พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 120

ลุคพยักหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไร

“แต่หนูก็อยากนอนกับน้าบีเหมือนกัน” เรนนี่จ้องมองพ่อของเธอและอ้อนวอนเขาด้วยดวงตาที่ไร้เดียงสา

ในสายตาของเรนนี่ พ่อของเธอมักจะเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการและเป็นผู้ใหญ่ที่เอาแต่ใจ

เมื่อบลองช์เดินไปที่ประตู เด็กชายก็ได้ยินน้องสาวบอกกับพ่อว่า เธออยากจะนอนกับน้าบีด้วย เด็กชายจึงคิดว่าน้องสาวของเขาช่างโง่เขลาและไร้เดียงสายิ่งนัก เด็กชายรู้ดีว่าพ่อของเขาจะต้องไม่อนุญาตอย่างแน่นอน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องเป็นของเขาคนเดียว รวมไปถึงน้าบีด้วยเช่นกัน

“ลานี่ พาน้องกลับไปที่ห้อง” ลุคมักจะเข้มงวดกับลูกชายของเขาอยู่เสมอ ในขณะที่เขาปฏิบัติกับลูกสาวอ่อนโยนกว่าเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงสั่งบลองช์แทน

บลองช์เดินเข้ามาคว้าข้อมือของน้องสาวและบอกกับเธอว่า "มาเถอะ กลับห้องไปนอนกันเถอะ”

หลังจากที่ลูกชายพาลูกสาวของเขาออกจากห้องนอนไปด้วยท่าทางที่ไม่พอใจเล็กน้อย ลุคก็ถอดเสื้อสูทออก จากนั้นเขาก็หันกลับมาจ้องมองหญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงของเขาอย่างตั้งใจ

ที่ห้องของเด็ก ๆ

“ไปอาบน้ำเถอะ พี่จะรออยู่ข้างนอก” เมื่อบลองช์ปรับอุณหภูมิของน้ำแล้ว เขาก็ผลักน้องสาวของเขาเข้าไปในห้องน้ำ จากนั้นเขาก็เดินออกไป

ไม่ว่าบลองช์และเรนนี่จะอยู่ที่คฤหาสน์หรือที่อพาร์ตเมนต์ใหม่ เด็กทั้งสองก็ยังสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ที่ห้องของพวกเขา มีห้องน้ำสำหรับเด็กซึ่งปลอดภัยและใช้งานง่าย

ดังนั้น เด็กชายและน้องสาวของเขาจึงสามารถทำอะไรหลายอย่างได้ด้วยตัวเอง รวมไปถึงการอาบน้ำด้วยเช่นกัน

สิบนาทีต่อมา เรนนี่ก็อาบน้ำเสร็จเรียบร้อย เธอเช็ดผมด้วยผ้าขนหนูการ์ตูนสีชมพูและเดินเข้าไปหาพี่ชายและบอกให้เขาช่วยเป่าผมให้เธอ

บลองช์เป่าผมให้เรนนี่จนแห้ง

ก่อนเข้านอน เรนนี่นึกขึ้นได้ว่าเธอต้องโทรหาคุณอาหลุยส์

คุณอาหลุยส์บอกให้เธอโทรหาเขาในตอนกลางคืน

ภายในห้องของพวกเขามีโทรศัพท์อยู่ เรนนี่จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดหมายเลขสิบเอ็ดหลักอย่างเชื่องช้าด้วยนิ้วมือเล็ก ๆ ของเธอ

"สวัสดีครับ?" หลุยส์รับสาย

“คุณอาหลุยส์ เรนนี่พูดนะคะ...”

“เรนนี่เหรอ? หลานอยู่กับพ่อของหลานรึเปล่า? แล้วพ่อของหลานตามหาน้าบีเจอไหม?”

“เจอแล้ว แต่หนูไม่รู้ว่าทำไมน้าบีถึงได้หลับไป พวกเราเรียกน้าบีเท่าไหร่ น้าบีก็ไม่ยอมตื่น ตอนนี้น้าบีหลับอยู่ในห้องนอนของคุณพ่อ และเมื่อกี้คุณหมอก็ได้มาดูอาการของน้าบีแล้วค่ะ” เรนนี่บอกอาของเธออย่างละเอียด

หลุยส์ครุ่นคิดกับตัวเอง เขาเดาได้ว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอ

แต่เมื่อเด็ก ๆ บอกว่าหมอได้มาดูอาการของเบียงก้าและกลับไปแล้ว นั่นก็หมายความว่าบีจะต้องปลอดภัยแล้ว

“เอาละ อาเข้าใจแล้ว หลานกับพี่ชายหลานอย่านอนดึก เข้าใจไหม?” หลุยส์กำลังจะวางสาย

“แต่มือของน้าบีเย็นมาก หนูอยากไปนอนกับน้าบี หนูอยากกุมมือน้าบี น้าบีจะได้อุ่นขึ้น แต่ว่าคุณพ่อไม่ให้ไป” เรนนี่พึมพำต่อ “คุณพ่อบอกว่าคุณพ่อจะนอนกับน้าบี แต่หนูจะเชื่อได้ยังไงว่าคุณพ่อจะดูแลน้าบีเป็นอย่างดี?”

เมื่อหลุยส์ได้ฟังสิ่งที่หลานสาวพูด เขาก็หัวเราะดังลั่น “ทำไมพ่อของหลานจะดูแลน้าบีได้ไม่ดีล่ะ? ถ้ามือของน้าบีเย็น เดี๋ยวพ่อหลานก็ทำให้อุ่นเองแหละ!”

เมื่อหลุยส์รู้ว่าหลานสาวตัวน้อยของเขาต้องการอะไร เขาก็รีบพูดแทนลุคและพยายามชี้แจงให้เธอเข้าใจ "หลานไม่อยากให้พ่อของหลานแต่งงานกับน้าบีและให้เธอมาเป็นแม่หรอกเหรอ?"

"อยากค่ะ" เรนนี่พยักหน้า

“ถ้าอย่างนั้นหลานก็ไม่ควรจะไปนอนกับน้าบีและพ่อของหลานอีกนะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปหลานจะต้องสวดมนต์ทุกคืนก่อนนอนเหมือนที่อาทำ เพื่อให้พวกเขาทั้งคู่ได้นอนด้วยกันให้เร็วที่สุด” หลุยส์ชี้แจงจนหลานสาวตัวน้อยของเขาเข้าใจหลังจากที่วางสายไป เธอก็ยิ้มหวานและผล็อยหลับไป

ภายในห้องนอนของลุค

ลุคเข้าไปในห้องน้ำและเติมน้ำร้อนลงในอ่างล้างมือ จากนั้นเขาก็จุ่มผ้าเช็ดตัวสีขาวลงในอ่างโดยไม่สนใจว่าน้ำจะร้อนเกินไปสำหรับมือเขารึเปล่า และหยิบขึ้นมาบิดให้พอเปียกหมาด ๆ

จากนั้นเขาก็กลับเข้ามาในห้องนอน เขาใช้ผ้าขนหนูเช็ดที่แก้ม หน้าผาก และลำคอที่ดูซีดเซียวของเธออย่างระมัดระวัง

ในขณะที่ทำความสะอาดร่างกายให้เธอ เขาก็เปิดคอเสื้อของเธอขึ้นเล็กน้อย

เมื่อลุคมองลงมาที่ร่างกายของเธอ ดวงตาของเขาก็เหลือบไปเห็นหน้าอกที่ขาวราวกับยอดเขาหิมะที่กำลังสั่นเทาเพราะการหายใจของเธอ

เขาเช็ดตัวให้เธอทุกตารางนิ้ว

จากนั้น ลุคก็ถอดเสื้อผ้าของเธอออกแล้วนำไปไว้ในห้องน้ำ

ค่ำคืนล่วงเลยไป

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ลุคก็เดินไปที่ห้องของบลองช์และเรนนี่ เมื่อเขาเห็นว่าเด็ก ๆ นอนหลับสบาย เขาก็ปิดไฟภายในห้องนั่งเล่น จากนั้นเขาก็กลับไปที่ห้องนอนและล็อกประตู

เบียงก้าอยู่ในชุดนอนสีดำและมีแถบสีเทาอ่อนของผู้ชาย

หลังจากที่ลุคสวมชุดนอนให้เธอแล้ว เขาก็ปล่อยให้เธอนอนตะแคงข้างโดยหันหน้าไปทางซ้าย

ลุคนอนอยู่ทางด้านขวาของเตียงที่ใหญ่โต ด้วยวิธีนี้ เขาจะสามารถหลีกเลี่ยงการได้มองเห็นใบหน้าที่ชวนให้หลงใหลของเธอได้ เขาเกรงว่าเขาจะทำอะไรบางอย่างที่เขาไม่ควรทำลงไป เพราะเขารู้ดีว่าตัวเองเป็นคนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งชีวิต

หลังจากพลิกตัวไปมาอยู่นาน ลุคก็ยังนอนไม่หลับ เขาเหลือบมองไปที่เบียงก้าซึ่งนอนอยู่บนเตียงกับเขา

ผมสีดำนุ่มสลวยของหญิงสาวกระจัดกระจายอยู่บนหมอนที่เขาเคยหนุน กลิ่นหอมของร่างกายที่อ่อนนุ่มและสง่างามส่งผ่านชุดนอนของเขา มันช่างดึงดูดสายตาของเขายิ่งนัก

ลุคขยับเข้าไปใกล้เธอมากขึ้น จากนั้นเขาก็ดึงเธอเข้ามาและโอบกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน เขาวางศีรษะของเธอลงบนไหล่กว้างของเขา

เมื่อมือใหญ่ของเขาสัมผัสเข้ากับผิวอันบอบบางของหญิงสาว ลมหายใจของเขาก็แรงยิ่งขึ้น จนในที่สุด เขาก็พลิกร่างของเธอเข้าหาเขาและมองไปที่ใบหน้าที่ซีดขาวแต่ดูสวยงามโดยปราศจากเครื่องสำอางของเธอ

ริมฝีปากของเธอซีดขาวแต่ดูเอิบอิ่มในเวลานั้น ลุคก้มศีรษะลงและกดริมฝีปากของเขาแนบลงกับเธอ

ในไม่ช้า ริมฝีปากที่เหือดแห้งของเธอก็ค่อย ๆ ชุ่มชื่น

ลุคเริ่มสัมผัสเข้าไปภายในช่องปากของเธอมากขึ้น

เมื่อเขาจูบเธอจนร่างกายของเขาร้อนรุ่มแล้ว เขาก็ตัดสินใจจู่โจมเธอทันที เขาจูบเธออย่างบ้าคลั่งราวกับว่าเขากำลังกลืนกินความหวานจากส่วนที่ลึกที่สุดของปากเธอ

เบียงก้าไม่สามารถรับรู้ถึงการกระทำเหล่านั้นได้เลย จนกระทั่งฤทธิ์ของยานอนหลับค่อย ๆ หมดไปในเวลาตีสี่ของเช้าวันถัดมา

หลังจากที่ฟื้นคืนสติ เธอก็รู้สึกแน่นในช่องท้องส่วนล่าง เมื่อลืมตาและมองลงมา เธอก็ได้เห็นมือใหญ่คู่หนึ่งที่กำลังโอบกอดเธอ

เนื่องจากผ้าม่านไม่ได้ถูกดึงลงมา เธอจึงมองเห็นเส้นขอบฟ้าสีขาวเมื่อเธอเงยหน้าขึ้น

ทิวทัศน์ภายในห้องช่างคุ้นตาเหลือเกิน อพาร์ตเมนต์ที่ลุคซื้อเอาไว้ในย่านใจกลางเมืองที่พลุกพล่าน

ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้?

เธอพยายามนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้

เมื่อคืนนี้มีงานเลี้ยงแผนกของบริษัท เธอดื่มเบียร์เข้าไปเพียงแค่ขวดเดียว จากนั้นเธอก็ออกไปเข้าห้องน้ำ อีวอนน์ไล่ตามเธอไปและทำให้เธออับอาย แล้ว…แล้วก็…

เธอจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น

ในเวลานี้ เธอผลักมือใหญ่ที่โอบกอดเธอเอาไว้ออก จากนั้น เบียงก้าก็ลุกขึ้นนั่งด้วยความหวาดกลัวที่มองเห็นได้ชัดบนใบหน้าของเธอ เธอมองไปยังชายที่อยู่ข้าง ๆ ในทันใด แต่ในไม่ช้า ชายผู้นั้นก็ตื่นขึ้นจากการเคลื่อนไหวของเธอ

"คุณตื่นแล้วนิ" ลุครีบลุกขึ้นราวกับว่าเขาไม่ได้หลับไป จากนั้นเขาก็สวมรองเท้าอยู่บ้านและเดินไปรินน้ำและดื่มหมดแก้ว

เมื่อคืนนี้ เขาจูบเธอนานเกินไปจนลิ้นของเขารู้สึกแห้งเหือด

หลังจากที่ดื่มน้ำแล้ว ลุคก็รินน้ำอีกแก้วแล้วเดินมายื่นให้กับเธอ

ทั้งคู่สวมชุดนอนที่คล้ายคลึงกัน ชุดนอนที่ทำมาจากผ้าผืนบางที่มีสีเข้มนั้นทำให้ลุคดูน่าหลงใหล

ในขณะที่เบียงก้าที่เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อยู่ในชุดนอนสีเข้มของผู้ชาย และไม่ว่าใครก็ตามที่ได้เห็นเธออยู่ในชุดนั้น พวกเขาจะต้องอยากเอื้อมมือออกไปหยิกและบีบแก้มเธออย่างแน่นอน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก