ใบหน้าของเบียงก้าแดงขึ้น
บรรยากาศในรถเงียบลงและถูกความตึงเครียดเข้าเติมเต็มแทน
เธอซุกตัวไปกับเบาะโดยสารในรถของเขา ไม่รู้ว่าทำไม เวลาที่เขาอยู่ข้างกาย เบียงก้าถึงรู้สึกดีขึ้นอย่างง่ายดายขนาดนี้
หลังจากครุ่นคิดเรื่องนี้มานาน เบียงก้าถือว่าความรู้สึกปลอดภัยเหล่านั้นมาจากความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างเธอกับเขา
การมีพี่ชายอยู่เคียงข้างนั้นทำให้เธอรู้สึกมั่นคง แนวคิดนั้นฟังดูเข้าท่าทีเดียว เพราะนั่นคือเรื่องปกติของสายสัมพันธ์พี่น้อง
เบียงก้าเผลอหลับไปทีละน้อย
เธอรู้สึกโล่งใจที่ในที่สุดก็ค้นพบที่ที่เหมาะสมสำหรับเธอ จากมุมมองด้านจิตวิทยาแล้ว การที่เธอถือว่าเขาเป็นพี่ชายนั้น ทำให้เวลาที่พวกเขาต้องอยู่กันตามลำพังนั้นยังถือว่าไม่ผิดศีลธรรม
ลุคขับรถไปที่ด่านเก็บค่าผ่านทาง เมื่อผ่านด่านนั่นมาแล้ว เขาเหลือบมองเบียงก้าที่ซุกตัวไปกับเบาะ หลายวันมานี้เธอกินไม่ได้นอนไม่หลับจนเกือบจะเป็นลม ในที่สุด เธอก็ได้พักเสียที
ลุคขับรถไปบนถนนได้อย่างมั่นคง เขาหันไปมองยังที่นั่งโดยสารเป็นระยะ ๆ และรู้สึกโล่งใจที่เธอยังหลับสนิทอยู่
เมื่อเขามาถึงเมืองชนบทที่ซึ่งถนนของเมืองนั้นเป็นหลุมเป็นบ่ออย่างเลี่ยงไม่ได้
เมื่อเบียงก้าตื่นขึ้น ร่างของเธอทั้งเจ็บและไม่สบายตัว เธอมองไปรอบ ๆ ก่อนจะตระหนักได้ว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ใด
เธอจับเข้าที่เสื้อคลุมด้วยนิ้วมือของตัวเอง และมองไปที่ชายผู้นั่งอยู่บนเบาะฝั่งคนขับ “ขอโทษ ฉันเผลอหลับไป”
ลุคจดจ่ออยู่กับการขับรถ เขาเลี้ยวก่อนจะขับตรงไปที่บ้านของเธอ เขาถามอย่างเป็นกันเองว่า “ทำไมต้องขอโทษที่เผลอหลับด้วยล่ะ?”
เบียงก้าอ้าปากแต่ไม่รู้จะพูดอะไร
เขาขับเข้ามาในเมืองเล็ก ๆ นี่กลางดึกเพื่อช่วยเธอตามหาปู่ แถมเขาต้องขับรถเป็นเวลานาน คนขับอย่างเขาคงจะทั้งเหงาและเบื่อหน่าย หากมีใครสักคนคุยเป็นเพื่อนตลอดทางมันคงจะดีกว่า
แต่เธอดันเผลอหลับไปเสียอย่างนั้น
การขับรถมาที่นี่คงน่าเบื่อเหลือเกิน
...
ณ เมืองเอ
ซาเวียร์ออกไปสังสรรค์จนค่อนคืนแล้วถึงกลับมาบ้าน
แดเนียลผู้ซึ่งเพิ่งจะผล็อยหลับไปได้ไม่นานต้องสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะเสียงรถของซาเวียร์ปลุกเขาขึ้นมา
หลังจากตื่นขึ้น เขาผลักร่างของภรรยาที่นอนหลับอยู่ข้าง ๆ “ตื่นสิคุณ นี่ ตื่นสิ”
ป้าของลุคตื่นขึ้น และมองไปยังสามีด้วยความงุนงง
“นี่ลูกเราเพิ่งกลับมาเหรอ? เจ้าลูกไม่ดี! เจ้าลูกคนนี้มันรู้ไหมว่านี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว?!” คุณท่านแทนเนอร์โกรธอย่างไร้ที่ระบาย เนื่องจากลูกชายโตเป็นหนุ่มใหญ่แล้ว ครั้นจะให้เขาตีเพื่อสั่งสอนก็คงไม่ได้
คุณนายแทนเนอร์ลุกขึ้นดูเวลา นี่มันดึกมากแล้วจริง ๆ
ก่อนที่ลูกชายจะถูกส่งเข้าเรือนจำไป ซาเวียร์มักจะออกไปสังสรรค์ในตอนกลางคืน แล้วกลับมาบ้านตอนรุ่งสาง จนในที่สุด งานเลี้ยงที่แสนติดพันนั่นก็ทำให้เขาต้องเข้าไปนอนในตาราง
“ฉันจะลงไปดูสักหน่อย คุณอยู่ที่นี่นะคะ” คุณนายแทนเนอร์กังวลเหลือเกินว่าถ้าสามีเป็นคนลงไป เขาจะทะเลาะกับลูกชายอีก ทันทีที่พูดจบ เธอก็คว้าเอาเสื้อคลุมนอนและสวมรองเท้าแตะ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
คุณแทนเนอร์ถอนหายใจแล้วเอนหลังไปกับหัวเตียง เขานอนไม่หลับเพราะลูกชายตัวดี ก่อนจะกระแทกหมัดลงบนหมอนใบเก่า
หลังจากที่คุณนายแทนเนอร์ลงมาจากชั้นบน เธอก็ได้เห็นว่าลูกชายของตัวเองกลับเข้ามาจากข้างนอกพอดี
เมื่อเข้าเดินเข้าประตูมา ซาเวียร์เงยหน้าขึ้นมองแม่ที่ดูหัวเสียของตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก