พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 135

ใบหน้าของเบียงก้าแดงขึ้น

บรรยากาศในรถเงียบลงและถูกความตึงเครียดเข้าเติมเต็มแทน

เธอซุกตัวไปกับเบาะโดยสารในรถของเขา ไม่รู้ว่าทำไม เวลาที่เขาอยู่ข้างกาย เบียงก้าถึงรู้สึกดีขึ้นอย่างง่ายดายขนาดนี้

หลังจากครุ่นคิดเรื่องนี้มานาน เบียงก้าถือว่าความรู้สึกปลอดภัยเหล่านั้นมาจากความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างเธอกับเขา

การมีพี่ชายอยู่เคียงข้างนั้นทำให้เธอรู้สึกมั่นคง แนวคิดนั้นฟังดูเข้าท่าทีเดียว เพราะนั่นคือเรื่องปกติของสายสัมพันธ์พี่น้อง

เบียงก้าเผลอหลับไปทีละน้อย

เธอรู้สึกโล่งใจที่ในที่สุดก็ค้นพบที่ที่เหมาะสมสำหรับเธอ จากมุมมองด้านจิตวิทยาแล้ว การที่เธอถือว่าเขาเป็นพี่ชายนั้น ทำให้เวลาที่พวกเขาต้องอยู่กันตามลำพังนั้นยังถือว่าไม่ผิดศีลธรรม

ลุคขับรถไปที่ด่านเก็บค่าผ่านทาง เมื่อผ่านด่านนั่นมาแล้ว เขาเหลือบมองเบียงก้าที่ซุกตัวไปกับเบาะ หลายวันมานี้เธอกินไม่ได้นอนไม่หลับจนเกือบจะเป็นลม ในที่สุด เธอก็ได้พักเสียที

ลุคขับรถไปบนถนนได้อย่างมั่นคง เขาหันไปมองยังที่นั่งโดยสารเป็นระยะ ๆ และรู้สึกโล่งใจที่เธอยังหลับสนิทอยู่

เมื่อเขามาถึงเมืองชนบทที่ซึ่งถนนของเมืองนั้นเป็นหลุมเป็นบ่ออย่างเลี่ยงไม่ได้

เมื่อเบียงก้าตื่นขึ้น ร่างของเธอทั้งเจ็บและไม่สบายตัว เธอมองไปรอบ ๆ ก่อนจะตระหนักได้ว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ใด

เธอจับเข้าที่เสื้อคลุมด้วยนิ้วมือของตัวเอง และมองไปที่ชายผู้นั่งอยู่บนเบาะฝั่งคนขับ “ขอโทษ ฉันเผลอหลับไป”

ลุคจดจ่ออยู่กับการขับรถ เขาเลี้ยวก่อนจะขับตรงไปที่บ้านของเธอ เขาถามอย่างเป็นกันเองว่า “ทำไมต้องขอโทษที่เผลอหลับด้วยล่ะ?”

เบียงก้าอ้าปากแต่ไม่รู้จะพูดอะไร

เขาขับเข้ามาในเมืองเล็ก ๆ นี่กลางดึกเพื่อช่วยเธอตามหาปู่ แถมเขาต้องขับรถเป็นเวลานาน คนขับอย่างเขาคงจะทั้งเหงาและเบื่อหน่าย หากมีใครสักคนคุยเป็นเพื่อนตลอดทางมันคงจะดีกว่า

แต่เธอดันเผลอหลับไปเสียอย่างนั้น

การขับรถมาที่นี่คงน่าเบื่อเหลือเกิน

...

ณ เมืองเอ

ซาเวียร์ออกไปสังสรรค์จนค่อนคืนแล้วถึงกลับมาบ้าน

แดเนียลผู้ซึ่งเพิ่งจะผล็อยหลับไปได้ไม่นานต้องสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะเสียงรถของซาเวียร์ปลุกเขาขึ้นมา

หลังจากตื่นขึ้น เขาผลักร่างของภรรยาที่นอนหลับอยู่ข้าง ๆ “ตื่นสิคุณ นี่ ตื่นสิ”

ป้าของลุคตื่นขึ้น และมองไปยังสามีด้วยความงุนงง

“นี่ลูกเราเพิ่งกลับมาเหรอ? เจ้าลูกไม่ดี! เจ้าลูกคนนี้มันรู้ไหมว่านี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว?!” คุณท่านแทนเนอร์โกรธอย่างไร้ที่ระบาย เนื่องจากลูกชายโตเป็นหนุ่มใหญ่แล้ว ครั้นจะให้เขาตีเพื่อสั่งสอนก็คงไม่ได้

คุณนายแทนเนอร์ลุกขึ้นดูเวลา นี่มันดึกมากแล้วจริง ๆ

ก่อนที่ลูกชายจะถูกส่งเข้าเรือนจำไป ซาเวียร์มักจะออกไปสังสรรค์ในตอนกลางคืน แล้วกลับมาบ้านตอนรุ่งสาง จนในที่สุด งานเลี้ยงที่แสนติดพันนั่นก็ทำให้เขาต้องเข้าไปนอนในตาราง

“ฉันจะลงไปดูสักหน่อย คุณอยู่ที่นี่นะคะ” คุณนายแทนเนอร์กังวลเหลือเกินว่าถ้าสามีเป็นคนลงไป เขาจะทะเลาะกับลูกชายอีก ทันทีที่พูดจบ เธอก็คว้าเอาเสื้อคลุมนอนและสวมรองเท้าแตะ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

คุณแทนเนอร์ถอนหายใจแล้วเอนหลังไปกับหัวเตียง เขานอนไม่หลับเพราะลูกชายตัวดี ก่อนจะกระแทกหมัดลงบนหมอนใบเก่า

หลังจากที่คุณนายแทนเนอร์ลงมาจากชั้นบน เธอก็ได้เห็นว่าลูกชายของตัวเองกลับเข้ามาจากข้างนอกพอดี

เมื่อเข้าเดินเข้าประตูมา ซาเวียร์เงยหน้าขึ้นมองแม่ที่ดูหัวเสียของตัวเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก