พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 149

“หัวหน้าแผนกทีมออกแบบแจ้งผมว่า พนักงานหน้าใหม่ในแผนกออกแบบที่ชื่อว่าเบียงก้า เรย์น เธอมีบ้านเกิดตั้งอยู่ในเมืองที่เรากำลังจะพัฒนาในโครงการของเรา ผมจึงตั้งใจจะพบเธอในที่ประชุมวันนี้ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีของที่นั่น แต่หัวหน้าทีมแจ้งผมว่า เธอไม่ได้มาทำงาน...” หลังจากที่เจ้าหน้าที่อาวุโสพูดจบ เจ้าหน้าที่ก็เงยหน้าขึ้นมองท่านประธาน

เมื่อสังเกตเห็นใบหน้าของท่านประธาน เขาก็พบว่าเจ้านายของเขาไม่ได้มีท่าทางหงุดหงิด แต่ตรงกันข้าม เขากลับแสดงรอยยิ้มจาง ๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนออกมา

รอยยิ้มคงอยู่ครู่หนึ่ง

หลังจากทำงานที่บริษัท ที คอร์ปอเรชั่นมานานหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเจ้านายยิ้ม…และดูเหมือนว่าเขากำลังยิ้มให้กับลูกน้องที่ขาดงานโดยไม่มีเหตุผล

สายตาสุดเฉียบคมของลุคจับจ้องไปยังแบบร่างการออกแบบของเมือง

เขาไม่แปลกใจเลยที่เบียงก้าไม่ได้มาทำงาน

ภายในสถานีรถไฟใต้ดิน

เบียงก้าซื้อตั๋วรถไฟแล้วเดินเข้าไปข้างใน

ไม่ไกลนัก เฟย์กำลังพาเด็กน้อยสองคนไปยืนรอรถไฟด้วยกัน

ไร้อารมณ์ใด ๆ บนใบหน้าของเบียงก้า

ก่อนหน้านี้ตอนที่ยืนอยู่ตรงล็อบบี้ของบริษัท เธอทำได้เพียงมองดูเฟย์เดินตามเจสันขึ้นไปที่ชั้นบนสุด

เธอไม่สามารถขึ้นไปกับพวกเขาได้

เพราะนั่นคือห้องทำงานของลุค โดยทั่วไปแล้ว ถ้าหากพนักงานไม่ได้รับคำสั่งอย่างเป็นทางการ ก็จะไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวได้

ในระหว่างที่เธอรอให้เฟย์กลับลงมา เบียงก้าก็รู้สึกมีลางสังหรณ์แปลก ๆ

'เฟย์รู้จักลุคด้วยเหรอ?

'พวกเขาเกี่ยวข้องกันอย่างไร?'

ในเวลานั้นเอง เธอก็หวนนึกถึงเมื่อหลายปีก่อน เธอจำได้ว่าเฟย์เป็นแม่บ้านหญิงของนายจ้างคนนั้น ซึ่งมีหน้าที่ดูแลทุกอย่างให้กับเขาแต่เพียงผู้เดียว

เมื่อห้าปีที่แล้วสมัยเรียนอยู่ต่างประเทศ เธอได้เห็นเศรษฐีมากมายหลายสิบคนผ่านรายการโทรทัศน์ที่นีน่าเปิดดู และตั้งแต่นั้นมา เธอก็ไม่อยากนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีก่อนอีกเลย

มันน่ารังเกียจและน่าขยะแขยง เธอเกลียดแม้แต่ตนเองที่ปล่อยให้โชคชะตาที่แสนโหดร้ายเล่นงานเธออยู่ฝ่ายเดียว และเธอกลับไร้พลังใด ๆ เพื่อต่อกรกับสิ่งที่เลวร้ายเหล่านั้นเลย

แต่ในตอนนี้ เธอได้พบกับเฟย์อีกครั้ง และเธอก็เห็นว่าเฟย์ขึ้นไปที่บริษัท ที คอร์ปอเรชั่นเพื่อเข้าพบลุคที่ชั้นบนสุด เธอจึงอดไม่ได้ที่จะนึกถึงช่วงเวลาในอดีตเหล่านั้น

ในค่ำคืนที่ยาวนาน เธอถูกบังคับให้อดทนต่อตัณหาอันแรงกล้าของชายผู้นั้น เธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นโคโลญจน์ที่หอมกรุ่นของเขา…

เหมือนที่เธอได้สัมผัสจากลุค

เมื่อจินตนาการถึงเรื่องราวเหล่านั้น มันคงเป็นไปไม่ได้ใช่ไหมว่าเขาคือลุค?

เมื่อเฟย์ลงมาพร้อมกับเด็กทั้งสองคน เบียงก้าก็รู้สึกว่าเซลล์เม็ดเลือดภายในร่างกายของเธอแข็งตัว

ลานี่กับเรนนี่เกาะติดเฟย์และเรียกเธอว่าคุณย่าเฟย์

เด็กน้อยวัยห้าขวบสองคนดูเหมือนจะคุ้นเคยกับคุณแม่บ้านมาก...

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างในตอนนี้มันเป็นแค่การสันนิษฐานเท่านั้น

เพราะย้อนกลับไปตอนนั้น เฟย์บอกกับเธอว่าเธอได้ให้กำเนิดทารกเพศหญิง...

แต่ลานี่และเรนนี่เป็นฝาแฝดกัน

ภายในสถานีรถไฟใต้ดิน เธอยืนอยู่ข้างหลังเฟย์และเด็กน้อยทั้งสองคน เธอกำลังทรมานจิตใจตัวเองด้วยความคิดเหล่านั้น

หรือว่าเฟย์จงใจหลอกเธอรึเปล่า?

เธอโกหกว่าทารกมีแค่เด็กผู้หญิงหรือไม่?

เบียงก้าพยายามนึกถึงขนาดหน้าท้องของเธอในตอนนั้น ก็ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรแปลกประหลาด แต่เธอไม่เคยมีประสบการณ์ในการตั้งครรภ์มาก่อน ดังนั้นจึงไม่สามารถบอกได้ว่าเธอท้องลูกแฝดหรือไม่

และเธอก็มีอายุเพียงแค่ 18 ปีเท่านั้น

ทุกผลลัพธ์ที่เธอได้รับจากการตรวจสอบของแพทย์อาจเป็นไปตามคำสั่งของนายจ้างซึ่งไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมดก็เป็นได้

เบียงก้าครุ่นคิดอีกครั้ง 'ถ้าหากว่านายจ้างคนนั้นคือลุคจริง ๆ แล้วทำไมเขาถึงต้องปกปิดตัวตนด้วยล่ะ?'

ในคืนนั้นที่เธอถูกปิดตาและอยู่ภายใต้ร่างของชายผู้นั้น เธอจึงไม่สามารถบอกได้ว่าเขามีหน้าตาเป็นอย่างไร

แต่ในระหว่างนั้น เขาได้เห็นใบหน้าและร่างกายของเธอทุกส่วน...

เมื่อคิดเช่นนั้นเธอก็ยิ่งรู้สึกเหนื่อยใจ เธอเริ่มตั้งคำถามมากมายกับตัวเองและไม่แน่ใจว่านายจ้างของเฟย์คือลุครึเปล่า...

รถไฟมาถึงแล้ว

เฟย์พาเด็กสองคนขึ้นไปบนรถไฟ

หลังจากที่เบียงก้าฟื้นคืนสติ เธอก็ถือแล็ปท็อปและเดินตามเข้าไป

รถไฟเริ่มเคลื่อนตัวออกไป เบียงก้ายืนเบียดกับฝูงชนที่แออัด ในเวลานั้น มีชายหนุ่มยืนขึ้นและลุกให้เฟย์นั่ง

"บนรถไฟใต้ดินคนเยอะมาก..." บลองช์กวาดสายตาไปรอบ ๆ

เบียงก้าซ่อนตัวเองเพื่อหลบสายตาจากเด็กทั้งสอง

“พี่ลานี่ พอโตขึ้นแล้ว พี่ไปขับรถไฟได้ไหม? แล้วหนูจะได้นั่งรถไฟทุกวันเลย” เรนนี่ถามพี่ชายของตนด้วยใบหน้าที่ไร้เดียงสา

เฟย์มองลงไปที่เด็กน้อยทั้งสองและยิ้มอย่างเอ็นดู

หลังจากผ่านไปหลายสถานี รถไฟที่มีผู้คนหนาแน่นในตอนแรกก็เริ่มมีผู้โดยสารน้อยลง

เฟย์มองดูเด็ก ๆ และมองไปรอบ ๆ เป็นครั้งคราวเพื่อให้แน่ใจว่าเด็กทั้งสองปลอดภัย เธอกังวลเรื่องความปลอดภัยของพวกเขา

เพราะเด็กทั้งสองคนไม่ได้มาจากครอบครัวธรรมดาทั่วไป แต่พวกเขาเป็นลูกชายและลูกสาวของประธานบริษัท ที คอร์ปอเรชั่น เมื่อต้องพาพวกเขาออกมาเช่นนี้ เธอจึงรู้สึกเป็นกังวลนัก

เธอจะต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

ความจริงที่ว่านายน้อยลุคอนุญาตให้เธอพาเด็กทั้งสองคนขึ้นรถไฟไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะถ้าหากว่าผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดรู้เรื่องนี้ เขาจะต้องห้ามไม่ให้ลุคทำเช่นนี้เด็ดขาด

เมื่อตู้รถไฟมีคนน้อยลงกว่าก่อนหน้านี้ เบียงก้าจึงเดินไปนั่งลงในตู้ถัดไป

เธอเหลือบมองไปที่เฟย์ที่กำลังดูแลลานี่และเรนนี่เป็นครั้งคราว

ก่อนหน้านี้ที่มีผู้โดยสารหนาแน่น ลานี่และเรนนี่จำในสิ่งที่พ่อของเขาสั่งได้ เขาไม่ควรทำให้คุณย่าเฟย์ต้องวุ่นวายใจ

แต่ในตอนนี้ผู้โดยสารน้อยลง

เฟย์อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกล เมื่อรถไฟกำลังมุ่งหน้าไปยังเขตเมืองที่เธออยู่ ผู้คนก็เริ่มน้อยลงเป็นอย่างมาก

“รถไฟคันนี้เป็นของผมแล้ว! เย้!”

ลานี่ตะโกนขึ้นภายในขบวนรถไฟที่ว่างเปล่า

“ของหนูต่างหาก พี่ลานี่ พี่มีหน้าที่ขับรถไฟ ส่วนหนูเป็นคนนั่งเองนะ” เรนนี่เม้มปาก “หนูอยากให้คุณพ่อซื้อรถไฟใต้ดินให้เราจังเลย”

“มันไม่ใช่รถไฟใต้ดินนะ แต่เป็น…” ในขณะที่ลานี่พูดเช่นนั้น ทันใดนั้น สายตาของเขาก็เหลือไปเห็นใครบางคน “น้าบี?” เขาจำเธอได้แม้ว่าจะได้เห็นจากด้านหลังของเธอก็ตาม

เรนนี่เหลือบมองไปยังทิศทางที่พี่ชายของเธอกำลังจับจ้อง

รถไฟมาหยุดอยู่ที่สถานีหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากพื้นที่ที่เฟย์อาศัยอยู่ไม่ไกล

เมื่อเบียงก้าเห็นว่าลานี่กำลังเดินเข้ามา เธอจึงรีบยืนขึ้น ในเวลาเดียวกัน เมื่อสบตากับลานี่ เธอก็เหลือบมองเห็นเฟย์ที่มีท่าทางประหลาดใจ

เมื่อเบียงก้าพิจารณาดูจากสีหน้าของเฟย์แล้ว เธอก็รู้ได้ทันทีว่าเฟย์จำเธอได้

“ลานี่ เรนนี่ กลับมานี่นะลูก!” เฟย์กลัวว่าเบียงก้าจะแย่งพวกเขาไป ดังนั้นเธอจึงรู้สึกตื่นตระหนกและดึงมือเล็ก ๆ ของเด็กทั้งสอง

“น้าบี มาทำอะไรที่นี่เหรอครับ?” ลานี่เอ่ยถามในขณะที่แขนของเขาถูกเฟย์ดึงเอาไว้

“ฉันกำลังจะไปทำงานจ้ะ” เบียงก้าอธิบายให้เด็กชายฟังด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวพลางจ้องมองไปยังเฟย์

ทั้งสองสบตากัน

เบียงก้าพยายามสงบนิ่งและกล่าวคำทักทายเฟย์ "สวัสดีค่ะ"

เฟย์ไม่สนใจคำทักทายของเธอและขมวดคิ้วพลางครุ่นคิด 'ลานี่และเรนนี่รู้จักกับผู้หญิงคนนี้ด้วยเหรอ? พวกเขาเคยพบกันได้อย่างไร? พวกเขารู้ไหมว่าผู้หญิงคนนี้เป็นแม่ของพวกเขา?

'นายน้อยลุครู้หรือไม่ว่าเด็ก ๆ ได้พบกับแม่ของพวกเขาแล้ว?'

รถไฟมาหยุดอยู่ที่สถานี

เบียงก้ายิ้มให้เด็ก ๆ ก่อนจะเดินลงจากรถไฟ

ลานี่และเรนนี่ตะโกนร้องเรียกเธอเพราะเด็กน้อยทั้งสองคนต้องการลงไปกับเธอ แต่เฟย์ดึงพวกเขาเข้ามา จนกระทั่งประตูรถไฟใต้ดินปิด เธอมองดูเบียงก้าเดินออกไป

เบียงก้านั่งลงบนที่นั่งภายในสถานีรถไฟใต้ดินอยู่เป็นเวลานาน

ไม่ว่าเธอจะพยายามสงบสติอารมณ์มากแค่ไหน แต่ความรู้สึกของเธอก็กลับยุ่งเหยิงยิ่งขึ้น

นี่เธอได้ให้กำเนิดลูกสองคนที่แข็งแรงและเฉลียวฉลาดกับพี่ชายแม่เดียวกันอย่างนั้นเหรอ?

มันไม่จริง

‘หรือว่าลานี่และเรนนี่จะเกิดมาจากผู้หญิงคนอื่น?’

เบียงก้าส่ายหน้าเพื่อต้องการขจัดสิ่งที่อยู่ภายในหัวของเธอออกไป จากนั้นเธอก็คาดเดาว่าอลิสันอาจโกหก ลุคกับเธอไม่ใช่พี่น้องกัน…

‘บลองช์และเรนนี่’ ‘บี อาร์ เบียงก้า เรย์น’

เมื่อความคิดเหล่านั้นเข้ามาในหัวของเธอ เธอก็รู้สึกว่าตนเองช่างโง่เขลาเสียไม่มี

จะบังเอิญขนาดนั้นได้อย่างไร?

โดยส่วนใหญ่แล้ว ชื่อของลูก ๆ จะตั้งตามพยัญชนะตัวหน้าของพ่อแม่

เบียงก้ายืนขึ้นและรีบเดินออกจากสถานีรถไฟใต้ดินไป เธอรีบตรงไปยังบริษัททันที ไม่มีวิธีใดที่จะได้ผลดีไปกว่าการไปถามลุคด้วยตัวเอง...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก