พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 118

ชายหนุ่มในรถอาร์วีอยู่ในชุดสูทสีดำและเสื้อเชิ้ตสีขาว เขานั่งอยู่บนเบาะทรางโซฟาสีเทาเข้ม ซึ่งด้านหน้าของเขา มีแล็ปท็อปวางอยู่ นั่นหมายความว่าเขากำลังทำงานอยู่

เขากำลังจดจ่ออยู่กับการจ้องมองหน้าจอที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เขาพูดกับลูกชายด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ถ้าลูกไม่เข้าไป เราจะกลับก็ได้นะ”

เมื่อบลองช์ได้ยินเช่นนั้น เขาจึงรีบคว้าที่ต้นขาของเจสันทันที “คุณลุงเจสัน เราเข้าไปกันเถอะ”

เจสันยิ้มและลูบหัวเด็กชายเบา ๆ

รถอาร์วีจอดอยู่ในพื้นที่ห้ามจอด

การออกแบบภายนอกของรถอาร์วีให้ความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยเป็นอย่างยิ่ง พนักงานที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูของคลับเฮาส์ก็ไม่กล้าแม้แต่ที่จะมองเข้าไปภายในรถ

รถคันอื่น ๆ ที่หยุดอยู่ที่ด้านหลังของรถเบนท์ลี่ย์อาร์วีสีดำไม่สามารถขับผ่านไปได้ เนื่องจากว่ารถอาร์วีจอดขวางประตูทางเข้า ดังนั้น พวกเขาจะต้องหยุดรถที่ด้านหลังและเปิดประตูให้เจ้านายของพวกเขาลง หลังจากนั้นคนขับก็ต้องขับเบี่ยงออกไป

ในขณะนั้น ผู้บริหารของคลับเฮาส์ก็ลงมาดูรถอาร์วีสีดำด้วยตัวเอง เขาได้เห็นหมายเลขทะเบียนรถที่ดูสะดุดตา แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่รู้ว่ามีใครอยู่ด้านใน

เมื่อพวกเขามองดูรถอาร์วีที่จอดอยู่ที่นั่น พวกเขาก็ตัดสินใจว่า พวกเขาไม่ควรจะเข้าไปยุ่งกับผู้ที่อยู่ภายในรถจะดีกว่า

ภายในรถ ลุคยังคงจ้องมองหน้าจอภายในแล็ปท็อป ถึงแม้ว่าดวงตาของเขาจะจับจ้องไปที่หน้าจอ แต่หัวใจของเขากลับอยู่ที่อื่น

สันกรามและใบหน้าที่เคร่งขรึมแสดงให้เห็นลักษณะของผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ ราวกับนักธุรกิจที่กำลังจดจ่ออยู่กับการทำงานในยามค่ำคืน คิ้วที่แข็งทื่อซึ่งดูไม่ผ่อนคลายก็ได้เปลี่ยนจากความเฉยเมยเป็นความบึ้งตึงในทันใด

หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุด ใบหน้าของเขาก็เคลื่อนไหว เขายกมือขึ้นมาและเหลือบมองดูนาฬิกาด้วยท่าทางที่เย็นชา

เจสันเข้าไปข้างใน 20 นาทีแล้ว

แต่จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่พาเบียงก้าออกมา

ณ ชั้นบน ภายในคลับเฮาส์

ฌองสบถคำหยาบคายออกมาอย่างเป็นกังวล

เขาได้ค้นหาทุกซอกทุกมุมแต่ก็ยังไม่พบเบียงก้า

ในเวลานั้น โทรศัพท์ของเขาก็ได้รับข้อความจากเพื่อนในกลุ่ม

'เพื่อนยาก ทำกันแบบนี้เหรอ? นี่มันไม่ยุติธรรมเลย ฉันให้นายยืมภรรยาของฉัน แต่เมื่อถึงตาฉันที่จะได้ลิ้มรสแฟนเก่าของนายกลับมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นอย่างนั้นเหรอ?’

'นายเห็นข้อความรึเปล่า? คริสต์ ตอบฉันหน่อยเถอะ’

'ถ้านายไม่ตอบ นายอย่าโทษถ้าหากว่าฉันจะไล่นายออกจากกลุ่ม! ฉันไม่เคยเจอใครที่เบี้ยวนัดแบบนายมาก่อน!'

หลังจากอ่านข้อความเหล่านั้นแล้ว ฌองก็ตอบว่า 'ฉันขอโทษ ฉันไม่คิดว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้ ฉันคลาดสายตาจากเธอไปแค่แป๊บเดียว แต่แล้วเธอก็หายไป’

อีกด้านของข้อความตอบกลับมาว่า ‘ถามคนอื่นดูสิ! บริษัทของนายน่าจะมีพนักงานตั้งหลายร้อยคน แต่นายกลับถามใครไม่ได้เลยอย่างนั้นเหรอ?’

ฌองตอบกลับ 'ฉันจะถามได้ยังไง? นี่พี่ชาย ชีวิตของฉันยังคงต้องพึ่งพางานนี้อยู่นะ และนี่ก็เป็นบริษัทชั้นนำแห่งเดียวในประเทศที่ยอดเยี่ยมสำหรับวิชาเอกของฉัน ช่วยเข้าใจด้วยว่าฉันมาจากไหน โอเค? ฉันกำลังหาตามอยู่!'

บุคคลนั้นตอบกลับ 'เข้าใจว่านายมาจากไหนเหรอ? ใช่ ฉันจะเข้าใจเลยว่านายมาจากไหน แต่นายเข้าใจฉันไหม? ฉันกินไวอากร้าเข้าไปแล้ว และถ้าฉันไม่ทำอะไรกับมันเร็ว ๆ นี้ เลือดร้อนอาจจะพุ่งออกมาจากคนเลว ๆ อย่างฉันก็ได้’

ฌองตอบกลับ 'รอหน่อยนะ'

ในขณะนั้น อีวอนน์ที่มีท่าทางงัวเงียก็ปรากฏตัวขึ้นจากมุมห้องพร้อมกับถ้วยกาแฟในมือ

เมื่ออีวอนน์เดินออกจากห้องน้ำมา เธอก็มีท่าทางสะลึมสะลือ ดวงตาของเธอคล้ำเล็กน้อยราวกับว่าเธอตื่นนอนทั้งคืนแต่เนื่องจากว่าคืนนี้เป็นงานเลี้ยงของแผนก ดังนั้น เธอจึงจะต้องอดทนต่อความเหน็ดเหนื่อยต่อหน้าเพื่อนร่วมงานของเธอ

ถึงแม้ว่าเธอจะได้ดื่มกาแฟ แต่เธอก็ยังคงรู้สึกเหนื่อยล้าและง่วงนอนมากขึ้น

เมื่อฌองมองเห็นอีวอนน์ที่กำลังเดินอยู่ด้วยท่าทางที่อ่อนล้า เขาจึงรีบเข้าไปช่วยเธอ “คุณไหวรึเปล่า?”

กาแฟหกใส่เสื้อของเธอจนทำให้เกิดคราบ

"อ่าว?" อีวอนน์เงยหน้าขึ้น เธอพิงร่างของเธอลงบนผนัง เมื่อเธอมองไปข้าง ๆ เธอก็ได้เห็นฌอง เพื่อนร่วมงานชายของเธอที่พยุงตัวเธอเอาไว้ เธอส่ายหน้าด้วยดวงตาที่เหนื่อยล้า "ฉันไม่เป็นอะไร"

ราวกับว่าพลังงานสุดท้ายในร่างกายของเธอถูกใช้หมดหลังจากที่พูดจบ จากนั้น ร่างกายที่อ่อนนุ่มของเธอก็ตกลงสู่อ้อมแขนของฌอง

ฌองรู้สึกราวกับว่า เขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

เมื่อเพื่อนในกลุ่มแชทของเขาต้องการผู้หญิงอย่างหน้ามืดตามัว ดังนั้น เขาควรจะวางยาเบียงก้าและส่งเธอไปให้เพื่อนของเขา

เขาคิดว่ายานอนหลับจะปลอดภัยกว่ายาปลุกกำหนัดพวกนั้น เนื่องจากเป็นสถานการณ์ที่ไม่เสียงมากนัก ดังนั้น ฌองจึงเต็มใจทำ

เนื่องจากว่าหลังจากที่ได้รับอันตรายเพราะมาลีก่อนหน้านี้ เบียงก้าจึงระมัดระวังตัวมากขึ้น และถ้าหากเขาจงใจยื่นแก้วไวน์ให้เธอโดยตรง เธอจะต้องไม่ดื่มอย่างแน่นอน เธอต้องสงสัยว่าเขาอาจจะทำอะไรบางอย่างกับมันอย่างแน่นอน

ดังนั้น เขาจึงต้องวางแผนให้รอบคอบและโยนตาข่ายให้กว้างขึ้นโดยไม่ได้วางยาในแก้วเพียงแค่แก้วเดียว

ฌองคิดไม่ถึงว่า ผู้ที่ติดอยู่ในตาข่ายของเขาจะรวมอีวอนน์ที่มาจากครอบครัวที่มีอิทธิพลอยู่ด้วย

เขาเริ่มเป็นกังวลและลังเลว่า เขาควรจะทำยังไงกับอีวอนน์ดี

เมื่อเขาครุ่นคิดว่าเขาจะส่งเธอไปยังพื้นที่เลานจ์ของห้องส่วนตัว เขาก็กังวลว่าเพื่อนร่วมงานอาจจะไม่เชื่อว่าเธอผล็อยหลับไปอย่างเป็นธรรมชาติ

เพราะเพื่อนร่วมงานของเขาเพิ่งจะเริ่มดื่มด้วยกันและมันก็ไม่สมเหตุสมผลที่อีวอนน์จะเมาด้วยไวน์เพียงแค่ไม่กี่แก้ว

ฌองกวาดสายตาไปรอบ ๆ เนื่องจากว่าเขาหมดหนทางในการตามหาเบียงก้า และเขาเองก็ยังต้องการลิ้มรสภรรยาของเพื่อนเขาอยู่ ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจส่งอีวอนน์ไปให้เพื่อนของเขาแทน

ถึงแม้ว่าอีวอนน์จะไม่สวยอย่างเป็นธรรมชาติเหมือนดั่งเบียงก้าและดูไม่เหมือนสาวบริสุทธิ์ แต่อย่างน้อย เธอก็ยังดูดีเพราะการแต่งหน้า

ฌองประคองอีวอนน์ขึ้นมา เขากลัวว่าผู้คนที่เดินผ่านไปมาจะเกิดความสงสัย ดังนั้น เขาจึงแสร้งพูดกับเธอที่หมดสติไปในขณะที่เขาเดินไปยังห้องส่วนตัวของเพื่อนของเขาภายในคลับเฮาส์ ”ผมบอกคุณแล้วยังไงว่าอย่าดื่มมากเกินไปทำไมคุณไม่ฟังผมเลย นี่ถ้าผมไม่มารับคุณ จะเกิดอะไรขึ้น?”

เพื่อนของเขากำลังรออย่างใจจดใจจ่ออยู่ภายในห้องส่วนตัว ในขณะที่เขานุ่งผ้าขนหนูเพียงแค่ผืนเดียว เมื่อเขาได้รับข้อความจากฌองและได้เห็นรูปของหญิงสาว เขาก็ดึงผ้าเช็ดตัวโยนทิ้งลงบนพื้นอย่างโกรธเคือง

อีกด้านหนึ่งของคลับเฮาส์

หลังจากที่ซูตามหาเบียงก้าเป็นเวลานาน เธอก็ชี้ไปที่ห้องน้ำด้านหน้าและพูดว่า “คุณรออยู่ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวฉันจะเข้าไปดูในห้องน้ำหญิง"

เจสันยืนรออยู่ที่ด้านนอกพร้อมกับลูก ๆ ของเจ้านาย

“น้าบีจะต้องไม่เป็นอะไร” เรนนี่พูดกับลานี่

ก่อนที่เจสันจะมายังคลับเฮาส์ เขาได้โทรหาซูก่อนหน้านี้

เมื่อเธอเห็นเจสัน ซูจึงรีบออกมาจากห้องส่วนตัวของแผนกทันที เธอเองก็ไม่รู้ว่าเบียงก้าหายไปไหน และเธอก็เป็นห่วงเบียงก้ามากเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงออกไปตามหาเบียงก้ารอบ ๆ คลับเฮาส์ แต่ก็ยังไม่พบเธอ

เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนั้น เจสันเองก็กังวลมากเช่นกัน

ถึงแม้ว่าเจ้านายของเขาจะไม่แสดงท่าทางความเป็นกังวลออกมา แต่เจสันก็รู้ดีว่าทำไมคุณครอว์ฟอร์ดถึงได้มากับพวกเขา ถึงแม้ว่าเจ้านายของเขาจะไม่เข้ามาข้างในและเอาแต่นั่งรออยู่ในรถ แต่เจสันก็รู้ดีว่าเจ้านายของเขาต้องการได้เห็นกับตาตัวเองว่าเบียงก้าจะปลอดภัย

ก่อนหน้านี้ เจสันได้แนะนำให้ซูคอยสังเกตการณ์เบียงก้าเพื่อความปลอดภัยของเธอ ต่อมาซูก็ได้สังเกตเห็นว่าพนักงานหลายคนไม่ได้อยู่ภายในห้องรวมไปถึงฌองและอีวอนน์ด้วย

สองคนนั้นเป็นศัตรูกับเบียงก้า

ก่อนหน้านี้ซูได้โทรถามอีวอนน์เกี่ยวกับเบียงก้า แต่เธอกลับได้คำตอบที่น่าโมโหว่า “ซู ฉันไม่ใช่ทาสของพวกคุณนะ แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าเธอหายไปไหน?"

จากนั้น เธอจึงโทรหาฌองและได้คำตอบว่า “ผมไม่เห็นเธอ”

เนื่องจากทั้งสองคนไม่เห็นเบียงก้า ดังนั้น ซูจึงออกไปตามหาเพื่อนของเธอเอง

เธอกังวลว่า ถ้าหากว่าเธอไม่สามารถตามหาเบียงก้าเองได้ เจสันอาจจะทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่โดยการไปขอดูกล้องวงจรปิดจากทางคลับเฮาส์

“ฉันเจอแล้ว ฉันเจอเธอแล้ว”

ทันใดนั้น ซูก็รีบวิ่งออกมาและชี้ไปที่ห้องน้ำหญิงด้วยความตื่นตระหนก “บีหลับอยู่ในห้องน้ำ แต่ฉันเรียกเธอเท่าไหร่เธอก็ไม่ยอมตื่น มีอะไรไม่ชอบมาพากลนะ หรือว่าเธออาจแค่หน้ามืดหมดสติไป ช่วยคนเดียวลากเธอออกมาไม่ไหวหรอกค่ะ คุณดอยล์ คุณช่วยเข้าไปข้างในและพาเธอออกมาได้ไหม?”

เมื่อเจสันได้ยินที่ซูพูด เขาจึงรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาทันที

เขาไม่กล้าแตะต้องผู้หญิงของลุค

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก