เบียงก้าเข้าไปในรถไฟใต้ดิน
ระหว่างทางจากอพาร์ตเมนต์ของลุคจนถึงสถานีรถไฟใต้ดิน แม้จะไม่ได้หันกลับไปมอง แต่เธอก็รู้ว่าเขาตามมาอย่างเงียบ ๆ อยู่ตลอด เขายังกังวลเรื่องเธออยู่
รถไฟเริ่มเคลื่อนตัว และหลังจากผ่านไปหลายสถานี ในที่สุดก็ถึงที่หมายของเธอ
เบียงก้าออกจากรถไฟแล้วเดินไปที่ทางออก
…
ณ ระแวกบ้านของเบียงก้า
เธอเห็นเจสันกับตำรวจ
เธอเดินตรงเข้าไปหาเจสัน พอเขาเห็นเธอ เขาก็หยุดสูบบุหรี่แล้วหันมามองที่เธอ ตอนแรกเขาคิดว่าเธอกำลังอยู่กับคุณครอว์ฟอร์ด
“ขอบคุณที่ทำงานอย่างหนักนะคะ คุณดอยล์ กลับไปพักเถอะค่ะ” เบียงก้ากล่าวอย่างซาบซึ้งและตรึงใจ
เจสันรู้ว่างานของเขาคือการทำเพื่อคนอื่น แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนกล่าวขอบคุณเขาเช่นนี้ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเขินเล็กน้อย “ไม่เป็นไรครับ ถ้าคุณอยากจะขอบคุณใครสักคน ก็ขอบคุณคุณครอว์ฟอร์ดเถอะครับ”
เขาไม่ลืมที่จะให้ความดีความชอบของเจ้านายของตน
“บี!” ซูลงจากรถพร้อมแล็ปท็อปในมือ
เบียงก้าเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปยังซู
เจสันมองไปยังซูแล้วออกคำสั่ง “ขึ้นไปข้างบนกับเบียงก้าเถอะ”
ซูเข้าใจในความหมายของเจสัน
ตั้งแต่ที่ปู่ของเบียงก้าหายไป มันชัดเจนว่าเธอเป็นกังวล ดังนั้นในฐานะของเพื่อนร่วมงานแสนดีและเพื่อของเบียงก้า ซูรู้ดีว่าเธอควรมาเยี่ยมเบียงก้าบ้าง
แต่เมื่อเธอพบว่าเบียงก้าไม่อยู่บ้าน เพราะไปอยู่กับเจ้านาย แถมเธอยังต้องอยู่ช่วยเจสันอีก
“ไปกันเถอะ ปล่อยให้คุณดอยล์จัดการเรื่องนี้เถอะนะ”
ซูเอ่ยปากเรียกเบียงก้า
พวกเธอขึ้นชั้นบนไปด้วยกัน
เบียงก้าเปิดประตูออก บ้านเช่าของเธอเงียบสงัด
“นั่งก่อนนะ” หลังจากเอ่ยปากเชิญ เบียงก้าเดินเข้าไปในครัวเพื่อต้มน้ำสำหรับดื่ม
ซูยุ่งมาก เธอก้มหน้าก้มตาทำงานแล้วกล่าว “ปู่เธอไม่เป็นไรหรอกน่า อย่ามัวแต่กังวลเรื่องเขามากไปจนปล่อยให้ตัวเองป่วยสิ”
เบียงก้าจ้องไปที่เก้าอี้โยกที่ปู่ชอบนั่ง
…
หลังจากเซื่องซึมอยู่ทั้งวัน ร่างกายที่ไม่สู้ดีนักของเธอก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างมันแย่ลง
เมื่อซูทำงานเสร็จและเก็บแล็ปท็อปแล้ว เธอจึงหันไปมองเบียงก้า ก่อนจะพบว่าเบียงก้านอนขดตัวอยู่บนเตียงอย่างกับลูกแมวป่วย เธอดูน่าสงสารเหลือทน
ซูตัดสินใจค้างคืนที่นี่ต่อ
วันต่อมา อาการปวดประจำเดือนของเบียงก้านั้นหายไปหมดแล้ว
เมื่อเธอตื่นขึ้น ก็พบว่าซูยังไม่กลับไป เบียงก้าจึงเดินไปที่ห้องครัวเพื่อทำอาหารเช้า
ซูตื่นขึ้นเนื่องจากได้ยินความเคลื่อนไหวภายในบ้าน ก่อนจะมองบรรยากาศที่แปลกตาไป ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนเธอหลับไปในบ้านของเบียงก้า
ในห้องครัว
เบียงก้าตอกไข่สองใบใส่ชาม หลังจากตีจนเข้ากันแล้ว จึงวางชามไข่ลง
เธอหยิบมีดทำครัวขึ้นมาและหั่นผักที่ล้างเอาไว้แล้ว
ในเดือนนี้ อากาศตอนเช้าหนาวจัด และอาจทำให้เป็นหวัดได้หากเสื้อผ้าที่ใส่น้อยชิ้นเกินไป เบียงก้าอดไม่ได้ที่จะกังวลว่าปู่จะเป็นอย่างไรในตอนนี้ เขาใส่เสื้ออุ่นพอรึเปล่า? หรือกำลังหนาวเหน็บอยู่กันนะ?
เธอเอาแต่คิดถึงเรื่องพวกนี้ มีดทำครัวที่กำลังหั่นผักอยู่จึงบาดนิ้วชี้ข้างซ้ายของเธอเขาเพราะความสะเพร่า
กว่าเบียงก้าจะรู้สึกเจ็บก็ใช้เวลาพอสมควร
ซูควานหาอุปกรณ์อาบน้ำออกจากกระเป๋า แล้วนำเข้าห้องอาบน้ำไป ตอนที่เธอผ่านทางเข้าห้องครัว เธอก็บังเอิญเห็นว่านิ้วชี้ข้างซ้ายของเบียงก้านั้นมีเลือดออก
“เกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย?” ซูทิ้งอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำในมือ แล้วรีบวิ่งเข้ามาในครัว พลางดึงมือของเบียงก้ามาดูและตัวสั่นทันทีที่เห็นเลือด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก