พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 126

"ป้างั้นเหรอครับ? หมายถึงป้าไหนนะครับ?" บลองช์ถามขณะยืนอยู่ข้างคุณปู่ พลางเม้มปากอย่างไม่รู้สาเหตุ

ดวงตาของทั้งคุณปู่และคุณย่าทั้งสองเป็นประกายขึ้นในฉับพลัน

ในที่สุด พ่อหัวทึบคนนั้นก็ยอมเปิดใจสักทีสินะ? สุดท้ายเขาก็ได้คบกับผู้หญิงที่เขาชอบและกำลังจะพาเธอกลับมาพบกับทุกคนอย่างนั้นเหรอ?

น้ำตาแห่งความปลื้มปีตินองอยู่เต็มดวงตาเมื่อคู่สามีภรรยาสูงอายุมองหน้ากัน ราวกับความยากลำบากยากเย็นทั้งหมดที่ได้รับในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้รับการปลดปล่อยเสียที พวกเขาโล่งใจ ในที่สุดลูกชายของตนก็จะเป็นผู้เป็นคนขึ้นมา

หลังจากนอนในเรือนจำไม่กี่ปี ดูเหมือนว่าเวลาที่ใช้ไปในนั้นจะไม่สูญเปล่า

ในตอนแรก คุณปู่บังคับให้บลองช์โทรไป เขายังกระซิบให้บลองช์ว่าให้เปิดลำโพงเพื่อให้ทุกคนได้ยินด้วย ดังนั้นบลองช์จึงปิดลำโพงทำตามคำสั่ง

ทันทีที่เปิดลำโพง ลุงซาเวียร์ก็พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงไป เธอเป็นคุณป้าแสนสวยเลยแหละ หลานลุงจะต้องชอบเธออย่างแน่นอน”

เมื่อคู่สามีภรรยาสูงอายุได้ยินว่าลูกชายรู้สึกดีกับผู้หญิงคนนั้นถึงขั้นบอกว่าเธอสวย พวกเขารู้ว่าลูกชายอาจจะตกหลุมรักเธอมากจนชื่นชมเธอเลย

“ครับ ลุงซาเวียร์ เราจะรอกับคุณลุงกับคุณป้าสุดสวยที่นี่นะครับ” บลองช์วางสายโทรศัพท์อย่างว่าง่าย

หลังจากวางสาย คุณปู่ก็ถามอย่างตื่นเต้น “ฉะ-ฉันต้องเตรียมตัวอะไรหน่อยไหมนะ?”

"เอาเลยสิคะ"

คุณปู่บังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์ลงก่อน เขาขมวดคิ้วครุ่นคิดและเงยหน้าขึ้นบอกคุณย่าว่า “นี่จะเป็นครั้งแรกที่เธอมาเยี่ยมเรา ฉะนั้น เราต้องทำให้เธอประทับใจสินะ เร็วสิ หาของขวัญดี ๆ มาให้เธอเร็ว ถ้าหาอะไรไม่เจอ ก็ไปหยิบเอาบัตรกำนันราคาแพงมาก็ได้”

"ฉันจะไปหาของขวัญก่อนล่ะ" คุณย่าหันไปชั้นบน

คุณปู่หยุดเธออีกครั้ง "รอเดี๋ยวรอก่อนสิ"

คุณย่าหยุดฝีเท้า

“จำเอาไว้เลยนะว่า คุณห้ามวิจารณ์เรื่องใด ๆ เกี่ยวกับฐานะทางครอบครัว หน้าตา หรือบุคลิกของหญิงสาวคนนั้นเด็ดขาด เข้าใจไหม?” ปู่กลัวว่าภรรยาจะไม่พอใจและทำให้โอกาสนี้ของลูกชายพังทลายลง

“ขอแค่มีลมหายใจมา แค่นั้นก็เป็นพอแล้วแหละ” คุณย่ายิ้มและรีบขึ้นไปชั้นบน

แดเนียลไม่เคยสนใจว่าแฟนสาวของซาเวียร์จะหน้าตาเป็นเช่นไร เนื่องจากลูกชายเขามักจะจู้จี้จุกจิกเกี่ยวกับเรื่องของผู้หญิง ก่อนจะโดนคดีนั้น เป็นที่รู้กันว่าหลุยส์และเขานอนกับดาราสาวดาวรุ่งมากมาย

แดเนียลพยายามสอนลูกชายเกี่ยวกับพฤติกรรมซึ่งไร้ความรับผิดชอบเหล่านั้น แต่เหมือนพูดหูซ้ายทะลุหูขวา จนสุดท้ายเขาก็ส่งลูกชายเข้าคุกด้วยตัวเอง

จนวันหนึ่ง เขาทำได้เพียงประณามเรื่องราวในอดีตของลูกชายอย่างลับ ๆ

ในเวลาไม่ถึงสิบนาที ที่ทุกคนในคฤหาสน์ของแทนเนอร์รู้ข่าวว่าซาเวียร์จะพาแฟนสาวมาให้ทุกคนได้เจอ

ผู้ใหญ่ทุกคนในครอบครัวแทนเนอร์ต่างเฝ้าดูซาเวียร์เติบโตขึ้นมา พวกเขารู้สึกเศร้ากับวัยเด็กของซาเวียร์อยู่เสมอ ดังนั้นเมื่อรู้ว่าโชคชะตาของแดเนียลเปลี่ยนไป ทุกคนก็ล้วนมีความสุขและยินดีไปกับเขา

คุณปู่รีบเตรียมตัว

เหล่าสมาชิกระดับอาวุโสในครอบครัว ทุกคนมีเครื่องประดับที่ระลึกสองสามชิ้น แต่ส่วนใหญ่เป็นของเก่า พวกเขากังวลว่าจะไม่ใช่รสนิยมของเด็กสาว

หกปีที่แล้ว ซาเวียร์นำสร้อยคอเพชรแสนสวยกลับมาจากต่างประเทศ แม้ว่าคุณย่าจะแก่แล้ว แต่ก็ยังเป็นผู้หญิง เธอชอบมันมาก แต่สไตล์นี้เหมาะกับคนที่อายุน้อยกว่ามากกว่า

ดังนั้นคุณย่าจึงไม่เคยสวมสร้อยเพชรนั้นเลย เธอกังวลว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับตน เมื่อเธอได้รับมันจากลูกชาย เธอถึงกับพูดติดตลกกับลูกชายว่า “เมื่อลูกแต่งงานกับภรรยาในอนาคต แม่จะให้มันกับหญิงสาวคนนั้น”

นั่นคือเหตุผลที่คุณย่าเลือกสร้อยคอและตั้งใจจะมอบให้เธอ

คุณย่าจับมือญาติผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ และพูดว่า “นี่คือจุดจบของความทุกข์ยากของเธอนะ ซาเวียร์กำลังพาแฟนสาวกลับมาแนะนำให้ทุกคนที่บ้านรู้จัก คราวนี้ต้องเอาจริงเอาจังกันหน่อย”

คุณย่าแทบน้ำตาไหลออกมา “ใช่ ซาเวียร์ของฉันไม่เคยพาผู้หญิงมาบ้านให้เราได้พบเลย พวกเราเคยเห็นแค่ครั้งเดียว นั้นคือในหน้าหนังสือพิมพ์

“คราวนี้ ฉันแน่ใจว่าเธอจะต้องเป็นลูกสะใภ้ที่ดีของเธอแน่” ญาติผู้หญิงตบมือคุณย่า “ถึงเวลารองานแต่งงานของพวกเขาแล้ว ใครจะไปรู้ บางทีผู้หญิงคนนั้นอาจตั้งท้องลูกซาเวียร์แล้ว และเธอก็จะได้กอดหลานชายของเธอในปีหน้าแน่ ๆ !”

คุณย่าคิดถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นและยิ้มกว้าง

ทุกคนในคฤหาสน์รอนานกว่า 20 นาทีแล้ว

ทุกนาทีและทุก ๆ วินาที มันช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนยาวนาน และทรมานจิตใจผู้ที่รอคอยอย่างคู่สามีภรรยาสูงอายุมากนัก พวกเขาต้องการจะเห็นลูกสะใภ้ในอนาคตโดยเร็วที่สุด

เมื่อทุกคนกำลังตื่นเต้นอยู่นั้น ในที่สุด รถปอร์เช่ คาเยนน์ก็แล่นเข้ามาในคฤหาสน์ ถึงแม้คาเยนน์มาถึงที่หมายเร็วกว่าที่คาดไว้ พริบตาที่ประตูเปิดออก รถยนต์ไม่ได้ขับไปจอดอยู่ตรงที่จอดรถตามวิสัย แต่กลับไปจอดอยู่ตรงหน้าทางเข้าหลักแทน

คนรับใช้สองคนออกมาจากห้องนั่งเล่นที่ชั้นล่างของคฤหาสน์ ต่างตกตะลึงกับสถานะการที่เกิดขึ้น พวกเขาเกือบถูกรถชนและรีบวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก

แดเนียลและภรรยาของเขาก็ตกใจมากเช่นกัน

'เกิดอะไรขึ้นกัน?’

'อย่าบอกนะว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้น!'

ซาเวียร์ลงจากรถและเปิดประตูเบาะหลังอย่างคล่องแคล่ว เสื้อสูทของเขาคลุมร่างกายและใบหน้าของหญิงสาวอย่างระมัดระวัง ขณะที่เขาอุ้มเธอลงจากรถ ทุกคนในสนามหญ้าหน้าคฤหาสน์มองเห็นเพียงแต่ผมสีดำยาวและขาเรียวยาวสีซีดทั้งสองของเธอ

“ตามหมอไปที่ห้องฉันเดี๋ยว” ซาเวียร์ตะโกนใส่คนรับใช้ที่หวาดกลัว

คนรับใช้พยักหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ซาเวียร์จ้องมองเธอด้วยสีหน้าอย่างเคร่งขรึม คนใช้ก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นและโทรตามหมอทันที

แดเนียลเข้ามาถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”

“ฉัน ฉัน ฉันไม่รู้ เขาเพิ่งบอกให้ฉันโทรตามหมอ และพาไปที่ห้องของเขาค่ะ” คนรับใช้ที่ยังไม่หายใจติดขัดจากอาการผวาเอ่ยปากบอกเจ้านายตน

คุณปู่พยายามทำให้คุณยายใจเย็นลง “ไม่ต้องเป็นห่วง ๆ ผมจะขึ้นไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น”

คุณย่าพยักหน้าแต่ไม่สามารถบังคับตัวเองให้ทำตามได้ พ่อกับลูกไม่เคยเข้ากันได้ดี เขากังวลว่าพวกเขาจะเริ่มทะเลาะกัน

ทุกคนต่างรอให้คุณปู่ขึ้นไปดูว่าเกิดอะไรบ้าง จะได้มาเล่าให้คนอื่น ๆ ที่ชั้นล่างฟัง

การสนทนาเริ่มขึ้นจากระยะไกล

เด็กสาวที่ดูราวกับเป็นนักเรียนมัธยมปลายพูดอย่างมีความสุขว่า "ฮ่าฮ่า ซาเวียร์นี่มีรสนิยมที่ไม่เลวเลยเนี่ย แม้ว่าเขาจะเอาเสื้อสูทคลุมหน้าเธอไว้ แต่ฉันว่า ฉันก็ยังเห็นเธออยู่ดี อนาคตพี่สะใภ้ฉันน่ะ เธอใส่เสื้อผ้าที่เรียบง่ายและดูสบายมาก ดูแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับผู้หญิงโลภและหายนะคนอื่นที่ฉันจินตนาการเอาไว้อีกนะ”

เด็กสาวอีกคนเห็นด้วยและพูดว่า “แน่นอน ซาเวียร์ จู้จี้จุกจิกมากจะตายไป ในเมื่อเขาจริงจังขนาดนี้ เขารู้ว่าผู้หญิงแบบไหนที่เหมาะกับการเป็นภรรยา อนิจจา ฉันหวังว่าซาเวียร์จะเป็นห่วงเธอเสมอแม้ว่าพวกเขาจะแต่งงานกันแล้วและคงไม่ทำให้เธอผิดหวังนะ”

...

บลองช์ถือแก้วน้ำผลไม้อยู่ในมือ เขาดื่มเสร็จและวางลงบนโต๊ะทำให้เกิดเสียงดัง

“หายโกรธแล้วเหรอ?” สายตาที่สงบนิ่งของลุคกลายเป็นเย็นชาในทันใด

“อ๋อ พ่อยังได้ยินเสียงอยู่รอบตัวพ่ออยู่อีกเหรอครับ? ตอนนี้พ่อกำลังถามผมว่า ผมบ้าไปแล้วรึเปล่าเนี้ยนะ?!” บลองช์พูดเหมือนผู้ใหญ่เล็กน้อย ขณะติเตียนผู้เป็นพ่อ “ผมรู้สึกแย่มากครับ ลุงซาเวียร์หาคุณป้ามาได้แล้ว แต่พ่อล่ะครับ? พ่อยังง้อน้าบีไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ผมน่ะอยากโยนส่วนที่ได้รับมาจากพ่อทิ้งไปให้หมดเลย ไม่อย่างนั้นนะ ผมคงจะโตเป็นผู้ชายอายุเกือบสามสิบที่ยังหาภรรยาไม่ได้สักคน”

ลุคแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน แต่จิตใจของเขากลับล่องลอยไปที่ภาพริมฝีปากสีชมพูอ่อนของเบียงก้าและใบหน้าที่เป็นธรรมชาติและเต็มไปด้วยกลิ่นอายของหญิงสาวนั้น ในไม่ช้า เขาก็รู้สึกว่าความแข็งแกร่งที่เคยมีได้ละลายจางหายไปทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม เขาขมวดคิ้วอย่างรวดเร็วและระงับความรู้สึกต้องการและโหยหานั้นลง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก