนั้นหัวหน้าแผนกจึงแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินในสิ่งที่พวกเธอคุยกัน

ถึงแม้ว่าอีวอนน์จะเป็นผู้หญิงงี่เง่าและไร้สมอง แต่คนงี่เง่าก็ยังเป็นมนุษย์ที่มีความรู้สึก หัวเราะและร้องไห้เป็น

ในฐานะหัวหน้าแผนก สิ่งที่เธอต้องทำคือทำให้อีวอนน์พึงพอใจและมีความสุขในการทำงาน

เธอหันกลับมามองซูและพยายามส่งสัญญาณเพื่อบอกเธอว่าอย่าทำให้อีวอนน์ขุ่นเคือง ถ้าไม่อย่างนั้น เธออาจจะกลายเป็นต้นเหตุที่ทำลายแผนกของพวกเธอลง และถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ซูจะต้องรับผิดชอบกับผลที่ตามมาทั้งหมด

“เอาละทุกคน ฟังฉันพูดหน่อย” หัวหน้าแผนกกล่าวใส่ไมโครโฟนให้ทุกคนได้ยิน

เสียงเพลงในห้องดังมากจนแทบจะไม่ได้ยิน ถ้าหากว่าพวกเขาไม่ตะโกน

“เครื่องดื่มอยู่ที่ไหน? ใครจะเป็นคนไปซื้อ?" หัวหน้าแผนกถามขึ้นเมื่อเห็นว่าแอลกอฮอล์ใกล้จะหมดแล้ว

ฌองยืนขึ้นและกล่าวว่า “ผมจัดการเอง ผมจะไปบอกให้พนักงานเสิร์ฟเอาแก้วมาให้พอกับพวกเราด้วยครับ”

หัวหน้าแผนกพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เธอชอบในความกระตือรือร้นของฌองมาก

ฌองนับจำนวนคนภายในห้องก่อนออกไป

ห้านาทีต่อมา พนักงานเสิร์ฟหลายคนก็เดินเข้ามา

พนักงานเสิร์ฟนำแก้วแชมเปญเข้ามาและแจกจ่ายให้กับทุกคน

ทุกคนได้รับแก้ว

หัวหน้าแผนกยังคงพูดต่อไป ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะให้การต้อนรับกับการมาถึงของอีวอนน์มากกว่าก็ตาม จากการพูดคุยของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าอีวอนน์ดูเหมือนจะกลายเป็นคนสำคัญของบริษัทไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องภูมิหลังของครอบครัวของเธอก็ไม่ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะ

หลังจากที่ถูกยกย่อง อีวอนน์ก็ยิ้มอย่างสง่างามผ่าเผย เธอมีแผนการที่ซ่อนอยู่ภายในใจว่าเมื่อเธอได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำและได้แต่งงานกับลุคแล้ว สิ่งแรกที่เธอจะทำคือกำจัดซูออกไป

เธอไม่ชอบใครก็ตามที่เป็นเพื่อนกับเบียงก้า

หัวหน้าแผนกแนะนำพนักงานทุกคน จากนั้น เธอก็แนะนำเบียงก้าและฌองที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม โดยเธอกล่าวว่าพวกเขามีผลงานที่ดีในการทำงาน

“เรามาดื่มให้กับทุกคนกันเถอะ” หัวหน้าแผนกยกแก้วขึ้น

จากนั้น พวกเขาก็ชนแก้วและยกดื่ม

หลังจากที่หัวหน้าแผนกดื่มเสร็จ เธอก็หัวเราะและกล่าวชื่นชมอีวอนน์อีกครั้ง "ขอให้ทุกคนสนุกให้เต็มที่! และฉันก็อยากจะขอบคุณอีวอนน์อีกครั้งสำหรับอาหารมื้อดี ๆ แบบนี้"

...

อีกด้านหนึ่ง

ณ คฤหาสน์ครอว์ฟอร์ด

ที่โต๊ะอาหารค่ำ หลุยส์ได้ตรวจสอบสถานการณ์เกี่ยวกับลุคและบีอย่างละเอียด เขาจึงเตือนลุคเบา ๆ ว่า “ฉันได้ยินมาว่า คืนนี้ที่แผนกออกแบบมีปาร์ตี้และก็มีดื่มสังสรรค์กันด้วย นายไม่กลัวว่าบีจะดื่มมากเกินไปและถูกเจ้าบ้าฌองนั่นเอาเปรียบเธอเหรอ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก