พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 138

สรุปบท บทที่ 138 เขายกเบียงก้าขึ้นมา แล้วกดริมฝีปากตัวเองลงบนริมฝีปากของเธอ: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก

บทที่ 138 เขายกเบียงก้าขึ้นมา แล้วกดริมฝีปากตัวเองลงบนริมฝีปากของเธอ – ตอนที่ต้องอ่านของ พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก

ตอนนี้ของ พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก โดย พะเนินเทินทึก ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนติกทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 138 เขายกเบียงก้าขึ้นมา แล้วกดริมฝีปากตัวเองลงบนริมฝีปากของเธอ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“สองเลยเหรอ? เร็วจริง! พวกคุณมีลูกกันทั้งสองคนแหนะ…” แม่ของเด็กมองมาที่เบียงก้าด้วยความตระหนก “เธอดูไม่เหมือนคนที่เคยมีลูกมาก่อนเลยนะ! ดูไม่ออกเลย! แม่ลูกสอง!

เบียงก้ายิ้มอย่างรู้สึกไม่ดีนัก

หลังจากพูดคุยกับพักหนึ่ง ก่อนออกจากเมือง ลุคเรียกเพื่อนร่วมชั้นไปคุยกันเพียงลำพัง

เขาดูจริงจังมาก ในตอนที่กำลังพูดบางอย่างกับเพื่อนเก่าคนนั้น เพื่อนเก่าที่กำลังอุ้มลูกอยู่ฟังอย่างตั้งใจ เขาพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า

ระหว่างทางกลับเมืองเอ เบียงก้าไม่ได้เอ่ยถามอะไรเขา

เธอหลับในรถไปอย่างงุนงง

เมื่อกลับเข้ามาที่ใจกลางเมือง ถนนก็คับคั่งไปด้วยรถราอีกครั้ง ลุคขับรถให้ช้าลงเพราะเกรงว่าจะทำให้เธอตื่น เธอหลับมาตลอดทางจนถึงอพาร์ตเมนต์

เธอลืมตาตื่นขึ้นอย่างเชื่องช้าด้วยอาการปวดประจำเดือน

เมื่อเบียงก้าลืมตาตื่น เธอหายใจเข้าลึก ๆ สองสามหน เธอใช้มือทั้งสองข้างกดลงที่หน้าท้องน้อย ใบหน้าของเธอซีดลงกว่าเก่า มีกระทั่งชั้นเหงื่อบางที่ผุดขึ้นบนหน้าผาก

ลุคที่เพิ่งสูบบุหรี่เสร็จด้านนอกรถ หันมาเห็นใบหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะเจ็บปวดแทบขาดใจ

“เป็นอะไร? ปวดมากรึเปล่า?” ลุคเปิดประตู แล้วจับเข้าที่ใบหน้าของเธอด้วยคิ้วที่ขมวดเป็นปม

เบียงก้าคิดอะไรไม่ออก เธอได้แต่หลับตาและพยักหน้ารับ

“ขึ้นไปนอนพักข้างบนก่อนเถอะ” ลุคอุ้มเธอออกมาอย่างไม่ยอมให้เสียเวลาคิด

เบียงก้าไม่ยอมให้เขาอุ้ม

เธออยากจะเดินไปด้วยตัวเอง

“อย่าดิ้นนะ ไม่อย่างนั้น ผมจะให้เจสันกับตำรวจถอนกำลังให้หมด” ลุคไม่ใช้เหตุผลกับเธอเลย และไม่อยากจะต้องทนพูดกับเธอให้มากความ ทางที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์มีแค่การใช้กำลังบังคับเท่านั้น

แน่นอนว่า เธอหยุดดิ้นในทันที

ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการตามหาปู่ของเธออีกแล้ว

เธอเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาเหมือนคนทั่วไป มีแค่คนที่มีอำนาจอย่างลุค ครอว์ฟอร์ดเท่านั้นที่จะทำบางอย่างได้เมื่อเทียบกับคนธรรมดา

นี่คือความจริงของเรื่องนี้ เป็นความจริงที่โหดร้ายและทรงอำนาจ

...

อพาร์ตเมนต์ของลุคนั้นเพียบพร้อมไปทุกอย่าง หากแต่ลุคกลับทำอะไรไม่ถูกเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่กำลังปวดท้องเพราะประจำเดือน

เบียงก้าถูกบังคับให้นอนอยู่บนเตียงอันใหญ่โตของเขา เธอได้แต่จิกผ้าห่มไว้

ขาเรียวยาวของลุคยืนเต็มความสูงอยู่ในครัว ขณะมองดูเครื่องครัวใหม่เอี่ยมที่ไม่เคยถูกใช้งาน เขาอับจนหนทาง

โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น

เป็นสายเรียกเข้าจากเจสัน

“สถานการณ์เป็นยังไง?” ลุครับสาย

เจสันไม่อ้อมค้อมและพูดอย่างตรงประเด็น “มีสองเรื่องอย่างครับ อย่างแรก เรายังหาปู่ของคุณเรย์นไม่พบ ตำรวจบอกว่าพวกเราสามารถแยกเขาออกจากอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือการถูกใครทำร้ายได้ครับ เนื่องจากยังไม่มีรายงานที่ตรงกับรูปพรรณสัณฐาน ผมเข้าไปที่สถานีโทรทัศน์มาตามคำสั่งของคุณ และมีการประกาศหาคนหายแล้วเมื่อเช้านี้ ตอนนี้เราเหลือแค่รอให้มีใครสักคนโทรมาขอรับรางวัลจากประกาศครับ

“อย่างที่สองคือเรื่องเกี่ยวกับคืนที่คุณเรย์นถูกวางยานอนหลับ ผู้ดูแลสถานบันเทิงแห่งนั้นได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่าเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับ ฌอง แลงดอน คนรักเก่าของเธอครับ”

ตอนที่ลุคได้ยินชื่อของฌอง สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือก “ส่งมันเข้าไปนอนในคุกเดี๋ยวนี้!”

“ผมจะรีบจัดการส่งตำรวจไปครับ” เจสันรู้ว่าฌองเป็นหนามยอกอกของเจ้านาย

ละแวกบ้านเช่าของเบียงก้าอยู่ในความโกลาหล หญิงวัยกลางคนบางส่วนที่เห็นว่าปู่เธอถูกพวกอันธพาลหาเรื่องเมื่อคราวที่แล้วต่างกังวลกันว่าจะหาชายอาวุโสพบหรือไม่

ก่อนที่เจสันจะวางสาย เขาได้ยินเจ้านายของเขาที่อยู่ปลายสายเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย “ภรรยาเก่าคุณเคยปวดท้องตอนเป็นประจำเดือนไหม?”

"..."

เจสันชะงักไป แต่ก็ตอบตามตรง “ผมกับภรรยาเก่าหย่ากันเพราะเธอคิดว่าผมให้ความสนใจเธอไม่มากพอครับ ดังนั้น ผมจึงไม่แน่ใจกับเรื่องนี้เท่าไหร่”

ลุคทำท่าจะวางสาย

เจสันเห็นรถของซูแล่นเข้ามาใกล้ละแวกบ้าน จึงรีบพูดขึ้นว่า “มีผู้หญิงอยู่ตรงหน้าผมคนหนึ่งครับ เธอน่าจะมีประสบการณ์มากกว่าผมด้วย ผมขอถามเธอได้ไหม?”

เขาช่วยเธอบรรเทาความเย็นยะเยือกออกจากร่างกาย

เมื่อเบียงก้าเห็นการกระทำทุกอย่างของเขา เธอก็เริ่มร้องไห้อย่างหนักหน่วงจนร่างกายสั่นเทิ้ม เธอไม่รู้เลยว่าการปกปิดความจริงกับเขานั้นดีหรือร้ายอย่างไร

ตอนที่เธอรู้ว่าเธอกับเขามีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเดียวกัน เธอรู้สึกว่าคนที่บอกความจริงนั้นโหดร้ายเหลือเกิน

อลิสันทำร้ายเธอมากเหลือเกิน ทั้งยังทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานทางใจด้วย เบียงก้าสำลักสะอื้นไห้

เพราะอย่างนั้น เธอจึงไม่อยากให้ลุคทนอีกต่อไป เธอไม่อยากทำในสิ่งที่โหดร้ายแบบนั้นกับเขา

ลุคกอดเธอไว้ แต่ไม่กล้าจูบ เขาทำเพียงอุ่นมือเพื่อให้แผ่นหลังช่วงล่างของเธออุ่น และนวดห้องน้อยเธอเบา ๆ

“เราล้ำเส้นแล้ว เราสองคนล้ำเส้นไปแล้ว…” เบียงก้ารู้ว่าการที่พวกเขาทำเช่นนั้นมันล้ำเส้นไปแล้ว

แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่รู้อะไรเลย เธอจึงต้องเป็นคนแบกรับบาปอันหนักอึ้งนี้ไว้คนเดียว

“เส้นไหนล่ะที่พวกเราล้ำไป?” ลุคถาม

เบียงก้าอดทนต่อความเจ็บปวดทางกายและความทุกข์ทรมานทางใจด้วยการลุกขึ้นนั่ง แล้วเดินไปยังประตู เธอไม่กล้าพอที่จะตอบคำถามของเขา

เขาคว้าแขนเธอไว้แล้วถาม “คุณจะไปไหน?”

ลุครู้สึกได้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขา สิ่งนั้นเป็นกำแพงที่ขวางกั้นระหว่างเธอกับเขาเอาไว้ เขาจะไม่ได้รับคำตอบ และเธอก็จะต้องเก็บมันไว้อย่างเจ็บปวด

เขาโกรธเคือง แต่ไม่อยากระเบิดอารมณ์ใส่เธอ

แม้เธอจะเคยบอกว่าฌองเป็นคนที่พรากเขาและเธอออกจากกันได้ แต่เขาไม่เคยเชื่อเธอจนมาถึงทุกวันนี้

ฌองไม่ใช่คนดี และเบียงก้าก็ไม่ได้โง่มากถึงขนาดนั้น

“ฉันต้องกลับไปดูสถานการณ์ที่บ้านค่ะ ปวดประจำเดือนแค่นี้ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ”

ดวงตาลุ่มลึกของลุคเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก