“อ๊าา! ช่วยด้วย! ช่วยฉันด้วย!”
เมื่อเห็นกองเลือดนองเต็มเตียง เธอจึงร้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจและเจ็บปวด
ซาเวียร์สวมชุดสูทที่ถูกรีดมาอย่างประณีตซึ่งผู้ช่วยส่งมาให้ในตอนเช้า เขาจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบและกดโทรออก เขาเผยรอยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ผมหวังว่าคุณคงเข้าใจลูกพี่ลูกน้องของผมนะ ตอนที่อยู่ในคุก พี่ชายของเธอ เขาดีกับผมมาก หลังจากที่ออกมาแล้ว ผมยังไม่ได้ทำอะไรตอบแทนเขาเลย แต่เดี๋ยวก่อนนะ ผมรู้สึกเหมือนกับว่าน้องสาวของหลานทำอะไรที่เลวร้ายลงไปมาก ๆ เลยแหละ”
มาลีซึ่งยืนอยู่บนกองเลือดกำลังมองดูชายคนนั้นอยู่ เขาไม่สนใจไยดีเธอหรือแม้แต่กองเลือดนั่นเลยด้วยซ้ำ เขาแค่คุยกับใครสักคนทางโทรศัพท์ จากนั้นก็เปิดประตูและออกจากห้องไป
มาลีหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอด้วยความตื่นตระหนกและพบว่าโทรศัพท์นั้นปิดเครื่องอยู่
เธอเปิดโทรศัพท์และโทรหา 911
ในขณะนั้นเอง ประตูที่ปิดอยู่ก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง ผู้หญิงกับผู้ชายสองคนเดินเข้ามา
คนนั้นคือเลขาสาวซึ่งทำหน้าที่บริการตรงทางเข้าคลับเฮาส์ เมื่อคืนนี้ เธอเข้าใจผิดคิดว่ามาลีเป็นคนที่กำลังหามา เธอจึงส่งตัวมาลีไปให้กับซาเวียร์ เลขาสาวจ้องมองเตียงนองเลือดด้วยสายตาที่เย็นชา และสั่งชายฉกรรจสองคนที่มากับเธอ “พาหล่อนไปแต่งตัวและลากไปขึ้นรถซะ”
ชายทั้งสองเดินไปหามาลีทันที
"คิดจะทำอะไรน่ะ?" มาลีต้องการหนีไปซ่อน
เลขาสาวประกาศก้อง “ถ้าไม่อยากตาย ก็ทำตามที่ฉันบอกซะ ฉันสามารถทำให้เธอนอนเน่าตายอยู่ในโรงแรมนี้ได้ และไม่มีใครมาเจอหรือแม้แต่ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของเธอได้อีกเลย”
มาลีรู้สึกหวาดกลัว เธอกุมท้องน้อยที่เจ็บปวดด้วยมือทั้งสองโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็ถูกพาขึ้นรถไปพร้อมใบหน้าที่ซีดเซียว
ณ โรงพยาบาล
มาลีได้รับยาสลบและเข้ารับการผ่าตัด
หลังจากที่เธอออกจากการผ่าตัดและยาสลบหมดฤทธิ แพทย์บอกกับมาลีว่าเด็กในครรภ์ไม่อยู่กับเธอแล้ว
“ฉันควรแจ้งคู่หมั้นของคุณดีไหม?” คำถามที่เลขาสาวคนนี้เอ่ยถามทำให้หัวใจเธอรับรู้ถึงเรื่องที่น่าตื่นตระหนกอีกหนึ่งเรื่องได้
มาลีนอนอยู่บนเตียงอย่างอ่อนแรง เธอเจ็บบริเวณท้องน้อยมาก แต่สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวที่สุดคือคำชี้แจงอันไร้ปรานีของแพทย์ว่าเธอจะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีกเพราะว่าเธอไม่ดูแลเนื้อดูแลตัวเองให้ดีเท่าที่ควร
เมื่อฌองและแอนนามาถึง ฌองก็ดูเงียบกว่าผู้เป็นแม่ผู้ตื่นตระหนกราวกับโลกกำลังจะแตก
ถ้าฌองเต็มใจที่จะทำตามข้อเสนอของเพื่อนในอินเทอร์เน็ตผู้นั้น และทำตามคำแนะของแม่สาวทรงใหญ่คนนั้นที่ว่าให้ส่งตัวมาลีไปให้กับชายคนอื่นเสีย นั่นหมายความว่าในกรณีนี้ เขาก็จะไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบอะไรเลย
เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับมาลีเลย ดังนั้นฌองจึงไม่สนว่าเธอจะนอกใจ เพราะเขานอกใจเธอเช่นกัน
เมื่อแอนนาเข้าไปในห้อง เธอรีบปรี่ตัวเข้าไปตบหน้ามาลีฉาดใหญ่
เพี๊ยะ!
มาลีที่เพิ่งเคลิ้มหลับไปสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด
มาลีผู้อ่อนเพลียหันมามองค้อนใส่แอนนา “นางบ้านี่ กินยาลืมเขย่าขวดรึไง?”
แอนนาตบหน้าเธออีกครั้ง การตบปากอันอวบอิ่มนั้นยังไม่สาแก่ใจพอ เธอเหนื่อยหอบและตบหน้ามาลีต่อด้วยกระเป๋าถือของตน
“นางผู้หญิงไร้ยางอาย! แกไปมั่วกับคนอื่น แถมยังฆ่าหลานชายของฉันอีก!” แอนนาด่าทอพร้อมน้ำตา เธอใจสลายที่หลานชายเสียชีวิต สิ่งมีชีวิตน้อย ๆ จากโลกใบนี้ไปเพียงเพราะความโง่เง่าของแม่ตนเอง
และฉับพลัน แอนนาก็รู้สึกเสียใจกับความโง่เง่าของตนที่เสียรู้ไปดาวน์บ้านให้นางผู้หญิงไม่รู้จักพอคนนี้ได้
...
ณ บริษัท ที คอร์ปอเรชั่น
เมื่อได้รับโทรศัพท์จากแม่ของตน นีน่าจึงรีบตรงดิ่งไปยังห้องพักพนักงาน
หลังจากที่นีน่าอยู่ในที่ลับตาคน เธอขมวดคิ้วและพูดปลอบแม่ว่า “เอาละแม่ เด็กน้อยไปดีแล้ว แม่อย่าร้องไห้อีกเลยนะคะ มองเรื่องนี้เป็นบทเรียนนะแม่นะ? ยังไง เราทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว”
“หลานชายของฉัน!”
“หลานชายแม่?” นีน่าพูดไม่ออก “ไม่ใช่ว่าหนูจะดูถูกพี่หรอกนะ แต่แม่แน่ใจได้ยังไงว่าเด็กในท้องนั้นเป็นลูกของพี่จริง ๆ”
ณ โรงพยาบาล แอนนาถือกระเป๋าถืออยู่ในมือ เธอกำลังเดินไปที่ป้ายรถเมล์ ทันใดนั้นเธอก็คิดขึ้นได้หลังจากได้ฟังที่ลูกสาวพูด
สิ่งที่ลูกสาวเธอพูดนั้นดูสอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เธอเกิดความเคลือบแคลงใจขึ้นมาว่าเด็กในท้องนั่นเป็นลูกของฌองหรือไม่
หลังจากขึ้นรถเมล์แล้ว แอนนาก็ยังไม่สามารถยอมความจริงได้ ดวงตายังคงแดงเพราะร้องไห้ และเธอก็คิดทบทวนกับตัวเองว่าหลังจากนี้สองวัน เธอจะต้องไปบีบคอนางผู้หญิงคนนั้นให้คืนเงินดาวน์บ้านมาให้หมด
รถบัสเริ่มชะลอก่อนจะหยุดตรงไฟแดงข้างถนน มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่กำลังจัดงานบางอย่าง
บนรถเมล์ หญิงวัยกลางคนกำลังคุยกันสนุกปาก
"ที่นั่นน่ะขายกระดาษทิชชูอย่างถูกเลยแหละเธอ! ม้วนหนึ่งแค่สองดอลลาร์เองเหรอ? พูดจริงเหรอเนี้ย"
“มีป้ายโฆษณารองเท้าคู่นี้ด้วยนะเธอ ฉันลองไปกับลูกสาวเมื่ออาทิตย์ก่อน 200 ดอลลาร์นี้เรียกว่าลดราคาแล้วนะ แต่ตอนนี้ เหลือแค่ 80 ดอลลาร์เองเธอเอ๋ย”
แอนนาละสายตามองออกไปด้านนอก
เมื่อมองออกไป เธอเห็นคนที่หน้าตาคุ้นเคยยืนอยู่หน้าห้างสรรพสินค้า
เธอกำลังแจกใบปลิวอยู่
"เดี๋ยวก่อนค่ะ! รอก่อน! ฉันต้องลงแล้วค่ะ!" แอนนาเพิกเฉยต่อคนขับรถซึ่งบอกเธอว่านี่ไม่ใช่ป้ายรถเมล์ แต่ตอนนี้เราอยู่สี่แยกไฟแดง เธอรีบร้อนพุ่งตัวออกมาจากรถเมล์
หลังจากลงจากรถ แอนนาก็ค่อย ๆ เดินอย่างเงียบ ๆ เธอจ้องมองคนแจกใบปลิวอยู่นานสองนาน เธอมั่นใจว่านั่นคือเบียงก้า
“สวัสดีค่ะ ถ้ามีเวลาว่าง รบกวนลองดูก่อนได้นะคะ” เบียงก้าแจกใบปลิวและทำตามที่เจ้านายสั่ง
แอนนายืนอยู่หลังป้ายโฆษณาพร้อมกับถ่ายรูปเบียงก้าและส่งให้กับนีน่า เธอถามลูกสาวตนเองว่าเกิดอะไรขึ้น
“มีอะไรอีกล่ะคะแม่? พ่อบีป่วยหนักแถมเงินยังมีติดกระเป๋าอยู่ไม่เท่าไหร่ ถ้าไม่หางานพิเศษทำ จะมีปัญญาอยู่รอดได้ยังไงคะแม่?”
“ก็ไม่ใช่ว่า...มีเสี่ยเลี้ยงอยู่เหรอ? ทำไมเธอถึงต้องทำขนาดนี้? หรือว่าเจ้าเสี่ยเลี้ยงนั่นมันบังคับให้เธอทำแบบนี้?” แอนนาเอ่ยถาม
"เดี๋ยวก่อนนะแม่ นางผู้หญิงปากหอยปากปูนั่นจะต้องได้รับผลกรรมชั่วของมันแน่!” นีน่ากังวลเรื่องตรรกะของแม่ “ไม่ทราบว่าจะมีคุณเสี่ยหน้าไหนไหมคะที่กล้าพอจะพาแม่หวานใจของตัวเองไปตากแดดตากลมแจกใบปลิวแบบนั้นน่ะ? แม่ไม่รู้จริง ๆ ใช่ไหมว่าครีมบำรุงผิวกระปุกเป็นร้อยเป็นพันก็กู้หนังหน้าไหม้ ๆ เพราะแดดประเทศนี้ไม่ได้หรอกนะคะ?”
แอนนามองดูเบียงก้าที่ตั้งใจแจกใบปลิวอยู่ไกล ๆ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกจุกอก เธอนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา เธอเข้าใจผิดมาตลอดคิดว่ามาลีเป็นเด็กดี และทำผิดเช่นนั้นกับลูกสะใภ้ที่กำลังตากแดดตากลมทำงานหนักเช่นนี้…
แอนนาส่งรูปถ่ายเบียงก้าตอนแจกใบปลิวให้ลูกชาย เธอเสริมว่า “ฌอง ลูกฟังคำแม่ได้ไหม? ไปเอาหนูบีกลับมาเถอะ แม่จะส่งตำแหน่งปัจจุบันของหนูบีให้ลูกนะ”
…
ณ ตึกบริษัทที คอร์ปอเรชั่น
ลุคนั่งอยู่ในห้องทำงานพร้อมแผ่รัศมีที่ดึงดูดทุกสายตาตลอดเวลางาน พอเสร็จงานก็รีบพาลูกสองคนไปบ้านลุง
หลังจากที่ซาเวียร์ออกจากคุกแล้ว ญาติพี่น้องและเพื่อน ๆ ของเขาต้องการแสดงความยินดีกับเขา จึงจัดงานเลี้ยงที่บ้านของลุงของเขา
“คุณปู่คะ...” เมื่อเจสันไปถึงบ้านแทนเนอร์ เรนนี่ลงจากรถแล้ววิ่งไปหาคุณปู่
ชายชราอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยอย่างมีความสุข
ขณะเดียวกันในสนามหลังบ้านตระกูลแทนเนอร์
ลูกของญาติบางคนกำลังหัดว่ายน้ำอยู่ในสระว่ายน้ำ ซาเวียร์สั่งให้ผู้ช่วยของตนลงไปว่ายน้ำกับเด็ก ๆ คอยดูแลและรักษาความปลอดภัยในเวลาเดียวกัน
ผู้ช่วยจะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเขาได้อย่างไร? ผู้ช่วยของเขาวางโทรศัพท์ลง ถอดเสื้อผ้าแล้วกระโดดลงไปในสระทันที!
ในขณะนั้น โทรศัพท์มือถือของผู้ช่วยก็ดังขึ้นสองครั้ง
ซาเวียร์ก้มหน้าลงไปดู เขาเห็นชื่อที่คุ้นเคยบนหน้าจอ เบียงก้า เรย์น เขาหยิบโทรศัพท์ของผู้ช่วยขึ้นมาจากพื้น และเปิดอ่านข้อความ
เพื่อนทางอินเทอร์เน็ตของเขาส่งข้อความว่า ‘เบียงก้า เรย์น ตอนนี้เธออยู่ตรงจุดนี้ ฉันเป็นคนผิดเองแหละที่ทำให้คุณไม่ได้มีอะไรกับเธอเมื่อคืน อยากไปพบเธอต้องทางเข้าห้องสรรพสินค้าด้วยตัวเองตอนนี้เลยไหมล่ะ?”
สิ่งที่แนบมาด้วยคือรูปถ่ายของเบียงก้าที่กำลังแจกใบปลิวอยู่
ซาเวียร์ส่งต่อรูปภาพไปที่โทรศัพท์ของตน เขาจดที่อยู่ของห้างไว้อย่างเงียบ ๆ แล้วลบข้อความออกจากโทรศัพท์ของผู้ช่วย
เมื่อซาเวียร์ถือกุญแจรถและกำลังจะออกจากบ้าน ลุคก็พาลูกชายเข้ามา
ซาเวียร์มองบลองช์อย่างพินิจเป็นครั้งแรก ก่อนเด็กจะอายุหนึ่งเดือน ซาเวียร์ก็ระเห็จเข้าไปนอนในลูกกรง ผ่านไปห้าปี เขาก็มองดูเด็กคนนี้อย่างใกล้ชิด ดูเหมือนเขาจะคิดว่าเด็กคนนี้ดูเหมือน... เบียงก้าจากรูปภาพเมื่อครู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก