ลุคได้ยินลูกชายพึมพำเสียงดังนอกห้องน้ำ รวมทั้งคำว่า ‘ยาการคุมกำเนิดฉุกเฉิน’
เขาหยิบกล่องที่เขียนว่ายาคุมกำเนิดฉุกเฉินจากมือลูกชาย ลุคมองไปที่กล่องยาสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ในมือ เขาผละสายตาไปมองบริเวณแขนที่โดนเบียงก้าปักมีดเข้ามาเมื่อวันก่อน
เขาแตะต้องเธอจริง นั่นเป็นเพียงการระบายความโกรธแค้นเท่านั้น แต่ท้ายที่สุดเขาก็ทำสิ่งนั้นไม่ลง
บลองช์และเรนนี่อาบน้ำแต่งตัว แล้วไปที่โถงทางเดิน จากนั้นย่อตัวลงเพื่อสวมรองเท้า พวกกำลังรอพ่อออกไปรับประทานอาหารเช้าด้วยกันอย่างว่าง่าย
เจสันยืนรออยู่ข้างรถเบนท์ลี่ย์สีดำด้านล่างเป็นเวลานาน
เนื่องจากเจ้านายได้รับบาดเจ็บบริเวณแขน เจสันจึงต้องรับผิดชอบดูแลทุกอย่างในฐานะผู้ช่วยแทน
แม้ว่าลุคจะเจ็บแขนอยู่ข้างหนึ่ง แต่เขาก็ยังสามารถอุ้มลูกสาวเดินออกมาได้ เจสันเปิดประตูรถให้เจ้านายพร้อมกับลูกสาวในอ้อมแขนเข้าไปด้านใน
หลังจากรถขับออกไปได้ไม่นาน เจสันก็สังเกตเห็นรถวิ่งตามหลังเขามา
“เดี๋ยวค่อยคุยกันตอนที่ถึงร้านแพนเค้กแล้ว” ลุคมีเครื่องแล็ปท็อปอยู่ด้านหน้า เขากำลังสะสางทำงานค้างจากเมื่อวานให้เสร็จ
เจสันฟังคำสั่งของเจ้านายและเพิกเฉยต่อผู้สะกดรอยตามด้านหลัง
พวกเขามาถึงร้านแพนเค้กแสนอร่อย สุดโปรดปรานของทั้งสองฝาแฝด
ลุคลงจากรถ มือข้างหนึ่งจับมือลูกชายและอีกข้างก็จับมือลูกสาวไว้ เมื่อเดินเข้าไปในร้าน เจ้าของร้านแพนเค้กจำพวกเขาได้ทันที พร้อมยิ้มให้อย่างจริงใจก่อนเปิดประตูต้อนรับครอบครัวนี้
เจสันจอดรถและเดินเข้าร้านไปหลังจากเจ้านายของตนเข้าไป
ในรถโฟล์คสวาเก้นกอล์ฟสีขาวที่อยู่ห่างจากร้านไปหลายสิบเมตร คนขับกำลังเล่นโทรศัพท์อยู่ และผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อยนั่งอยู่เบาะหลังของรถพร้อมกล้องถ่ายภาพในมือ เธอกำลังกดถ่ายภาพในทิศทางของร้านขายแพนเค้ก
เจสันก้มลงเคาะกระจกรถพลางเอ่ยถาม “กำลังทำอะไรอยู่เหรอครับ?”
ทั้งปาปารัสซี่หญิงและคนขับต่างตกตะลึง ทั้งสองมัวแต่สนใจลุค ครอว์ฟอร์ดและลูก ๆ โดยลืมเรื่องคนอื่นไปโดยสิ้นเชิง
“ลงมาจากรถ ไม่งั้นผมจะแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้แหละ” เจสันพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม ไม่ได้ดูเหมือนกำลังล้อเล่นอยู่เลย
ทั้งปาปารัสซี่สาวและคนขับก็ลงจากรถ
คนขับรถไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนั้น เพราะเขาเป็นแค่คนขับรถธรรมดา ๆ ที่ได้รับการว่าจ้างจากสำนักข่าวแห่งหนึ่ง แต่เขาทำงานกับปาปารัสซี่มามากพอจนคิดว่าพวกเขาเป็นเพื่อนร่วมงานและเพื่อนฝูงกันไปเสียแล้ว
“ใจเย็น ๆ ก่อนครับ ใจเย็น ๆ ก่อน ไม่ต้องทำโหดกับผู้หญิงขนาดนั้นก็ได้” คนขับยิ้มและก้าวไปข้างหน้าเพื่อรับหน้าแทนในกรณีที่ชายคนนี้กำลังจะทุบตีเธอ
การถูกจับได้ว่าแอบถ่ายรูปอยู่นี้ช่างเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยจริง ๆ
คนที่ร่ำรวยและมีอำนาจบางคนมักจะคว้ากล้องที่ใช้ถ่ายไป จากนั้นก็ขยี้มันให้แหละคามือในทันที สำหรับคนหัวร้อนง่ายเป็นทุนเดิม นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะแหกปากโวยวายและมีปัญหากับพวกตน
“ไม่ทราบว่ามาจากนิตยสารไหน?” เจสันถาม
ปาปารัสซี่หญิงกล่าวว่า “นิว แม็คกาซีนค่ะ ฉันแน่ใจว่าคุณไม่น่าจะเคยได้ยินชื่อนี้มากก่อน วันนี้ฉันได้รับอนุญาตให้ถ่ายรูปคุณครอว์ฟอร์ดแล้ว”
เจสันขมวดคิ้วเพราะไม่เข้าใจว่าเธอได้รับอนุญาตเรื่องอะไรและได้รับอนุญาตจากใคร
นักข่าวสาวหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรออก
“ซาเวียร์คะ ฉันมาถ่ายรูปลูกพี่ลูกน้องคุณ แต่มีผู้ชายมาอ้างว่าเป็นผู้ช่วยของลูกพี่ลูกน้องคุณ… ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะส่งมือถือให้เขาคุย...” ปาปารัซซีสาวยื่นโทรศัพท์ให้เจสัน
เจสันรับโทรศัพท์ไว้
เสียงของซาเวียร์แหบเล็กน้อยราวกับว่าเพิ่งตื่นนอน “ไง ฉันชื่อซาเวียร์ แทนเนอร์ พ่อฉันเป็นคุณลุงของลุค ว่าง่าย ๆ ฉันกับเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน อย่าเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับแม่ปาปารัสซีสาวคนนั้นเลยนะ เดี๋ยวฉันจะโทรไปอธิบายกับลุคเอง ดังนั้นนายไม่ต้องกังวลไป”
"แล้วเจอกัน" ซาเวียร์พูดจบ เขาวางสาย และโยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะข้างเตียงในโรงแรม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก